ทำงานเป็นทีม...


By: บทความของ โปรเฟซเซอร์ ดร. ลีโอนาร์ด โยง นักจิตวิทยา และวิทยากรชื่อดังชาวมาเลเซีย

ทฤษฎี "ฝูงห่าน" ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม
หากพิจารณาดูดี ๆ กฎเกณฑ์ทางโอกธรรมชาติ ได้มอบปรัชญา และการดำรงชีวิตที่ละเอียดอ่อนและมหัศจรรย์ไว้ให้มนุษย์เสมอ ไม่ว่าจะเป็นวงจรขึ้น-ลงของพระอาทิตย์ ที่แสดงถึงาสในการแสดงประโยชน์ของคนเราว่ามีทั้งขาขึ้น และขาลง ไม่มีใครรักษาอำนาจ และกอดความก้าวหน้า เอาไว้กับตัวเองได้ตลอดเวลา การทำงานทุกอย่างรวมไปถึงการกระทำต้องรู้จัก "จังหวะ" "เวลา" และ "โอกาส" รวมไปถึงการยอมรับความสามารถของตนเอง ไปจนถึงปรัชญายอดภูเขา ยิ่งสูงยิ่งหนาว ที่สอนให้คนเราพึงระวังเมื่อก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนตำแหน่ง"ยอดภูเขา" ที่สูงและลมแรง

หลักการบินของฝูงห่านไซบีเรีย เป็นหนึ่งในต้นแบบที่ถูกนำปรับใช้เป็นจิตวิทยาองค์กร โดย โปรเฟซเซอร์ ดร. ลีโอนาร์ด โยง นักจิตวิทยา และวิทยากรชื่อดังชาวมาเลเซีย จากสถาบัน IITD โดยหยิบมาสร้าง "ทฤษฎีผู้นำ" โดยเรียนรู้วิธีการบินของฝูงห่าน ซึ่งแสดงถึงการทำงานเป็น "ทีม”
"หลักการบินของห่านไซบีเรีย สอนถึงการทำงานเป็นทีม และสอนวิธีการทำงานร่วมกับผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ อย่างยุติธรรม หน่วยงานที่ต้องการความอยู่รอด และพัฒนาขององค์กรในยามที่ทรัพยากรมีอยู่จำกัดจำเป็นต้องร่วมแรงร่วมใจบินกันไปเป็นกลุ่ม ซึ่งจะทำให้องค์กรนั้นสามารถพัฒนาศักยภาพ ภายใต้ขีดความสามารถที่มี โดยที่ทุกฝ่ายต่างก็พอใจ ไม่เกิดความขัดแย้ง และยังได้รับการพัฒนาความสามารถในตัวเองอยู่ตลอดเวลา" มร. โยง กล่าว
ในช่วงฤดูหนาวห่านไซบีเรียจะพากันอพยพย้ายถิ่นฐาน เพื่อไปหากินในทำเลใหม่ที่อบอุ่นกว่า เนื่องจากในอาณาบริเวณแถบไซบีเรียนั้นเต็มไปด้วยน้ำแข็ง อากาศหนาวจนอุณหภูมิติดลบ ด้วยความที่ถิ่นที่อยู่ของพวกมันอากาศหนาวจนหากินลำบาก และไม่มีอาหารหลงเหลือเพียงพอสำหรับรองรับความเป็นอยู่ พวกห่านจึงต้องขวนขวายหาทางออกด้วยการบินอพยพหนีกันไปเป็นฝูงร่วมหลายร้อยตัวด้วยสภาพที่ต้องเจอ ได้แก่ ระยะทางการบินหลายร้อยไมล์ การบินด้วยความเร็วอย่างสม่ำเสมอ และไม่ได้หยุดพักผ่อน ณ บริเวณใดที่บินผ่านเลยแม้แต่นิดเดียว อาหาร และกำลังที่จำกัด พวกมันมีวิธีการทำการกันอย่างไร? โดยไม่หยุดพัก และบินกันไปอย่างสามัคคีเป็นกลุ่มก้อน


ข้อเท็จจริง ห่านทุกตัวมีวิธีการบินที่กางปีกเป็นรูปตัว V ห่านที่เป็นจ่าฝูง จะบินนำห่านตัวอื่น ๆ เพื่อ "ต้านกระแสลม" ลดแรงกระแทกจากลมที่พัดเข้ามาตลอดระยะการบิน จากการพิสูจน์พบว่า การบินไปพร้อมๆ กันเป็นกลุ่มก้อนรูปตัว V อย่างพร้อมเพรียงกัน ห่านที่เป็นจ่าฝูงจะสามารถช่วยต้านลดแรงกระแทก และลดความเร็วลมที่จะเข้ามาปะทะห่านตัวอื่น ๆ ที่บินถัดกันไปเป็นลำดับ มากกว่าที่ห่านตัวใดตัวหนึ่งจะบินกันอย่างกระจัดกระจาย หรือบินไปตัวเดียว หรือบินเดี่ยว ๆ


บทเรียนจากการบินกางปีกเป็นรูปตัว V ของฝูงห่าน แสดงถึงการออกแรงอย่างเต็มที่ของ "ห่านจ่าฝูง" รวมถึงทำงานกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนที่สมาชิกในทีมต้องมีการรับรู้ทิศทางการบินอย่างพร้อมเพรียงกันว่า ณ ขณะนี้การบินกันไปเป็นกลุ่มจะมีความเร็วเท่าไหร่? และมีทิศทางการบินอย่างไร?


หัวหน้าจึงควรสื่อสารเป้าหมายในการทำงาน และมีการสื่อสารกำกับผู้ร่วมงานในทีมงานทั่วทุกคนอยู่ตลอดเวลา ว่าขณะนี้อยู่ในระยะบินช้า บินเร็ว บินสูง บินต่ำ จะทำให้เกิดความเข้าใจในทิศทางการทำงาน (Direction) และเกิดความเข้าใจกำหนดบทบาทช่วยเหลือซึ่งกันและกัน


ข้อเท็จจริง เมื่อมีห่านตัวใดตัวหนึ่งในฝูงรู้สึกเหนื่อย หรือบินด้วยความเร็วที่ต่ำลงจากระดับการบินปกติ แรงต้านจากกระแสลมจะเกิดขึ้น ทางออกคือ เคลื่อนย้าย "ห่านตัวนั้น" ไปบินพยุงตัว หรือพักผ่อนอยู่ด้านหลังของแถว ซึ่งใช้กำลัง และแรงในการบินน้อยกว่าการบินของห่านในตำแหน่งอื่น ๆ ส่วนห่านตัวอื่น ๆ ที่ยังแข็งแรง ควรถูกขับเคลื่อนมาบินในตำแหน่งด้านหน้า เพื่อรับกับการฝ่าแรงของกระแสลมตลอดระยะเส้นทางที่ยาวไกล


บทเรียนลักษณะการบินพยุงตัว หรือการบินสลับตำแหน่งหน้า - หลัง เป็นตัวแทนของการทำงานที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันว่า ในชีวิตการทำงานต้องมีการหยุดเพื่อพักผ่อน หรือผลัดกันทำหน้าที่เป็นผู้นำ ผลัดกันทำหน้าที่เป็นผู้ตาม เนื่องจาก ไม่มีห่านตัวใดที่สามารถบินด้วยความเร็วสูงคงที่ได้อย่างสม่ำเสมอตลอดเวลา และในการทำงานเป็นทีมก็ไม่มีห่านตัวใดที่บินช้า และกินแรงห่านตัวอื่น ๆ โดยการบินอยู่ในตำแหน่งท้ายโดยตลอด


ข้อเท็จจริง วิธีการบินของห่านข้อนี้จะทำให้เพื่อนร่วงงานในทีม ผลัดกันเป็นผู้ให้ และผลัดกันเป็นผู้รับ รวมไปถึง "ผลัดกันเป็นผู้นำ" และ "ผลัดกันเป็นผู้ตาม" ช่วยกันรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายมาอย่างเต็มใจตลอดเวลา


ความจริงอีกข้อหนึ่งคือ ห่านทุกตัวต้องมีการพักผ่อนเพื่อออมแรงในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ตรงกับความเป็นจริงที่ว่าสภาพของห่านที่บินอย่างหักโหมตลอดเวลาโดยไม่รู้จักจังหวะในการพักผ่อน ห่านตัวนั้นในช่วงเวลาที่เหนื่อยอาจจะหมดแรง และอยากจะหยุดบินไปเลย ซึ่งส่งผลกระทบให้กับการทำงานเป็นทีมเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตการทำงาน ห่านที่รู้จักวิธีการทำงานที่ถูกสุขอนามัยในระยะยาว และทำให้เกิดประสิทธิภาพในการบินอย่างสม่ำเสมอ การทำงานเป็นทีมต้อง "รู้จักจังหวะเวลา" ที่จะบินผ่อน หรือจังหวะเวลาการบินแบบออกกำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ ห่านทุกตัวจึงจะสามารถมุ่งหน้าอพยพย้ายถิ่นจะมีการหมุนเวียนสลับกัน และบินสลับตำแหน่งกัน ด้วยวิธีการบินสลับตำแหน่งกันไป
บทเรียน การทำงานร่วมกันไปเป็นทีม ทีมงานทุกคนต้องมีส่วนช่วยเหลือในผลงานกันอย่างเป็นกลุ่มก้อน ไม่มีใครที่สามารถทำงานหนักตลอดเวลา โดยที่ไม่มีช่วงเวลาในการ "เบรก" หรือพักผ่อน และก็ต้องไม่มีห่านตัวไหนในทีมที่สามารถบินอย่างเรื่อย ๆ สบาย ๆ เหมือนบินอยู่ตัวเดียวโดด ๆ บนฟ้า ในขณะที่ฝูงห่านตัวอื่น ๆ กำลังบินขับเคลื่อนฝูงห่านมุ่งไปสู่หนทางข้างหน้าด้วยความเร็วสูงอย่างคงที่ตลอดระยะ ทางอันยาวไกลอย่างพร้อมเพรียงกัน


สาเหตุที่ฝูงห่านต้อง "บินสลับตำแหน่งกันไป" เกิดจากว่าตำแหน่ง "จ่าฝูง" เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้แรง และพละกำลังมากที่สุด ต้องมีการบินสลับบ้างบางจังหวะเพื่อการพักผ่อน การบินไปเป็นกลุ่มก้อนสามารถสะท้อนถึงความร่วมแรงร่วมใจในการทำงานเป็นทีมเวิร์ค ห่านตัวอื่น ๆ ก็ต้องมีการใช้กำลัง ความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันห่านทุกตัวต่างก็รอคอยอย่างมีความหวังว่าหนทางข้างหน้ายังมีแหล่งน้ำ และอาหารอันอุดมสมบูรณ์


ข้อเท็จจริง วิธีการบินเฉพาะตำแหน่งของห่านแต่ละตำแหน่งมีบทบาท และความรับผิดชอบไม่เท่ากัน การที่ห่านที่อยู่ตำแหน่งด้านหน้าที่เป็น จ่าฝูง ต้องใช้กำลังในการบิน และต้องออกแรงมากที่สุดตลอดเวลา ห่านที่บินอยู่แถวหลังก็ยังสามารถ “บินพยุงตัว" หรือ "บินกางปีกอยู่เฉย ๆ ในลักษณะผ่อนแรง” วิธีการแบบ "การบินสลับตำแหน่งกัน" เป็นกระบวนการทำงานเป็นทีมที่สอนให้ฝูงห่านต่างฝ่ายต่างรับรู้ความรับผิดชอบและบทบาทหน้าที่ๆ ได้รับมอบหมายซึ่งกัน และกันอย่างทั่วถึง
หากการทำงานเป็นกลุ่มไม่เคยมีปรากฏการณ์ "การผลัดเปลี่ยน" งานหมุนเวียนความรับผิดชอบกัน ห่านที่บินอยู่ข้างหลังก็จะอยากเปลี่ยนมาบินในตำแหน่งข้างหน้า ขณะเดียวกันห่านที่บินอยู่ตำแหน่งข้างหน้าก็อยากย้ายไปกำกับอยู่ข้างหลัง


บทเรียน การกำหนดวิธีการบิน "เฉพาะตำแหน่ง" ของห่าน สอนให้รู้ว่า "การทำงานเป็นกลุ่ม" ต้องมีการสื่อสารบทบาท และหน้าที่ และกำหนดความรับผิดชอบซึ่งกันและกันตาม "ความสามารถ" และ "ตระหนัก" ถึงคุณค่าของตำแหน่งการบินของห่านแต่ละตัวว่ามีส่วนร่วมในการพัฒนาผลงานกันเป็นทีม
เพราะหากไม่มีการรับรู้ และตระหนักถึงความสำคัญ และหน้าที่ในการบินไปเป็นลักษณะรูปตัว V สลับกันไปแต่ละตำแหน่ง ห่านแต่ละตัวจะไม่รู้คุณค่าของ "ตำแหน่ง" ที่ตัวเองบินอยู่ และอยากที่จะบินเรียงแถวหน้ากระดาน เนื่องจากความต้องการกำกับการบิน และต้องการได้รับ "การยอมรับ" ด้วยความเข้าใจที่ผิดว่า "ตำแหน่งจ่าฝูง เป็นตำแหน่งที่สามารถควบคุมทิศทางการบินของฝูงห่านทั้งหมด และบินได้ง่ายที่สุด” ในขณะเดียวกันห่านที่บินอยู่ตำแหน่ง "จ่าฝูง" ก็อยากย้ายไปบินอยู่ข้างหลัง เนื่องจากไม่สามารถบินต้านกระแสลมโดยไม่หยุดพักตลอดเส้นทางการบิน จึงเกิดการบริหารงานเป็นทีมอย่างกลับข้างกันเป็นรูป < กลับข้าง เนื่องจากห่านที่เป็น จ่าฝูง ก็อยากจะเปลี่ยนตำแหน่งไปบินในลักษณะ "กำกับงานอยู่ด้านหลัง" ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ ทำให้ห่านที่บินอยู่ในตำแหน่งหลังสุดรับภาระมากที่สุดอยู่ดี ถึงแม้ว่าจะมีการบินเปลี่ยนตำแหน่งการกำกับแถว


โปรเฟซเซอร์ ดร. โยง ยังบอกว่า "การบินไปเป็นกลุ่มของห่าน" ยังสอนให้ทีมงานรับรู้ไว้ในความจริงข้อหนึ่งที่ว่า ลักษณะการบินไปเป็นกลุ่มอย่างถูกวิธี เมื่อมีห่านตัวใดตัวหนึ่งในทีมป่วย บาดเจ็บ หมดแรงหรือถูกยิงตกลงไป ห่านทั้งฝูงนั้นก็ยังสามารถบินกันไปเป็นกลุ่มก้อนอยู่ได้ตลอดเส้นทางการบิน

หมายเลขบันทึก: 211559เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2008 20:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

มาอ่านด้วยความ ทึ่งในการดำรงชีวิตของ"ห่านไซบีเรีย"

น่านำไปเป็นแบบอย่างในการทำงานนะคะ แต่ไม่รู้คนจะจัดบทบาทหน้าที่ได้ตามแบบ "ห่าน" หรือเปล่า

  • แสดงว่านักจักรยานก็เลียนแบบห่าน
  • เพราะเวลาปั่นทางไกล  นานๆ
  • เขาจะปั่นแบบตัววี
  • มีคนนำหน้าเมื่อเหนื่อยก็ลงมาซุกอยู่ด้านหลัง
  • ผลัดกันนำ  ผลัดกันตาม
  • แต่พี่ชอบตามมากกว่านำ
  • เพราะมันไม่เหนื่อยจ้า

              

  • สวัสดีค่ะ
  • ผู้นำต้องรู้จักจังหวะ โอกาส ในการนำนะคะ
  • มีตัวอย่างที่ดี ในเรื่องของประสิทธิภาพในการนำค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

ใช่ครับ คนที่จะเป็นผู้นำถ้าทำได้อย่างห่านก็จะเกิดประสิทธิผลอย่างดีเยี่ยม ผมชอบทฤษฎีนี้นะครับ ได้แสดงให้เห็นถึงการรู้จักเป็นผู้นำและผู้ตาม ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท