เรื่องที่ ๑๗ อาหารมื้อกลางวันของหมีดุ


ทักษะการใช้ชีวิต

เรื่องที่ ๑๗ อาหารมื้อกลางวันของหมีดุ

            เด็กชายสองคนเดินเล่นในป่า  เด็กสองคนนี้แตกต่างกันมาก

            ครูของเด็กคนที่หนึ่ง คิดว่า เด็กคนนี้เก่ง  พ่อแม่ของเด็กก็คิดว่าเก่ง ตัวของเด็กเองก็พลอยคิดว่าตัวเองเก่ง  เพราะได้คะแนนสูงจากผลการเรียนและการทดสอบ  และมีแนวโน้มว่าเด็กคนนี้จะก้าวไกลทางด้านวิชาการ

            สำหรับเด็กคนที่สอง  นั้นมีคนเห็นว่าเก่งเพียงไม่กี่คน  คะแนนและผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางไม่โดดเด่น  อย่างดีที่สุดผู้คนจะมองว่าเด็กคนที่สองนี้ฉลาดรู้จักเอาตัวรอด

                ขณะที่เดินอยู่ในป่านั้น เด็กทั้งสองก็ประสบปัญหา  หมีใหญ่ท่าทางน่ากลัวและกำลังหิวจัดเดินย่างสามขุมเข้ามาหาเด็กทั้งสอง  เด็กคนที่หนึ่งคิดคำนวณว่า  หมีตัวนี้จะวิ่งตามพวกตนได้ทันภายใน ๑๗.๓  วินาที  ความรู้ของเด็กคนนี้น่าประทับใจยิ่งนัก เพราะยังสามารถคิดได้ แม้ในเวลาน่าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ไม่เพียงแต่รู้สูตร  “ระยะทาง = อัตราความเร็ว X เวลา” เท่านั้น  ทว่าเด็กคนนี้ยังสามารถนำสูตรมาใช้คำนวณได้ในยามอันตราย  ส่วนเด็กคนที่สองไม่มีวันที่จะคิดคำนวณจำนวนวินาทีจนถึงจุดอันตรายเช่นนั้น  และคงไม่พยายามแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ

            ด้วยความหวาดกลัวอย่างยิ่ง  เด็กคนที่หนึ่งหันไปดูเด็กชายคนที่สองซึ่งกำลังเปลี่ยนรองเท้าจากรองเท้าเดินป่าเป็นรองเท้าสำหรับวิ่ง  เด็กคนที่หนึ่งพูดกับเด็กคนที่สองว่า “เธอต้องบ้าแน่ ๆ  เราไม่มีทางวิ่งหนี เจ้าหมีได้ทันหรอก” เด็กคนที่สองตอบว่า “ ใช่ แค่วิ่งเร็วกว่าเธอก็พอแล้ว”

            ผลปรากฎว่า  เด็กคนที่หนึ่งกลายเป็นอาหารกลางวันของหมี  ส่วนเด็กคนที่สองวิ่งหนีรอดไปได้...

บันทึกจากคนเล่านิทาน

            คุณครูที่รักครับ  อย่าสอนแต่วิชาการเลยครับ 

            ทักษะการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเลยครับ.

หมายเลขบันทึก: 213389เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2008 05:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท