การศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย
ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติไทย เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทยการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยถือเป็นพื้นฐานเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการนำไปสู่การเรียนวิชาอื่นๆได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ แต่จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยของนักเรียนทุกระดับการศึกษา พบว่า วิชาภาษาไทยอ่อนกว่าวิชาอื่นทั้งที่วิชาอื่นควรอ่อนกว่าวิชาภาษาไทย สำนักผู้ตรวจราชการ ประจำเขตตรวจราชการที่ 8 จึงได้ศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มี ผลสัมฤทธิ์นักเรียนสูงกว่าระดับประเทศ กรณีศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมาเขต 1 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์เขต 1 เขตตรวจราชการที่ 13 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาสภาพ วิเคราะห์ปัจจัย เงื่อนไขความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์นักเรียนวิชาภาษาไทยสูง สามารถเป็นแนวทางวิธีการให้สถานศึกษานำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยให้ประสบความสำเร็จ สนองนโยบายกระทรวงศึกษาธิการในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา เพื่อการปรับกระบวนการเรียนและเปลี่ยนวิธี การสอนภาษาไทย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงอายุ 46 ปีขึ้นไป ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มสาระภาษาไทย มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาเอกที่จบการศึกษามากที่สุดคือ ประถมศึกษามีประสบการณ์ในการสอนภาษาไทย 25 ปีขึ้นไป และสอนในระดับช่วงชั้นที่ 3 – 4 จำนวน 11 – 15 คาบ/ชั่วโมง
ส่วนความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาไทย ทั้งด้านการวางแผน การปฏิบัติ การตรวจสอบ และการประเมินผล โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากทุกด้าน และกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ คือ การจัดกิจกรรมที่หลากหลายเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง เรียนรู้แบบบูรณาการ เน้นการค้นคว้า การคิดวิเคราะห์ การจัดบรรยากาศในการเรียนให้สนุกสนาน การสนับสนุนการประกวดแข่งขันความเป็นเลิศทางวิชาการ การพัฒนาความรักความชอบในการเรียนภาษาไทย พัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์เพื่อลดการท่องจำ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน เพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง การรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง และที่สำคัญคือครูทุกคนในโรงเรียนต้องเป็นครูที่สอนภาษาไทยและให้ความสำคัญกับการสอนภาษาไทยมากขึ้น โดยจะต้องรวมครูทุกรายวิชาไปด้วย และในการให้ความสำคัญกับการสอนภาษาไทยนี้ ควรจะต้องศึกษาถึงแนวทางวิธีการสอน และการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน คือ เน้นการเรียนภาษาจากการได้ใช้ภาษา การมีกิจกรรม สื่อการสอนที่หลากหลาย การส่งเสริมให้เด็กได้แสดงออกในการใช้ภาษา เป็นต้น การเรียนภาษาควรมีการศึกษาเชื่อมโยง หาความรู้ให้มากขึ้นเกี่ยวกับการพัฒนาของสมองกับการเรียนรู้ของภาษา การที่จะสอนให้เด็กใช้ภาษาอย่างสละสลวยถูกต้อง เป็นเรื่องที่ควรทำให้เกิดขึ้น แต่ไม่ได้เน้นหรือเริ่มสอนจากหลักการสอนหรือไวยากรณ์ก่อน โดยเฉพาะการสอนไวยากรณ์ ซึ่งแยกสอนจากหลักสาระอื่นๆ ทั้งในวิชาภาษาไทยและรายวิชาต่างๆ แต่ควรจะสอนจากการใช้ภาษาให้มากขึ้น ทั้งจากการอ่านให้ได้ใจความ การเขียนได้อย่างสละสลวยถูกต้องและสื่อสารได้ รวมทั้งการเรียนการสอนภาษาไทยควรจะเชื่อมโยงกับเรื่องของการส่งเสริมให้เด็กคิดเป็น วิเคราะห์เป็น มีจินตนาการ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาทางสมองของเด็ก พัฒนาความสามารถในการคิด จิตใจ และขณะเดียวกันก็เป็นการพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาไปพร้อมกันด้วย คาดหวังว่าการปรับการเรียนเปลี่ยนวิธีการสอนภาษาไทยคงส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยสูงขึ้นในโอกาสต่อๆ ไป
ไม่มีความเห็น