เรื่องที่ ๒๗ การตรงต่อเวลา
มีครอบครัวที่นับถือคริสต์ศาสนาครอบครัวหนึ่ง เป็นครอบครัวที่รักกันมาก ประกอบ ด้วย พ่อ แม่ และลูก ทุกวันอาทิตย์ทั้งครอบครัวจะไปสวดมนตร์ที่โบสถ์ร่วมกัน
วันอาทิตย์หนึ่ง แม่ก็ไปรออยู่ที่หน้าโบสถ์ เพื่อสวดมนตร์ แต่จนแล้วจนรอด พ่อและลูกชาย ก็ยังไม่มา แม่รอด้วยความกระวนกระวาย สุดท้ายพ่อและลูกชายก็ไม่ได้มาสวดมนตร์ตามที่นัดหมายไว้
เมื่อครอบครัวเจอหน้ากัน แม่ก็เริ่มร้องไห้ สะอึกสะอื้น ฝ่ายพ่อและลูกชายก็เข้าปลอบ “แม่จ๋า แม่ทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะแม่ ก็วันอาทิตย์หน้าเรามาร่วมกันสวดมนตร์ใหม่ก็ได้นี่แม่”
ฝ่ายแม่เมื่อได้ฟัง คำพูดของลูกชายและสามี ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น จนสามีและลูกรู้สึกแปลกใจ จึงไถ่ถามถึงสาเหตุด้วยความสงสัย
แม่จึงพูดว่า “ลูกลองคิดดูสิ ถ้าหากว่าวันอาทิตย์นั้นเป็นวันพิพากษาโลก แล้วลูกกับพ่อยังมาไม่ถึง แล้วเราจะเป็นอย่างไร” เมื่อแม่กล่าวเสร็จ ลูกกับพ่อก็เริ่มร้องไห้.
(หมายเหตุ วันสิ้นโลกของคริสต์ พระเจ้าจะพิพากษามนุษย์ ใครทำดี ศรัทธาในพระเจ้า จะได้รับการตัดสินเข้าสู่สวรรค์ และหากใครไม่ได้รับการพิพากษา ก็จะถูกแยกห่างจากพระเจ้า นิรันดร์)
บันทึกหลังเล่านิทาน
การไม่ตรงต่อเวลานั้น เป็นสิ่งที่อันตรายยิ่ง เพราะอาจจะพลาดหวัง ในสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญได้ อีกประการหนึ่ง เวลาไม่เคยคอยใคร และเมื่อเวลาผ่านไปแล้วก็ไม่สามารถที่จะหวลคืน และบางสิ่งบางอย่างเมื่อผ่านไปแล้ว จะเรียกร้องกลับคืนย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น การรักษาเวลา การตรงต่อเวลา เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งยวด สำหรับมนุษย์เรา
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ...กลัวสิ้นโลก เนื่องจากการพิพากษา
ครูอ้อย ด้วยความเคารพครับ
ไม่มีใจให้เขา
แล้วเสียใจทำไมครับ
เก่ง ๆ ๆ ๆ ๆ สู้ โก้ย