งดงาม ความรู้สึก ฝีมือ กาลเวลา
“วันหนึ่งหากโดนปาก้อนหินใส่หน้า คุณคงเจ็บมาก แต่วันนี้ไม่เจ็บแล้ว” แต่ลองนึกดูดีๆ กับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในเวลาดังกล่าว “ตอนนี้ไม่เจ็บทางกายก็จริง แต่ทางความรู้สึก เราก็ยังคิดว่าเรายังเจ็บ มิเช่นนั้นแล้วคงไม่มีความทรงจำที่นึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้นได้” นั่นเพราะเป็นสิ่งที่ผ่านมา เราจดจำถึงความเจ็บปวดนั้นได้ หากกาลเวลาที่ล่วงเลยนานไปเรื่อยๆ เราก็คงจะลืม เพราะไม่มีการบันทึก เก็บเรื่องราวไว้เพื่อความทรงจำที่จะงดงามในฉบับของเรา
ภาพถ่าย ถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ชิ้นงานที่มีการแสดงความคิดสร้างสรรค์ของวิธีบันทึกถ่ายทอดเรื่องราวจากสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมสังคมของมนุษย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาศัย ที่เกิดขึ้นในภาพถ่าย 1 ใบที่เห็นตรงหน้าเรานั้น ใช่ว่าจะมีใครถ่ายภาพของบริเวณนั้นแล้วจะออกมา งดงามทุกภาพได้ นั่นเพราะขึ้นอยู่กับมุมมอง ประสบการณ์ เทคนิคต่าง ความคิดสร้างสรรค์ แสง เงาองค์ประกอบหลายประการ ให้งานนั้นออกมามีเสน่ห์ ชวนให้หลงใหล ภาพถ่ายมีหลากหลายตามประสบการณ์ที่แต่ละคนอยากจะเก็บไว้เพื่อความสบายตา หรือความคิดถึง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเวลานั้น เช่น ภาพถ่ายทิวทัศน์ ภาพดอกไม้ ภาพถ่ายเด็ก ภาพถ่ายสัตว์ ภาพถ่ายตอนกลางคืน ภาพถ่าย หุ่นนิ่ง ภาพถ่ายสิ่งเคลื่อนไหว ภาพถ่ายเกี่ยวกับคน ภาพถ่ายเหตุการณ์สำคัญ หลายครั้งที่เคยหยิบภาพถ่ายเก่า ขาวดำ ขนาดโปสการ์ด ลักษณะในภาพนั้น อยู่ริมชายฝั่งทะเล หาดทรายสีขาว ศาลาพักผ่อน ยอดของต้นสนที่พลิ้วไหวเอนตามลม กลับไปยืนตรงจุดเดิม ย้อนรอยภาพนี้แล้ว ต่างจากเดิมไปมาก มุมมองของ ผู้ถ่ายภาพกับจุดที่ได้ยืน ให้ความรู้สึกที่ต่างกันแล้ว ไม่เหมือนเดิมเพราะกาลเวลาที่ผันแปร หลังจากนั้นไม่นานความคิดถึง ก็ทำให้หยิบภาพถ่ายใบนั้นมองอีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนลมพัดผ่านเหมือน ดั่งอยู่ในบรรยากาศที่จริง แม้จะรู้ว่าเวลานี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงต่างจากเดิม
การถ่ายภาพ ถือเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่สามารถจะทำได้ทุกคนและมีความสุขทุกเมื่อที่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ เพราะการเก็บภาพประทับใจดังกล่าว ไม่สามารถกลับมาทำแบบเดิมได้อีกเมื่อเวลาที่ผ่านไปแต่สามารถจะเก็บความทรงใจแบบเดิมไว้ หลายครั้งที่การถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีมุมมองที่แตกต่างกันหลายภาพถึงแม้จะเป็นเวลาเดียวกันสถานที่เดียวกัน แต่ภาพที่ออกมาให้ความสวยงามที่แตกต่างกัน เนื่องมาจากมุมมอง ความคิด สิ่งที่ต้องการอยากจะสื่อให้เห็น ทำให้ภาพเหล่านี้มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้เห็นแล้วอยากไปสัมผัสด้วยสายตา และกายใจ ความรู้สึกที่จะสัมผัสธรรมชาติอีกครั้ง
การถ่ายภาพที่ดีได้นั้น ใช่เพียงแต่จะมีสถานที่ หรือวัตถุที่มองว่าสวยงามแล้ว ยังต้องการมุมมองความคิดจากที่กล่าวมาข้างต้น แต่ยังต้องการแสง เงา ซึ่งทำให้ภาพถ่ายได้ความอบอุ่นและความรู้สึกมากขึ้นเหมือนจริงมากขึ้น สีเหลืองอ่อนๆของแสง ที่กระทบกับผิววัตถุ เกิดเงา ต่างๆ หรือแม้แต่การย้อนแสง เหมือนจะทำให้ภาพมองเห็นไม่ชัดเจน แต่หากมองให้ลึกไปกว่านั้นจะต้องให้ได้จังหวะของแสง มุมกระทบทำให้ภาพที่ดูรุนแรงทางอารมณ์ในระดับหนึ่ง ทำให้จุดดึงดูดต่างๆ กลับมองไปที่ภาพถ่ายให้ความสงบ
บ่อยครั้งที่อยากจะถ่ายภาพให้วัตถุที่อยู่ตรงหน้าที่ชัดเจนโดยมีพื้นหลังที่ไม่ชัด เป็นมุมที่ส่งเสริมให้วัตถุเหล่านั้นมีจุดเด่นมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะขาดเทคนิคการถ่ายภาพ แต่ต้องการให้ได้ดั่งใจ ต้องฝึกฝน อาศัยประสบการณ์ อุปกรณ์ที่เหมาะสมหรือแม้แต่การจัดองค์ประกอบของภาพเพื่อให้เห็นสิ่งที่ต้องการเสนอ ซึ่งเราไม่สามารถสร้างได้ดั่งภาพวาดศิลปะ แต่เราสามารถที่จะเสนอมุมมองของสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมา ให้ได้จรรโลงใจออกมาเป็นงานศิลปะที่มิอาจะลืมเลือนแล้ว ยังเป็นงานศิลปะที่ให้เห็นถึงความทรงจำกาลเวลานั้นได้อย่างดีแล้ว ฝีมือของผู้ที่ถ่ายภาพ มีส่วนสำคัญไม่ว่าจะเป็น รูปทรง รูปร่าง ความสมดุล ฉากหน้า ฉากหลัง เส้นที่นำสายตา รูปแบบซ้ำซ้อน เหล่านี้ทำให้ภาพถ่ายดูมีจุดมุ่งหมาย มีเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหลมากขึ้นเป็นพิเศษ
เมื่อธรรมชาติเป็นตัวเกื้อหนุน ให้งานศิลปะภาพถ่ายออกมาได้แล้วผ่านแสงและเงา อุปกรณ์นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการถ่ายภาพมาก ในอดีตกล้องถ่ายรูปจะต้องมีการใช้ฟิลม์ ต้องคัดเลือกคุณภาพให้เหมาะสมกับงานที่ได้รับเลือก เมื่อได้ถ่ายรูปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้อย่างปัจจุบัน จึงต้องอาศัยทักษะ ตั้งแต่การถ่ายภาพ เทคนิคการใช้กล้อง คุณภาพของเลนส์ การขยายภาพ การปรับรูรับแสง หรือแม้แต่การล้างอัดภาพล้วนแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปมากในทุกๆด้าน กล้องถ่ายรูปจึงได้มีการปรับปรุง
ศิลปินท่านหนึ่งได้กล่าวถึงงานศิลปะของตนเองออกเป็น 2 แบบได้เห็นว่า “นี่คือภาพโง่” นั่นเป็นเพราะภาพที่เน้นเพียงแต่ให้มันเกิดขึ้น ด้วยความตั้งใจมากจนเกินไป อาศัยเทคนิคการใช้สีระบายภาพ ตามความเหมาะสมหรือความเสมือนจริงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ภาพขาด อารมณ์ความรู้สึก สิ่งเคลื่อนไหว ขาดความสุขระหว่างการทำงานศิลปะ แต่อีกภาพที่กำลังจะกล่าวถึง “นี่แหละภาพดีๆ” นั่นเป็นเพราะภาพเหล่านั้น ออกมาจากจิตใจ สถานที่จริง ความรู้สึก และความต้องการถ่ายทอดทางด้านอารมณ์ ลำดับเหตุการณ์ วิถีชิวิตที่แท้จริง มีการเคลื่อนไหว ซึ่งไม่สามารถกลับไปเพื่อที่วาดหรือย้อนเวลา เหตุการณ์เหล่านั้นไปได้อีก
ภาพถ่ายต่างๆ หรืองานศิลปะแต่ละชิ้น ย่อมมีคุณค่าสำหรับผู้ที่ได้กระทำขึ้นไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ อย่างน้อยย่อมเกิดจากความสุขที่ได้ทำงานชิ้นนั้นขึ้นมาเพื่อสื่อถึง ความงดงามหลายอย่างที่มีมุมมองในทัศนะคติ ได้มองเห็นความแปลกตา ความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งงานศิลปะเช่นนี้ จะทำให้เห็นถึงความงดงามของเอกลักษณ์ศิลปิน มนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ การดำเนินงาน มุมมอง ซึ่งไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ หากแต่ทำให้ผู้ที่ได้ศึกษา หรือผู้ที่ได้สัมผัสกับงานชิ้นต่างๆเหล่านั้น มีความสุขไปกับการได้เห็น การสงสัย การเข้าใจถึงความรู้สึกที่ได้สื่อผ่านระหว่างผู้สร้างงาน และผู้ที่ได้ลิ้มรสของงาน
หลายครั้งที่ภาพบางภาพไม่ได้รับความสนใจหรือประทับในสายตาของผู้พบเห็น แต่อาจจะมีความสำคัญหรือความงดงามที่เกี่ยวข้องกับผู้สร้างผลงานที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึง ความคิด ความเป็นอยู่ของคนในแต่ละยุคและสมัยการเลื่อนไหลของวัฒนธรรม ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ไม่ได้มีการปรุงแต่ง ซึ่งทุกสิ่งที่ได้กล่าวมานั้น เกิดจากอนุภาพที่มาจากภายใต้จิตใจ หรือความรู้สึก ความเชื่อเหล่านี้ทำให้งานศิลปะมีความสมบูรณ์ขึ้นแล้ว ยังจรรโลงหัวใจของเราให้มีความสุนทรีย์อย่างไม่รู้ตัวได้เช่นกัน
แม้เป็นเพียงดอกหญ้า แต่ก็มีความสวยงามเกินกว่าที่จะเหยียบย่ำเดินผ่านเจ้าไป
หยดน้ำที่กำลังจะร่วงหล่น หากมีที่พักสายตา เพื่อสร้างความสดชื่นให้กล้วยไม้ป่าดอกนี้
ดอกไม้ 2 ภาพนี้ เหตุที่ท่านคิดว่าสวยเพราะความธรรมชาติที่ได้สัมผัสทางสายตา แต่สำหรับผู้เขียนแล้วเป็นความประทับใจที่นึกถึงศิลปินผู้นี้ ที่มีความสุขกับการถ่ายภาพ
ความเห็น (1)
krutoiting
แวะมาอ่าน น่าสนใจมาก ชอบถ่ายภาพเหมือนกัน แต่ไม่มีเทคนิค จะตามอ่านนะคะ