เมื่อลูกชายไม่สบาย....ตอนอวสาน


จากที่เขียนเล่าให้ฟังเรื่องลูกชาย ที่บันทึกนี้

วันที่สอง อาการร่าเริงของลูกชายก็ยังมีเหมือนเดิม  แต่จะซนน้อยลง  ทานข้าวได้ ทานนมได้  ก็ลดอาการห่วงไปได้มาก  พอถึงเวลาเย็นได้พาลูกชายไปพบหมอตามนัด  วันนี้หมอวัดไข้ไม่มีไข้

แต่อาการเต้นของหัวใจก็ยังเหมือนเดิม  และหมอก็ยังวินิจฉัยไม่ได้  จึงฉีดยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ และหยอดยาแก้เห็บหมัดไป 1 หลอด  วันนี้จ่ายไป 790 บาท  แต่แม่ก็ยังสบายใจอยู่

วันที่สาม  ลูกชายมีอาการซึมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  น้อง ๆ ไม่อยากให้พาไปคลินิกอีกและบอกให้ส่งไป รพ.สัตว์เล็ก  ซึ่งเป็น รพ.ของมหาวิทยาลัย  เพื่อตรวจให้ละเอียด  และจะได้พบกับอาจารย์หมอ  ซึ่งน้องได้โทรสอบถามว่ามีอาจารย์หมออยู่  ช่วงเช้าวันศุกร์ รีบมาทำงานและ clear งานที่เร่งด่วนให้เรียบร้อย  และครึ่งบ่ายของวันศุกร์ได้พาเจ้าลูกชายไป รพ.สัตว์เล็ก  หมอก็งง กับอาการ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร แต่ลักษณะการเต้นของหัวใจผิดปกติแน่นอน  จึงส่งไป X-ray  ซึ่งกว่าลูกชายจะให้ความร่วมมือ ต้อง x-ray  4 รอบ เสียฟิล์มไป 1 ฟิล์ม  และที่ฤทธิ์น้อยลงก็เพราะว่าโดนจับฉีดยา(ไม่แน่ใจว่ายาอะไร แต่ประมาณว่าให้นอนหลับไปสักพัก เพื่อจะได้ x-ray ให้ได้  แต่ฤทธิ์ยาคงไม่ถึงใจเท่าใด  อาการไม่ยอมก็ยังคงมี แต่ก็สามารถผ่านไปด้วยดี)

หมอวิเคราะห์เบื้องต้นว่า หัวใจน่าจะมีปัญหา  มีเส้นเลือด 1 เส้นเหมือนจะขอดอยู่  จึงฉีดยาที่ไม่ทำให้เลือดแข็งตัว  เพื่อรอดูอาการอีกครั้ง  และได้ให้ฉีด ทุก ๆ 8 ชั่วโมง ผ่านเส้นเลือดดำ  เอาละสิ....ทีนี้คุณแม่ก็เป็นหมอจำเป็นไปตามระเบียบอีกครั้ง    ถนัดนักเรื่องฉีดยา  เพราะประสบการณ์จากการฉีดยาแก้อักเสบให้คุณแม่มีอยู่  แต่ครั้งนี้ดีขึ้นมาที่ยาชนิดนี้คุณหมอได้จัดใส่เข็มไว้ให้เรียบร้อย และเจาะเข็มทำปลั๊กไว้ให้  จึงไม่เป็นปัญหาเท่าใดนัก  พร้อมกับได้ฉีดยาแก้อักเสบ ยาแก้ไข้ให้ และนัดเจอหมอหัวใจในวันอาทิตย์ 

3 ชั่วโมงช่วงบ่ายกับการพาเจ้าลูกชายไปพบหมอ เป็นวีรกรรมที่น่าจดจำทีเดียวล่ะ  เนื่องจากได้ให้น้ำเกลือ  เพราะท่าทางมีอาการเพลีย  จึงให้ไปนอนรอในรถและได้กลับไปจ่ายตังค์  งานนี้จ่ายไป 2,200 บาท  (แต่แม่ก็ยังสบายใจอยู่) กลับมาที่รถปรากฏว่า  เจ้าลูกชายทำเหตุ  คงมองหาแม่ไม่เจอเดินทั่วรถ สายน้ำเกลือหลุด  เลือดเลอะเทอะเต็มเบาะรถ  จึงไปให้หมอปิดปลั๊ก เพื่อจะได้ไว้ฉีดยาต่อไป  ขณะพานั่งรถกลับบ้าน  น้องหมาคงเวียนหัวเล็กน้อย จึงเกิดอาการอ๊วกใส่รถแม่อีก  งานนี้ นอกจากจะเลือดแล้วยังอ๊วกอีก ลูกหนอลูก  ไม่เป็นไร ไงก็เช็ดล้างออก  จะไปสนทำไม เปื้อนได้ ก็สะอาดได้

หลังจากนั้นได้พาเจ้าลูกชายไปแวะหาพี่ ๆ ที่ทำงาน  เพราะเขาจะเป็นที่รักของหลาย ๆ คน  พี่ ๆ เห็นลูกชายแล้ว  ต่างชื่นชมยินดีว่าตั้งแต่โตมานี่เป็นน้องหมาที่มีมารยาทมาก ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ แต่ความน่ารักยังเหมือนเดิม (อิอิ....อันหลังนี่เติมเองค่ะ)

กลับบ้านไป ก็ยังเล่นได้ แต่ไม่ซนเหมือนเดิม จะมีอาการคล้าย ๆ เหนื่อยหอบเป็นบางครั้ง  ไม่ยอมกินข้าว แต่กินหมูสะเต๊ะไป 20 ไม้เอง 55555

กลางคืนห้าทุ่ม ฉีดยาให้ ปรากฏว่าปลั๊กที่คาไว้เกิดหลุด เลือดไหลเยอะมาก  จึงถอดเข็มออก และจัดการล้างบริเวณขาที่เปื้อนเลือดให้  และคืนนั้นก็ผ่านไปโดยดี แต่มีสิ่งที่ไม่ดีคือแม่ดูดีวีดีเรื่อง 24 ชั่วโมงอันตราย  และชอบเปิดให้มันกระหึ่มทั้งห้อง  ไม่รู้งีบไปตอนไหน  เช้ามาปรากฏว่าข้างบ้านถัดไปเป็นตึกแถว ห้าคูหา 2 ช่วง ช่วงที่ 2 ห้องที่สามเกิดไฟไหม้หมดทั้งห้อง  รถดับเพลิง 3 คันมาช่วยดับ  แต่แม่ไม่ได้ยินเลย  ตื่นขึ้นมาขี่รถไปซื้อข้าว  ถึงเห็นสภาพของตึกแถว ตกใจมาก  น้องสาวบอกว่าถ้าไฟไหม้บ้านป่านนี้คงไม่เหลือซากแล้ว  อิอิอิ

เช้าวันที่สี่  ต้องตื่นแต่เช้า เพราะต้องฉีดยาเวลา 07.00 น.  แต่แม่ไม่สามารถฉีดให้ได้  เนื่องจากเข็มที่ใส่ไว้หลุดไปแล้ว  จึงพาไป รพ.เพื่อให้หมอเจาะให้ใหม่  อาการของลูกชายก็ยังดี  หลังจากฉีดยาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเล่นรอบ ๆ  รพ. อย่างสบายใจ  ได้พาขับรถเที่ยว  และกลับบ้านและซื้อหมูปิ้ง ตับปิ้งให้  แต่เธอไม่ยอมกิน  เอาไงดีล่ะไม่กินข้าว  นมก็ไม่กิน   จึงไปต้มข้าวบดข้าวและกรองเอาน้ำข้าวใส่สลิ้งป้อนให้  ยอมกินบ้างไม่กินบ้าง  แต่ก็ต้องบังคับเป็นระยะ ๆ  เพราะเวลาที่ดื้อ ๆ ไม่ยอม อาการเต้นของหัวใจจะเพิ่มมากขึ้น  งานนี้ต้องอดทนค่ะ

เย็น ๆ รู้สึกซึมมากขึ้น แต่ก็ยังเดินไปเอาก้นจุ่มน้ำ และมานั่งสบายใจเพลิน (ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ชอบมาก ๆ อ่างเลี้ยงปลาที่บ้านกี่อ่าง ๆ พี่แกไปนั่งจุ่มหมด  พี่ปลาทั้งหลายก็เลยไม่มีวาสนาได้อยู่ดูโลก  จึงจำเป็นต้องเลิกเลี้ยงปลาโดยปริยาย  แต่หาถังไว้ให้จุ่มแทน)  แต่วันนี้อาการเพลียมีมากขึ้น จึงนำไปนอนด้วยในห้อง  ซึ่งก็ไม่ดื้อไม่ซน ไม่ค้นข้าวของ  เดิน ๆ นอน ๆ ไปทั่วห้อง เดี๋ยวเดิน ๆ มานอนข้าง ๆ เดินไปนอนมุมนั้น มุมนี้ทั้งคืน  แม่ก็งีบไปตอนตี่สามกว่า ๆ แต่ก็ตื่นตลอด จะลืมตามาดูว่าอยู่ที่ไหน นอนหรือเปล่า 

เช้าวันที่ห้า  จนกระทั่งหกโมงเช้า ก็ตื่นเพราะต้องเตรียมฉีดยาให้เวลาเจ็ดโมง  มองหาไม่เห็นปรากฏว่าไปนอนในห้องแต่อาการหายใจอ่อนมากและหายใจขัด จึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแจะอุ้มขึ้นรถไปหาหมอ  ตอนนั้นปฏิกิริยาเริ่มไม่ตอบสนอง  ไปถึง รพ.ใช้เวลา 5 7 นาที  ปรากฏว่าไม่หายใจแล้ว  หมอช่วยกันปั๊มหัวใจ อยู่นานมาก  แต่ไม่มีอาการตอบสนอง  จึงปล่อยให้เขาไปอย่าง....สบาย.....

ฉันโทรหาน้อง  ว่าจะจัดการกับลูกชายอย่างไร  และตัดสินใจให้หมอชันสูตรศพลูกชายด้วยว่าตายเพราะเหตุใด (ค่าชันสูตร  400 บาท)   โดยเหตุ

1.  ฉันอยากรู้ว่าเจ้าลูกชายเป็นอะไรตาย  และเนื่องจากฉันมีลูกชายเหลือที่บ้านอีก 1 ตัว  ฉันจะได้คอยดูแล และระวังให้มากขึ้น

2.  ฉันอยากให้เป็นวิทยาทานแก่หมอ  เนื่องจากหมอทั้งคลินิก และ รพ. ไม่ทราบสาเหตุว่า ลักษณะอาการที่ลูกชายฉันเป็นนี่มันเกิดจากอะไร  และตายเพราะอะไร  จะได้เป็น case ให้หมอไว้ศึกษาต่อไป

3.     ฉันดีใจที่ลูกชายฉันจะได้เป็นอาจารย์ ให้นักศึกษาสัตวแพทย์ไว้ศึกษาเพื่อเป็นวิทยาทานต่อไป

 

นับเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตและทำให้ฉันเสียใจ 

แต่ต้องขอบคุณเจ้าลูกชายที่สอนให้แม่ได้เรียนรู้ความเป็นชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ 

สอนให้ฉันรู้จักให้ และรู้จักรับ 

สอนให้ฉันได้รู้จักการเกิดและการพลัดพรากอีกครั้งหนึ่ง 

โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่อยู่คงทนถาวรนอกจากความดีงาม 

ฉันเสียใจ แต่ก็ดับได้ไว  แต่มันก็เกิดขึ้นในทุกขณะเวลาของวันอาทิตย์  แต่ฉันก็ยอมรับกับความจริงที่เกิดขึ้น

มีพบ  ต้องมีพลัดพราก

ฉันได้ไปทำบุญใส่บาตรให้ลูกชายที่หน้าอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย อุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ เพียงเพื่ออยากให้เขาได้ไปอยู่ในพบชาติที่ดีต่อไป

หลับให้สบายนะลูกรัก……แม่ดีใจที่ลูกได้เป็น อาจารย์....

 

คำสำคัญ (Tags): #ลูกชาย#อโคล่า
หมายเลขบันทึก: 210719เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2008 13:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)
  • แม่ดีใจที่ลูกได้เป็น อาจารย์....
  • ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
  • ห้ามดีใจที่น้องชาย ได้เป็นอาจารย์นะครับ
  • ฮ่าๆๆๆ
  • เพราะได้บริจาคร่างกายให้สภากาชาดแล้ว
  • พี่อึ่งสบายดีไหมครับ

สวัสดีคะพี่อึ่งฯ

เป็นกำลังใจให้นะคะ เขาไปสบายแล้วนะ

สอนให้ฉันรู้จักให้ และรู้จักรับ 

สอนให้ฉันได้รู้จักการเกิดและการพลัดพรากอีกครั้งหนึ่ง 

โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่อยู่คงทนถาวรนอกจากความดีงาม 

คิดถึงเสมอ คะ ราณีจ้า

ภาพน้องโคล่ายังติดอยู่ในใจ

น้องหมาสีขาวตัวใหญ่ นิสัยขี้เล่น ร่าเริง

ชอบกระโดดเกาะเอว

ดวงตาของโคล่ายิ้มได้

ตอนนี้น้องโคล่าไปสบายแล้ว เหลือแต่น้องแพนด้าตัวเดียว

ไม่รู้แพนด้าจะคิดถึงเพื่อนไม๊ จะเหงาแค่ไหนที่ต้องอยู่ตัวเดียว

มีพบก็ต้องมีพราก มีเจอก็ต้องมีจาก

เปื้อนได้ ก็สะอาดได้

ร้องไห้ได้ ก็ต้องยิ้มได้...เหมือนกัน

ใช่ไม๊คะ

ขอแสดงความเสียใจด้วยเช่นกันค่ะ...เฮ้ออออ..โล่งอกไปทีที่ลูกชายไม่ได้เป็นคุณครู..แต่คุณครูก็จะเป็นอาจารย์เหมือนกัน เพราะได้ทำพินัยกรรมชีวิตไว้แล้วเช่นเดียวกับอ.ขจิต.....

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ น้าอึ่ง

ถึงเราจะไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อนแต่ขอบอกว่า "เสียใจด้วยนะคะ" น้องเค้าไปสบายแล้วค่ะ มีก็แต่เรานี่ล่ะที่ยังต้องดิ้นรนกันต่อไป ชิวิตต้องสู้ สู้ สู้ ค่ะ

เสียใจ และ ดีใจ ครับ

ติดตาม มาตั้งแต่ดอนแรก เศร้า เลยคะ

ขอบคุณน้องชายครับ

อนุโมทนาด้วยสำหรับกุศลที่ได้มอบร่างกายให้สภากาชาดค่ะ

น้องราณีคะ

มาคราวหน้าจะเจอแต่น้องแพนด้า

แต่วันนี้น้องแพนด้าเหงามั่ก ๆ

อีกสักระยะคงชินค่ะ

ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณ คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน นะคะ

แม่ก็ต้องสู้ ๆ กับลูกอีก 1 ตัวต่อไป

เหมือนยอมเป็นวิทยาทานเพื่อชาติค่ะ จึงได้เลื่อนเป็นอาจารย์เลย (แทนที่จะเป็นคุณครูก่อน...อิอิอิ)

ขอบคุณน้องไก่นะคะ

แหม...กำลังหลงรักโคล่าเชียว น้องก็มาด่วนจากไปซะก่อน

มาครั้งต่อไปก็รักแพนด้าให้มาก ๆ นะคะ

แพนด้าจะได้ไม่น้อยใจ

น้องต้อมเจ้า

ขอบคุณหลายเด้อ

น้องต้อมเลยไม่ได้เห็นอโคล่าเลย

ไม่เป็นไร แพนด้า ยังยินดีต้อนรับพี่ต้อม

อิอิอิ

ขอบคุณน้อง เกลียวคลื่น อันดามัน นะคะ

ชีวิตต้องสู้ ๆ ๆ ๆ ค่ะ

.....

ต้องสู้จริง ๆ

ขอบพระคุณอาจารย์หมอ JJ ค่ะ

ไม่มีอะไรกั้นความรักระหว่างกันและกันได้

อิอิอิ

ขอบคุณแม่น้องพอน้องเพียงนะคะ

คิดให้เป็นเรื่องธรรมชาติของชีวิต

เราก็จะรู้สึกดีขึ้นค่ะ

เศร้ากับสุข ไม่ต่างกัน "เนียนในเนื้อเดียวกัน" เหมือน KM

อิอิอิ

.....

ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม สู้ค่ะ

คุณแม่อึ่งใส่ใจและดูแลลูกชายของแม่อึ่งอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ อย่างเต็มที่และอย่างเต็มใจ ลูกชายกระซิบบอกผ่านมาว่า แม่จ๋ารักแม่ที่ซู้ด ชาติหน้าเจอกันอีกนะคับ แล้วผมจะมามาดใหม่ หล่อกว่าเดิมอีกนะคับ จุ๊บๆ

น้าอึ่ง

  • ขออภัยที่มาช้าร่วมงานช้ามาก
  • อย่าน้อยน้องโค้ก(โคล่า หรือ อโคล่า...) ก็ไปสบายแล้วนะคะ เค้าหมดกรรมที่มาชดใช้ แล้วเค้าจะได้ไปเกิดใหม่ที่ดีกว่านี้แล้วละค่ะ
  • ที่เหลือคือดูแลน้องแพนด้า อย่าให้เหงาเศร้าซึม เพราะขาดคู่หูค่ะ

เสียใจด้วยค่ะพี่

เกิด ดับ คู่กันเสมอ

ธรรมรักษานะคะ ^ ^

+ พี่อึ่งค่ะ....

+ อืม...........

+.....ไม่เป็นไรค่ะ...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ

+ ธรรมดา...เกิด แก่ เจ็บ ตาย.....

+ ร่วมอาลัยรักด้วยคนค่ะ....

+ คุณแม่อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ....

ร่วมแสดงความเสียใจกับน้าอึ่งด้วยคน

ไม่อยากเป็นอาจารย์ง่ะ....

  • เข้ามาแนะนำตัว
  • มีหมาเป็นลูกเหมือนกัน
  • ลูกแท้ๆมี 2 สาว
  • แต่ลูกข้างบ้านแถวบ้านที่ดูแลมีเป็น 10
  • อ่านเรื่องลูกชายแล้ว  เข้าใจความรู้สึกเลยล่ะ
  • ถ้าลูกสาวต้องไปจากเรา
  • อบากให้เป็นอาจารย์ใหญ่บ้าง
  • เขาจะได้สะสมบุญไปเกิดในภพใหม่ที่ควรแก่เขาให้ดียิ่งๆขึ้น

               

                            นี่ไงสองสาวที่ว่า...

  • พี่เอกชัย
  • ฝากมาครับ
  • อิอิๆๆ
  • P
    29. ลุงเอก
    เมื่อ อา. 28 ก.ย. 2551 @ 22:08
    847646 [ลบ]

    P วันที่ 2 ลุงเอกออกหนังสือเชิญมาได้นะน้าอึ่งอ๊อบ คนสวย แซ่เฮ และ

    P หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ ว่าแต่มาอีกคนมาจากเชียงใหม่  อีกคนมาจากกระบี่จะไหวใหมเนี่ย  ลุงเอกทรมานคนเกินไปหรือเปล่า  ถ้าใจมาก็ยินดีเพราะครูบาและอัยการมาเรียน 3-4-5 ใครจะขอ Attend class ด้วยก็ได้ครับ
    ถ้าโอเคแจ้งมาเลย  เป็นวิทยากรผู้ช่วย
  • เสียใจด้วยนะคะ คุณอึ่ง
  • เนอะจริงด้วย ...บางครั้งชีวิตน้อยๆ เค้าสอนอะไรเราได้ดีค่ะ
  • ทำดีที่สุดแล้วค่ะ ....

 พี่อึ่งอ๊อบคะ

ขอบคุณมากมายกับการนำโอกาสดีๆ และน่ารักมาฝากทั้งทางบันทึกและข้อความชวนจากใจที่พี่ส่งไปให้น่ะค่ะ   ...ชักจะติดใจแล้วสิ...ใจไปเกือบเต็มๆร้อย แล้วนะคะเนี่ย  รอเช็คงานจากนายหัวนิดหน่อยว่า...ว่าง...ก็กระโดดผลุงเลยค่ะพี่

ขอบคุณนะคะพี่สาว  คิดถึงพี่นะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท