เริ่มต้นเดินทางจากเชียงของ จังหวัดเชียงราย
นั่งเรือข้ามไปฝั่งลาว เดินทางต่อโดยรถยนต์ สำคัญต้องติดต่อล่วงหน้าไว้ก่อน
คือต้องมีการวางแผนล่วงหน้า เส้นทางที่ครูเงาะและคณะ ในระหว่างเดินทางมีบรรยากาศ
เช่นไร ก็ชมได้จากภาพ และคำบรรยายของครูเงาะเอง เชิญทรรศนาครับ
การเดินทางครั้งนี้ จุดประสงค์เพื่อไปงานแต่งงานของหลาน ลูกชายคนที่ 2 ของต๋าโก(พี่ชายคนโต)ซึ่งเป็นคนจีนร้อยเปอร์เซนต์ ในการเดินทางครั้งนี้ ออกจากเชียงใหม่ด้วยรถตู้ ตี 4 กว่า ๆ ออกจากเชียงใหม่ ใช้เวลา 6 ชั่วโมงเนื่องจากคนขับรถพาหลงจนถึงอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย คณะเดินทางประกอบไปด้วย คุณฟาง เจเจ้(พี่คุณฟาง) น้าสี่ กาโก้(ลูกน้าสี่) อาหริ่ง(น้องชายคุณฟาง) และสามีคุณฟาง(ครูเงาะนั่นเอง)พร้อมครอบครัวอีก 2 ครอบครัว ประมาณ 14 คน รวมเบ็ดเสร็จ 20คน ออกจากด่านที่เมืองเชียงของของไทยเข้าประเทศลาวที่ด่านห้วยทรายโดยวิธีข้ามน้ำโขงทั้งสองขั้นตอนต้องสแตมป์ผ่าน VISA ทุกครั้ง ท่าเชียงของของไทย ส่วนหนึ่งของสัมภาระ คุณฟาง(ใส่หมวกส้ม) บล็อกเกอร์ที่ครูเงาะสมัครให้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ยังไม่ได้เขียนเอนทรี่ใด ๆ ลงไป บอกว่ากลับจากจีนคราวนี้เขียนแน่ ๆ นั่งข้าง ๆ เป็นเจเจ้ เห็นหน้าโผล่มาเป็น อ้วน นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่แลกเปลี่ยนมาเรียนที่คุณหมิง แสตป์ผ่านเข้าลาวทางท่าห้วยทรายได้ก็ได้รถ 11 ที่นั่ง (คุณฟางจัดการหามา) ขนของขึ้นหลังคาหมด ทั้ง 2 คัน ขึ้นนั่งรถ ด้วยความรวดเร็ว เสื้อเหลืองคือ กาโก้นั่งคู่กะน้าสี่ หลังก็เป็นเจ้ปุ้ มาดูบรรกากาศระหว่างทางของประเทศลาวกันนะครับ ชื่อเหมือนเขยลาวเป็นชื่อบริษัทนะครับ จริง ๆ แล้วอ่านว่า เบียร์ลาว ..............ที่มา เดินทางผ่านประเทศลาวตรงไปที่ท่าบ่อแต๋นของลาวซึ่งติดกับประเทศจีน สแตมป์ผ่าน VISA ออกจากประเทศลาว ถึงบ่อเต๋มแล้วครับ รถจอดรอนานหน่อยครับ พอดีจะเอ๋ กับคณะทัวร์ที่จะไป 12 ปันนา เป็น 2 คณะ คณะหนึ่ง 80 คน อีกคณะ 200กว่าคน รอคิวสแตมป์ ต.ม.ลาว ที่บ่อเต๋ม ขั้นตอนต่อไปสแตมป์ VISAเข้าประเทศจีน (เสียดายที่ด่านของจีนไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ )เดี๋ยวนี้ด่านของประเทศจีนเขาทันสมัย ก่อนเข้าด่านจะต้องไปถ่ายรูปตัวเองเข้าไว้จะมีเครื่องถ่ายรูปอัตโนมัติพอผ่านและยืนตรงก็จะถ่ายรูปเราเรียบร้อยเลย ต่อจากนั้นก็ไปต่อแถวประทับ VISA เข้าประเทศ จากนั้นก็พากันโกยอ้าว เพื่อจะมาขึ้นรถบัสนั่งไปคุณหมิง เอ ! จะว่านั่งก็ไม่ได้เพราะเป็นรถที่มีแต่ที่นอน นับแล้วได้ 40 ที่นั่งพอดี ราคารถต้องถามคุณฟางแต่ผู้เดียว เพราะเป็นคนจัดการเรื่องเงินของคณะ เพียงแต่เราเอาตัวและหัวของเรา พร้อมสัมภาระที่ติดแต่ละคนเหมือนจะไปนอนเมืองจีนซักเดือน หอบพะรุ่งพะรังผ่านด่านและขึ้นรถให้ทันเท่านั้นแหละ สาเหตุที่ต้องทำเวลาในแต่ละช่วง เพราะสาเหตุคนขับรถตู้ของไทยทำหลงไปซะตั้ง 3 ชั่วโมงนั่นแหละ ภานในรถจะประกอบไปด้วยที่นอน 2 ชั้น รวม 40 ที่นอน ดูบรรยากาศวิวข้าทางเมืองจีนกันบ้างดีกว่า เมืองนี้เขาส่งออกกล้วยครับ มีกล้วยเต็มไปหมด
นี่ครับโฉมหน้ารถคันที่เรานอนกันมา แวะพักที่เมืองลาเป็นที่แรกของประเทศจีนเพื่อรับประทานอาหารเย็น รถบัสออก 2 ทุ่มของเวลาเมืองจีน แต่ตรงกับเวลาบ้านเรา 1 ทุ่มตรง แปลว่าที่เมืองจีน เวลาจะเดินล่วงหน้าเราไป 1 ชั่วโมง เมืองลา ร้านอาหารมุสลิมที่คณะลงทาน หน้าร้าน มีขนมขายแต่เป็นก้อนใหญ่หันมาแล้วชั่งขาย ที่ชั่งได้เกินครึ่งกิโล 30 หยวน (1หยวน ประมาณ 5 บาท)
ถึงโอ่วซางเอาเวลาตี 4 ครึ่ง(เมืองจีน) นอนมาราธอนมาก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ รวมเวลานอนในรถประมาณ 9 ชั่วโมง คุณฟางได้นัดหลานมารับ รถเก่ง 2 คันของบ้านเรามารออยู่ก่อนแล้ว แต่กว่าพี่น้องของอีก 2 ครอบครัวจะมารับรอเป็นชั่วโมง เมื่อมาถึงบ้านที่ต๋าแปะยีซึ่งห่างจากจุดลงรถบัส 3 กิโลเมตร อาเส้า(พี่สะใภ้) จัดการอาหารเช้าให้คณะเราอยู่ครับ เริ่มต้นที่บ้านด้วยการกินอาหารเช้ากันทุกคนยกเว้นครูเงาะ กินกาแฟอย่างเดียว กินอาหารเช้ากัน หลังละหมาดเช้าที่สุเหร่าครูเงาะขอตะเวนดูบ้านนี้เมืองนี้ที่ครูเงาะเว้นระยะห่าง มาครั้งสุดท้ายประมาณซัก 10 ปีเห็นจะได้ บรรยากาศยังไม่เปลี่ยนไปเลย ต๋าแปะยียังเป็นชนบทที่เหมือนเดิม บ้านต๋าโกที่เราพักกัน กำลังเตรียมงาน บ้านส่วนใหญ่ของหมู่บ้านนี้จะเป็นดินอัดหลังคาและจะมุงกระเบื้องแบบจีนโบรานอยู่ ที่เห็นโดมเขียว ๆ ด้านหลังคือ สุเหร่าต๋าแปะยี จะเห็นดินอัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ใหญ่ ๆ แบบนี้เป็นอัดแบบใช้แบบประกบนอกและใน ผสมหิน บ้านนี้มีฐานะหน่อยทันสมัย ให้ลองเปรียบเทียบดูนะครับ
ดูบ้านเรือนเสร็จจบที่ตลาดสดในหมู่บ้าน พอดีเจอกับคุณฟางและเจเจ้ มาซื้อของ ดูบรรยากาสครับ ได้ของแล้วกลับบ้านดีกว่า ทริปขามาขอเอวังด้วยประการฉะนี้ครับ |
ว้าวๆๆ เป็นทริปเดินทางที่คึกคักดีจัง
พักร้อนเมื่อไหร่ น่าสนใจเส้นทางมากเลย
ว้าวๆๆๆ ตื่นเต้นค่ะ
สลามค่ะ
แวะมาเยี่ยมและชมบรรยากาศค่ะ