การฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อน

เพื่อนฝึกเพื่อน

สุกัญญา สราญจิตร์. (2549) ผลการจัดการเรียนรู้เรื่องภาคตัดกรวยขั้นความรู้พื้นฐาน ด้วยการฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องภาคตัดกรวยขั้นความรู้พื้นฐาน เจตคติที่มีต่อการฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อน และทำสังคมมิติ ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยการฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อน

กลุ่มทดลองเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านหมอ“พัฒนานุกูล” อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ปีการศึกษา 2549 จำนวน 26 คน โดยเรียนเรื่องภาคตัดกรวยขั้น ความรู้พื้นฐาน จำนวน 4 เรื่อง ๆ ละ 3 ชั่วโมง จำนวน 12 ชั่วโมง เมื่อเรียนจบแต่ละเรื่อง ทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ แล้วฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อนโดยใช้บัตรถามตอบที่ด้านหนึ่งเป็นคำถามและด้านหนึ่งเป็นคำถามและคำตอบที่ผู้เรียนจัดทำเอง โดยฝึกถามเพื่อนทุกวันๆละ 5-10 นาที ในช่วงต้นชั่วโมงเรียน วันที่ไม่มีชั่วโมงเรียนใช้เวลาที่พบครูที่ปรึกษาก่อนเข้าเรียนเรื่องละ 7 วัน แล้วทำการทดสอบหลังการฝึกทุกเรื่อง การสอบวัดผลสัมฤทธิ์ใช้เวลาชุดละ 30 นาที ตรวจให้คะแนนแต่ละข้อตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ วิเคราะห์เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยที่ได้ก่อนและหลัง การทดลอง หลังจากนั้นทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์รวมทั้ง 4 เรื่องใช้เวลา 40 นาที ตรวจให้คะแนนแต่ละข้อตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยเลขคณิตส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและหาค่าร้อยละของจำนวนผู้ที่ผ่านเกณฑ์ ก่อนและหลังการทดลองให้ผู้เรียนทำสังคมมิติโดยเขียนชื่อเพื่อน ที่ต้องการให้เข้ากลุ่มคนละ 9 ชื่อ แจงนับข้อมูลเปรียบเทียบจำนวนนักเรียนที่ถูกเลือก เป็นสมาชิกของกลุ่มก่อนและหลังการทดลอง หลังการทดลองให้นักเรียนทำแบบสำรวจเจตคติ ที่มีต่อการฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อน นำข้อมูลมาแจงนับหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยครั้งนี้ปรากฏว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องภาคตัดกรวยขั้นความรู้พื้นฐาน ที่จัดการเรียนรู้ด้วยการฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวนนักเรียนร้อยละ 84.62 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องภาคตัดกรวยขั้นความรู้พื้นฐาน ผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการฝึกทักษะแบบเพื่อนฝึกเพื่อน และจำนวนนักเรียนร้อยละ 84.62 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกของกลุ่มผ่านเกณฑ์ประเมิน