วันนี้ ได้มีโอกาส ไป ทำ book briefing ที่ สนง ใหญ่ ของ SCG เรื่อง Group Genius
สาระเท่าที่พอจะจำได้ พูดเอง ลืมเอง สะงั้น :-
เทคนิค การอ่าน ตำราฝรั่ง คือ อย่าเชื่อมาก บางกรณี ก็อาจจะเป็นวิธีหากิน ของที่ปรึกษา บางเรื่องก็ต้องพิจารณาว่าพื้นฐานเราขาดอะไร ไม่ใช่ รีบร้อนดีใจ เอามาใช้
เทคนิคในการอ่านหนังสือใดๆ คือ อย่าอ่านด้วยอคติ อ่านไปด่าคนโน้น คนนี้ในใจ หรือ "ยี้" "ต่อต้าน" ไม่เห็นด้วยกับผู้เขียน อย่าลำเอียง ร้อง ใช่ๆๆๆๆๆ .... ขอให้อ่าน แบบ Deep reading (สำนวน อาจารย์ Handy) ..... อ่านไปดูจิต ดีดความคิดปรุงแต่งออกไป ไล่นิวรณ์ออกไป มีสติ ห้อยแขวนคำพิพากษา ....จะทำ ให้ อ่านหนังสือ ได้อย่าง มีสติ และ ได้ปฏิบัติธรรมขณะอ่านไปด้วยนะ ( 2 in 1)
ฝรั่งเขียนหนังสือ มักมี งานวิจัยรองรับ ว่า พฤติกรรมองค์กรเป็นไง แต่ ของไทย ผมไม่ค่อยได้มีโอกาส อ่านผลงานวิจัย ของไทยๆ เกี่ยวกับ สันดานคนในองค์กร ? ทั้งๆที่ คนส่วนใหญ่ ทำงานและต้องติดต่อกับพวกคนทำงานในองค์กร
หนังสือแนว group genius ผม จัดเป็นเรื่อง soft side management (ไม่ใช่ เรื่อง software นะ) แต่ เป็นด้าน อ่อน นิ่ม ของมนุษย์ เป็นเรื่อง จิตวิทยา จิตวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม การเรียนรู้ การรับรู้ การทำงานของสมอง สังคม พฤติกรรมศาสตร์ ฯลฯ
softside จะมาหนุน hardside (เช่น KPI/BSC/ ISO / TPM/TQM/ เทคโนโลยี่ / software/ ฯลฯ) อุปมหยิน หยาง .....
เรื่อง Group Genius ผมอ่านๆดูแล้ว ใช้หลักการ วิทยาศาสตร์กระบวนทัศน์ใหม่ ใช้แนว Theory U เพียงแต่ คำศัพท์ ต่างกัน
Group genius (GG) พูด ถึง การสนทนากันแบบ Dialogue ที่ เหมือนกับ การ "ด้นสด" หรือ Improvise ... นึกถึง นักดนตรี Jazz มาเจอกัน แล้วเล่น สดๆ เสริมกัน ส่งลูกกัน จน เกิด ปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า FLOW คือ การสนทนา เป็นไปอย่างต่อเนื่อง .... พวก KM อาจจะใช้คำว่า Knowledge spiral ก็ได้นะ
การด้นสด นึกถึง วงเล่าเร้าพลัง และ 4 social fields
พวกฝรั่ง จะ คิดคำศัพท์ใหม่ๆ ขั้นตอนต่างๆไม่ซ้ำกัน แต่ สุดท้าย จะคล้ายๆกัน
เรื่อง GG นี้ ผมคิดว่า เป็นเรื่องของ Theory U ที่นำมาใช้ เพื่อก่อให้เกิด นวตกรรม
อยากได้ นวตกรรม อย่าเร่ง อย่ากดดัน
การทำ Brainstrom มีจุดอ่อนมากมาย ไม่สามารถทำให้ เกิด Flow ได้ ...และ ที่ สำคัญ "เชิญ ใครมาหว่า มาร่วมระดมสมอง" ถ้าได้พวก มุมมองเดิม ทักษะน้อย ประสบการณ์น้อย ฯลฯ ก็ได้ผลออกมาน้อย
การ "ด้น" นั้น ต้องเชิญ คนจาก หลายๆวงการ แต่ ต้องมี "ทักษะในการด้น" "เก่งในเรื่องนั้น" ที่สำคัญ ต้องมี กึ๋น (sense)
เรื่อง Sensing เป็นเรื่อง เฉลียว คนเราฉลาด เรียนเก่ง จำเก่งไม่พอ ต้อง มี "เฉลียว" เอะใจ สังหรณ์ใจ .....
หนังสือแนว Softside มีมาหลายสิบปีแล้ว แต่ คนในองค์กรเมืองไทย ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ .... แต่ ชุมชนเข้มแข็ง ทำได้นานแล้ว อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่ไม่เคยอ่าน GG มาก่อน
ในความเห็นของผม เรื่อง sensing เป็นอะไรที่ ต้องผ่าน การลงมือทำมาก คุยมาก .... คบบัณฑิต... ลองถามตัวเราว่า ตอนนี้ คนที่เราคบๆอยู่ เป็นบัณฑิตสักกี่ %
การจะ ด้น (improvise) ต้อง ผ่านการ ซ้อมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จึงจะเชิญ มา "ด้นสด" ได้ และ คนๆนี้ ต้อง มี sensing
การทำงานมี ๒ โหมด คือ โหมดรบ กับ โหมดเรียนรู้ ซึ่ง แนวทางในหนังสือ GG มาเสริมตอนหมวดเรียนรู้ อย่าไปใช้ ตอนโหมดรบ นะครับ ยุ่งตายเลย
กว่าจะได้ Innovation ออกมา มักได้แบบ Sparks หรือ ปิ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ต่อกัน เป็นระยะ มีแค่ 1% เท่านั้น ที่ได้ นวตกรรมแบบก้าวกระโดด จริงๆแล้ว เกิน 59% เจอ นวตกรรมด้วยการ ทำๆๆๆๆ คุยๆๆๆ ปิ๊งๆๆๆๆๆ จนเจอนวตกรรม มี ต้นแบบ ที่ล้มเหลวมากมาย
การ improvise แต่ละครั้ง จะ ปิ๊ง (spark) ออกมา และ พัฒนาเรื่อยๆ แบบ Kaizen นั่นเอง
จงให้ความสำคัญ กับ "ความล้มเหลว" อย่าไป บ้าจี้ เอาแต่ ไปศึกษา best practices นักเลย
คนไทย ไม่ค่อยจะกล้าสร้าง เครื่องมือบริหารเอง ชอบ อ่านตำราฝรั่ง แล้วทำตาม
จงเปิด พื้นที่ (ba) ให้ พนักงานได้ "ด้นสด" (Improvise) บ่อยๆ อย่างน้อย 20% ของเวลาทำงาน .... แล้ว พวกเขา จะมี sensing มากขึ้น
พวกนักบริหารที่บ้า Plan มักจะล้มเหลว เพราะ สมัยใหม่ การเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ผู้บริหารต้องใช้ sensing เพื่อต่อสู้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่มาเร็วแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฯลฯ
****************
จากนี้ เป็นที่ผม เสริม แถมให้คิด :-
ระบบการศึกษายุคอุตสาหกรรม ทำลาย sensing ของพนักงาน ดังนั้น ฝ่ายบุคคล จงเร่ง สร้าง ba ให้ พนักงาน ได้ ซ้อมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
Dialogue จะเป็นเครื่องมือ พัฒนา ประเทศชาติให้เจริญ
ฝ่ายบุคคล ขอให้ ศึกษา เด็ก จบ แนวธรรมชาติ และ homeschool แล้ว จะแปลกใจ ว่า พวกเขา "คิดเป็น" "ปรับตัว" ได้ดี กว่า พวกมาจากในระบบ
ฝ่ายบุคคล ขอให้คิดใหม่ เช่น คนเรียนเก่ง อาจจะไม่เก่ง เพราะ เขาแค่ คิดตามครูของเขา และ ครูของเขา ไม่เก่ง เขาก็ไม่เก่ง อย่าไปสนเกรด สถาบันนักเลย จง ดู "จิตอาสา" จากนั้น ก็เอามา เข้ากระบวนการฝึกๆๆๆๆๆๆๆ ให้เกิด sensing
เครื่องมือบริหาร และ ระบบบริหาร มี 3 ระดับ คือ downstream / midstream/ upstream ..... ของไทยเรา ยัง อยู่ที่ Downstream กัน อยู่เลย หรือ อาจจะ ออกทะเล ไปเลย
อย่าไปตำหนิเจ้านาย ขอให้ "หล่อเลี้ยง" co-sensing กับ นายให้มากๆ พัฒนาที่ตัวเราให้มากๆ
จงทำตัวเป็น "หมา" แล้ว เจ้านายจะรัก หมาจะดีใจทุกครั้ง อย่าเป็น พวกพันธุ์หน้าหงิก หน้างอ ...
จงสุมหัวกันวางแผน เพื่อ Educate your boss เพราะ boss หลายคนน่าสงสาร เป็น ผู้ด้อยโอกาสทางการเรียนรู้ เราก็ต้องเมตตา อ่อนน้อมถ่อมตน "เนียน นุ่ม ลึก"
************
คำถาม จาก ผู้เข้าร่วม
(ถาม) จะเริ่มไงดี เพราะ นาย อาจจะ แข็งๆ ดื้อๆ
(ตอบ) อย่าไปคิดแบบนั้น ยุคนี้ หุ้นตก นายเครียดกันทั้งนั้น จงเมตตา และ รัก นายให้มากๆ จง empathy เจ้านาย "หล่อเลี้ยง" คอยหาจังหวะ "ยิงคำถาม" ให้ นาย เอาไปคิด จงแหย่ๆ ยั่วๆ ให้เขาได้คิด ดูจังหวะที่นาย ชิวๆๆ ด้วยนะ
การจะเริ่ม ทำ แบบ GG นั้น ขอให้ ซ้อมๆๆๆๆๆ กับ ที่ ครอบครัวของเราก่อน ไม่เห็นต้องมาเริ่มที่ในองค์กรเลย ผมเชื่อว่า สถาบันครอบครัวที่เข้มแข็ง องค์กรเจริญขึ้นแน่ๆ
(ถาม) GG เกี่ยวกับ Leadership ยังไง
(ตอบ) เกี่ยวอย่างมากเลย เพราะ ผู้นำสมัยใหม่ จะเหมือน โฆษณา "ครูคือใคร ใครคือครู " ผู้นำสมัยใหม่ คือ คนที่ทำให้ คนอื่นๆสามารถนำตัวของเขาเองได้
ผู้นำสมัยใหม่ แบบ upstream จะเป็น คนจัด Ba จัดเวลา พื้นที่ ให้ พนักงานได้ เกิด sensing มากขึ้นเรื่อยๆ คุยกันแบบ improvise ได้บ่อยขึ้น
ผู้นำสมัยใหม่ จะ เป็น คนคอยยิงคำถามดีๆ คำถามป่วน กระตุ้นต่อมคิด เสมอๆ ขอให้อ่าน Leadings with question โดย Marquard
คำถามดีๆ สร้าง ผู้นำมามากแล้วนะครับ
(ถาม) จัด องค์กรแบบใหม่อย่างไร
(ตอบ) แบบเก่า คือ สามเหลี่ยม ที่ บนยอดแหลม มี ผู้บริหาร แบบนี้ เห็นได้ทั่วประเทศไทย เป็นการบริหารแบบ down stream มากๆเลย
แบบกลางๆ ไม่ใหม่ ไม่เก่า คือ สามเหลี่ยมหงาย ยอดแหลมอยู่ล่าง คือ ผู้บริหาร เป็นผู้รับใช้ เป็นผู้สนับสนุน และ บางที พนักงาน ๑ คน อาจจะมีหลายเจ้านายก็ได้ แต่ก็ยังเป็นแบบ mid stream .. ยังไม่ค่อยเจอ ในเมืองไทย
แบบใหม่ คือ มั่วๆ เหมือน หมอกควัน มองไม่ออกใคร คือนาย แต่ ท่ามกลางหมอกควันนี้ จะเป็นแบบ Chaos คือ ดูสับสน แต่ หลักการ หรือ นโยบาย ( ครูบาสุทธินันท์ ท่าน ใช้ คำว่า "นโยบาย" ) คนที่ คอย ถามยั่ว ถามแหย่ สนับสนุน ให้กำลังใจ ที่ ปนๆ อยู่ในหมอกควัน นั่นแหละ ผู้บริหารตัวจริง ..... งงไหม ... ไม่แปลกที่จะงง เพราะ เรายังไม่คุ้นเคย ไม่เคยซ้อมๆๆๆๆๆๆๆ
สวัสดีครับพี่ ผมเองไป งานหนังสือหลายวัน พรุ่งนี้ต้องแวะบูธ พี่สักหน่อย
ขอบคุณครับพระอาจารย์
เสียดายปู่เย็นท่านขึ้นสวรรค์ไปแล้ว
ไม่งั้นชวนไปฟังปู่เย็นเล่า ปู่เย็นคิด ปู่เย็นทำ
ทุกเรื่องทำได้ชัดๆๆๆมาก
วิธีทำให้ได้ความชัดแจ้ง จะนำไปสู่ความคมชัด
อิ อิ
อ้อ..ปู่เย็นเป็นเจ้าตำหรับ ด้นสดๆ มีหัวเราะสอดจังหวะ ได้บรรยากาศ ได้ชีวิต
ขอส่งข่าว..
วันที่8 ขอปรับแผนไปที่สโมสรปตอ.ที่เกียกาย นะครับ
เพราะดูเวลาแล้ว ถ้าไปรุ่งอรุณด้วยจะฉุกละหุกเกินไป ตอนเย็นมีลงเรือท่องเจ้าพระยาด้วย
รายการรุ่งอรุณจะจัดอีกครั้งหนึ่ง
ไม่ทราบว่าเวลาอ.ไปให้ความรู้
ได้มีการบันทึกไฟล์เสียง หรือ วิดิโอ
ไว้บ้างหรือเปล่าครับ
ทุกครั้งที่ สอน ผมมัก จะเป็นคนที่คอยเตือน คนจัดว่า อย่าลืมบันทึกเสียง อัดภาพเอาไว้นะ
ผมไม่เคยหวง เพราะ คิดว่า ไม่รู้จะห่วงไปทำไม คิดใหม่ มีของใหม่ มาให้พวกเรา ได้ ซ้อมๆๆๆ อยู่เรื่อยๆครับ
งานนี้ ฝ่าย HR ของ SCG บางซื่อ น่าจะอัด mp3 ไว้ นะ ...
เรียน อจ Handy ครับ ----> เวลา Deep reading ทีไร นึกถึง อจ ทุกที
อยากฟัง mp3 ค่ะ ถ้าอาจารย์ จะกรุณา บอกว่า หาได้จากที่ไหน
อ่านที่อาจารย์สรุป แล้ว อยาก ฟัง บรรยากาศ และรายละเอียดอีก