การประเมินความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจของรัฐ


การประเมินความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจของรัฐ

สวัสดีคะ.. เริ่มปีงบประมาณ 2552  แล้วนะคะ  คนของรัฐ .. ข้าฯของประชาชน เตรียมตัวเตรียมใจเข้าสู่ระบบราชการใหม่.. ตอนนี้เขาสังว่าการแต่งตั้งโยกย้ายต่างๆต้องทำให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 24 ตุลาคม 2551 นี้  หลังจากนั้นจะเข้าสู่สูญญากาศ  เพื่อดูดพวกเราไปไว้ในระบบแท่งแล้วละ..  ขอแสดงความยินดีต่อพี่ๆ เพื่อนๆน้องๆทุกคนที่เป็นนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรระดับ 6 แล้วเงินเดือนชนเพดานอยู่  คงจะได้เงินเดือนขึ้นไต่ระดับเทียบเท่า ซี 7 ต่อไปได้   .. แต่ต้องทำงานให้คุ้มค่านะ..

       วันนี้เลยจะนำเรื่องการประเมินความคุ้มค่ามาเล่าสู่ฟัง.. ข้อมูลมาจากเอกสารเรื่อง "แนวทางการประเมินความคุ้มค่า การปฏิบัติภารกิจของรัฐ"  จัดทำโดย คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางดำเนินการประเมินความคุ้มค่าการปฏิบัติภารกิจของรัฐ   สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   ซึ่งร่วมกับสำนักงบประมาณได้จัดชี้แจงเจ้าหน้าที่ของกระทรวง  กรม และจังหวัด ไป เมื่อวันที่ 6-7 ตุลาคม 2551 ที่เมืองทองธานี..  ดิฉันไม่ได้ไปหรอก.. แต่หลังจากคนที่ไปกลับมาแล้วนำเอกสารมาให้อ่าน 2 เล่ม แล้วบอกว่าเตรียมตัวนะ  จะเริ่มใช้กับการทำงบประมาณปี 2553 ในเดือนธันวาคม นี้แหละ   ก็เลยนั่งอ่าน.. อื้อหือ..คุณเอ๋ย..การเป็นข้าของรัฐนี้จะยากไปหน้านะ..คนที่เออลี่น่าจะโชคดีกว่าคนอยู่ต่อ..

    ดิฉันสรุปสาระแนวคิดของเรื่องนี้มาเล่านะคะ..

    แนวทางการประเมินความคุ้มค่าการปฏิบัติภารกิจของรัฐ”   มาจาก  2 เหตุผล  คือ

        1.  การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (New  Public Management)  ที่มุ่งบริหารแบบมืออาชีพ ยึดหลักการดำเนินงานที่มีมาตรฐานและมีวิธีวัดผลงานที่ชัดเจน  มีการควบคุมผลผลิตและความประหยัดในการใช้ทรัพยากร     เรียกว่า การบริหารงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ ( Results  Based  Management : RBM) โดยมีตัวชี้วัดผลงานเพื่อประเมินผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม  รวมทั้งมีการปรับระบบงบประมาณ  ไปสู่การมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ ( Strategic Performance Budgeting : SPBB) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น 

        2.  การพัฒนาระบบราชการไทย     ประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย

( พ.ศ. 2546-2550)  เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาระบบราชการ และได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546  เพื่อเป็นเครื่องมือผลักดันแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทยไปสู่การปฏิบัติ   จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการปฏิบัติงานของส่วนราชการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และสามารถวัดความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจ 

 

        ดังนั้น หน่วยงานของรัฐต้องมี     การประเมินความคุ้มค่า  ในการดำเนินภารกิจของตนเองเพื่อดูว่าได้ผลผลิต  ผลลัพธ์  ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ  และมีผลประโยชน์ที่สมดุลกับทรัพยากรที่ใช้หรือไม่ อย่างไร   ทั้งนี้  ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นได้ทั้งผลสำเร็จที่พึงประสงค์  และผลกระทบในทางลบที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนและสังคม  ทั้งที่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้และไม่สามารถคำนวณเป็นเงินได้

        การประเมิน  ให้ความสำคัญกับประเด็นการทำงานใน 3 มิติ ได้แก่ มิติประสิทธิผล  ควบคู่ไปกับมิติประสิทธิภาพ และมิติผลกระทบ

     1.      ประสิทธิผลการปฏิบัติภารกิจ

           พิจารณาจากตัวชี้วัด  3  ด้าน ได้แก่ การบรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติภารกิจ  ความพึงพอใจ  และคุณภาพการให้บริการ

      2.   ประสิทธิภาพการปฏิบัติภารกิจ    ประเมินความเหมาะสมสอดคล้องของการใช้ทรัพยากรและกระบวนการทำงาน  เพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตตามวัตถุประสงค์  ตัวชี้วัด มี 2 ด้าน คือ  ประสิทธิภาพการปฏิบัติ      และ การประหยัด 

      3. ผลกระทบ  หมายถึง  ผลอันสืบเนื่องจากการปฏิบัติภารกิจ ทั้งที่คาดหมายหรือตั้งใจ และไม่ได้คาดหมาย ทั้งที่เกิดขึ้นระหว่างและภายหลังการปฏิบัติภารกิจ ที่อาจกระทบต่อการพัฒนาในมิติอื่น  หรือการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานอื่น  หรือประชาชนทั้งที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มอื่น  ทั้งในและนอกพื้นที่  การวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามภารกิจภาครัฐ  ครอบคลุมถึงผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม  รวมทั้งผลกระทบด้านบวกและด้านลบ  ในมิติที่สามารถประเมินในรูปตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน  

     

       ข้างบนนี้แค่เกริ่นนำเหตุผลความจำเป็นเท่านั้นนะ.. รายละเอียดอื่นๆจะเล่าในตอนต่อไป..

หมายเลขบันทึก: 216326เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2008 16:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 20:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ไพฑูรย์ ย่องเหล่ายูง

ขอบคุณที่นำสาระดีๆมาเล่าสู่ฟังครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท