หลายปีก่อน อาจารย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสอนผมว่า ถ้าอยากจะบริหารหรือจัดการโครงการใดๆ ให้ประสบความสำเร็จ ผู้บริหารนั้นต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าลำพังเฉพาะตนคนเดียวไม่สามารถจะทำงานนั้นให้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่น เพราะคนเราจะมีความรู้ความชำนาญเพียงบางด้านเท่านั้น อีกหลายๆด้านต้องอาศัยความรู้จากประสบการณ์ ความชำนาญจากคนอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือผู้เชี่ยวชาญต่างสาขา นำมาประกอบกันเปรียบเหมือนภาพจิ๊กซอว์ ที่ตัวต่อแต่ละชิ้นต่างมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน งานนั้นๆจึงจะไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการได้
ระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานก็เหมือนภาพจิ๊กซอว์ ผมสร้างภาพนี้ไว้ในใจอย่างสดใสสวยงาม ภาพนั้นแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยเบาหวานทุกคนได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและมีคุณภาพจากทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด ในโรงพยาบาล มองเห็นภาพหมออนามัยทำงานร่วมกับ อสม ช่วยกันคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน มีการคัดกรองโรคแทรกซ้อนในกลุ่มป่วยอย่างครบถ้วน เมื่อแพทย์ควบคุมระดับน้ำตาลได้หมออนามัยสามารถดูแลผู้ป่วยเบาหวานของตนได้อย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงกับโรงพยาบาล ผู้ป่วยเบาหวานคนใดมีความลำบากยากแค้นขาดคนดูแล ก็มีทีมหมออนามัยและอาสาสมัครติดตามดูแลเยี่ยมเยียนเยียวยาและให้กำลังใจ มองไปอีกมุมหนึ่งของภาพก็เห็นประชาชนในตำบล รวมกลุ่มกันสร้างพฤติกรรมชีวิตใหม่ เลิกละเหล้าบุหรี่ ร่วมกันออกกำลังกายกันอย่างครึกครื้นสนุกสนาน หวนกลับไปมีวิถีชีวิตการกินอยู่เหมือนสมัยปู่ ย่า ตา ยาย มีน้ำพริก ผักพื้นบ้านเป็นอาหารหลัก ปลา ไก่ มีบ้างแต่ไม่บ่อยนัก ภาพแบบนี้แหละครับเป็นภาพวิสัยทัศน์หรือจินตนาการของคนที่ดูแลผู้ป่วยเบาหวานทุกคนอยากจะเห็น ถ้าแบ่งภาพนี้เป็นส่วนๆ จะเห็นว่าประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญดังนี้ครับ
1. โรงพยาบาล
2. หน่วยบริการปฐมภูมิ
3. ประชาชนในชุมชน
ภาพจิ๊กซอว์ในส่วนของโรงพยาบาล ประกอบด้วยตัวต่อสำคัญหลายตัว เช่นแพทย์ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวาน (อายุรกรรม, ศัลยกรรม, สูติกรรม, จักษุแพทย์, ฯลฯ) พยาบาลทั้งพยาบาลชุมชน พยาบาลห้องผ่าตัด พยาบาลวอร์ดต่างๆ นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด เภสัชกรและอื่นๆอีกมากมายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คนจัดการระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานต้องสามารถผนึกกำลังของตัวต่อสำคัญเหล่านี้ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเข้าขาและสอดคล้องกัน
ภาพในส่วนของหน่วยบริการปฐมภูมิหรือสถานีอนามัย ตัวต่อตัวนี้เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาลกับชุมชน ถ้าสะพานนี้มั่นคงแข็งแรงการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งบริการดูแลรักษา จากโรงพยาบาลสู่ชุมชน จากชุมชนสู่โรงพยาบาลก็จะเป็นไปด้วยความราบรื่นไม่ติดขัด ความสำคัญอีกประการหนึ่งของตัวต่อตัวนี้คือ ความที่เป็นสถานบริการทางสาธารณสุขที่ใกล้ชิดประชาชนที่สุดคือเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนย่อมมีศักยภาพที่จะโน้มน้าวเหนี่ยวนำให้กลุ่มคนในชุมชนตระหนักว่าการดูแลสุขภาพให้ได้ดีต้อง ร่วมมือกันไม่สามารถจะใช้วิธีฝากผีฝากไข้ได้เหมือนเมื่อก่อน ประเด็นสำคัญก็คือ การสร้างพฤติกรรมชีวิตใหม่หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคที่สามารถป้องกันได้ โดยบุคลากรสาธารณสุขเป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุน
ภาพจิ๊กซอว์ส่วนที่สำคัญที่สุดที่ผมเรียกว่า “เพื่อนร่วมงานคนสำคัญ”ตัวต่อกลุ่มนี้มีส่วนกำหนดความสำเร็จหรือล้มเหลวของระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานเป็นอย่างมาก “เพื่อนร่วมงานคนสำคัญ” กลุ่มนี้คือประชาชนในชุมชนที่ร่วมดูแลสุขภาพกับเราอยู่นั่นแหละครับ ในกลุ่มของตัวต่อกลุ่มนี้ ประกอบด้วย บุคคลหลากหลายที่มีบทบาทหรือสถานะในชุมชนแตกต่างกัน แต่ในบทบาทที่ไม่เหมือนกันนั้นต่างก็เป็นกำลังสำคัญที่จะเกื้อหนุนให้ระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานสามารถขับเคลื่อนไปได้ อย่างราบรื่น ยกตัวอย่างเช่น พระภิกษุหลายรูปอันเป็นที่เคารพนับถือของคนในชุมชน ท่านสามารถใช้บทบาทความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ เทศนาสั่งสอนโน้มน้าวคนในชุมชนหันหน้ามาสู่พฤติกรรมชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการหลีกเลี่ยงอบายมุขและสิ่งเสพติด บางวัดถึงกับมีกฎเหล็กไม่ว่าจะมีงานบุญ งานศพ ใดๆก็ห้ามสิ่งเหล่านี้เข้ามาข้องแวะในวัดอย่างเด็ดขาด วัดบางแห่งชักชวนคนเข้ามาใช้สถานที่ของวัดเพื่อการออกกำลังกายเป็นกลุ่มเป็นก้อน นอกจากได้สุขภาพดีแล้ว ยังได้สนุกสนานเฮฮาเกิดความสัมพันธ์อันดีของคนในชุมชนเป็นผลพลอยได้ มีพระภิกษุจำนวนไม่น้อยที่เป็นห่วงสุขภาพของคนในตำบลช่วยแนะนำชาวบ้านเรื่องวิถีชีวิตการกินการอยู่ที่เหมาะสม (ไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม )เพื่อป้องกันโรคร้ายเช่นเบาหวาน จะเห็นได้ว่าตัวต่อกลุ่มนี้มีความสำคัญไม่น้อย ถ้าคนที่ดูแลผู้ป่วยเบาหวานในชุมชนสามารถเข้าถึงดึงมาเป็นแนวร่วมได้ จะได้แรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ทำให้เกิดการสร้างพฤติกรรมชีวิตเพื่อสุขภาพดีสำหรับคนในชุมชนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ผู้นำท้องถิ่น เช่น นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็มีส่วนสำคัญมิใช่น้อย บางท่านเป็นบุคคลที่ชาวบ้านเคารพนับถืออยู่แล้ว บางท่านก็มีความมุ่งมั่นสร้างผลงานเพื่อประชาชนในฐานะที่ขันอาสาเข้ามาทำงาน ตัวต่อกลุ่มนี้มีศักยภาพในบทบาทผู้นำตามตำแหน่งครับถ้าเห็นด้วยกับระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานในชุมชน แรงสนับสนุนอย่างเป็นทางการโดยเฉพาะงบประมาณของท้องถิ่นจะได้รับความสะดวกเป็นอย่างยิ่ง
ตัวต่อที่สำคัญอีกกลุ่มหนึ่งคือ ครู ในหลายชุมชนครูมีบทบาทสำคัญในการนำทิศทางของคนในชุมชนนั้นๆเพราะตามสถานะที่ครูมีหน้าที่อบรมสั่งสอนบุตรหลานของคนในชุมชน ความนับหน้าถือตาจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ บวกกับแรงสำคัญอีกแรงหนึ่งคือเด็กนักเรียน ถ้ามีการถ่ายทอดเรื่องราวความรู้เรื่องพฤติกรรมสุขภาพที่ดีเพื่อการป้องกันโรคเบาหวานให้แก่เด็กนักเรียน เราจะได้ประโยชน์ 2 อย่างครับ
· เด็กจะเกิดการเรียนรู้ตั้งแต่เล็กๆ เพื่อกล่อมเกลาให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่ดีกับตัวเอง เช่นรู้จักเลือกกินอาหารที่เหมาะสม ดูแลตัวเองไม่ให้อ้วน เล่นกีฬาออกกำลังกายเป็นกิจวัตรประจำวัน เป็นต้น
· เด็กจะส่งผ่านสิ่งที่ได้เรียนรู้ ไปสู่พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ ด้วยความรักที่มีในครอบครัวอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยงได้อย่างเป็นรูปธรรม
กลุ่มอาสาสมัครในชุมชน(อสม) กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้อย่างมาก ถ้าผู้ดูแลผู้ป่วยเบาหวานสามารถเข้าถึง เข้าใจ ติดอาวุธความรู้เรื่องสุขภาพให้แก่ อสม. และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับตัวต่อกลุ่มนี้ได้ เราจะมีแนวร่วมที่มีศักยภาพสูงแทรกซึมเข้าถึงทุกบ้าน ทุกคุ้ม ทุกหมู่ในชุมชน เกิดเป็นขุมกำลังอันสำคัญที่จะเข้าถึงทั้งกลุ่มปรกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วยได้แบบตัวต่อตัว
ถ้าในชุมชนใดมีกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของผู้ดูแลผู้ป่วยที่ต้องพยายามค้นหาผู้ป่วยที่เป็นบุคคลต้นแบบ (good model) หรืออาจจะเรียกว่าผู้ป่วยชั้นดีที่สามารถเป็นแบบอย่างในการสร้างพฤติกรรมชีวิตใหม่อยู่กับเบาหวานได้อย่างปรกติสุข และพร้อมสนับสนุนคนต้นแบบเหล่านี้ให้ดึงดูดโน้มน้าวผู้ป่วยคนอื่นๆให้ปฏิบัติตามได้อย่างเป็นรูปธรรม คนต้นแบบเป็นตัวต่อตัวที่สำคัญในชุมชน เพราะสามารถถ่ายทอดแนวทางปฏิบัติตัว ในฐานะที่เป็นผู้ป่วยเบาหวานเหมือนกัน อยู่ในสิ่งแวดล้อมสังคมเดียวกัน และสามารถจะถ่ายทอดได้ทั้งความรู้และความรู้สึกครับ
เพื่อนร่วมงานคนสำคัญที่สุดในชุมชนสำหรับผม ในที่นี้จะเรียกว่า “ตัวต่ออันทรงพลัง” คนทำงานดูแลผู้ป่วยเบาหวานต้องค้นหาเองในชุมชนครับ บางชุมชนตัวต่ออันทรงพลังคนนี้อาจจะเป็นกำนัน พระ คนต้นแบบ หรือใครต่อใครที่กล่าวถึงมาแล้วข้างต้น คุณสมบัติสำคัญของตัวต่อตัวนี้คือมีพลังผลักดันทุ่มเทและความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ เป็นเหมือนตัวจักรสำคัญที่ทำให้ฟันเฟืองของระบบดูแลผู้ป่วยเบาหวานในชุมชนสามารถขับเคลื่อนไปได้ ถ้าใครค้นพบ “ตัวต่ออันทรงพลัง” นี้ถือว่าระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานในชุมชนประสบความสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง
ภาพจิ๊กซอว์ของเพื่อนร่วมงานคนสำคัญจะสมบูรณ์ชัดเจนไม่ใช่เป็นเพียงภาพฝัน เกิดจากการที่เราดึงตัวต่อสำคัญๆเหล่านี้มาประกอบกันได้อย่างถูกที่ถูกเวลา บางตัวต่อเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ บางตัวต่อต้องพยายามค้นให้พบ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ว่า ผู้ดูแลผู้ป่วยเบาหวานเข้าใจหรือไม่ว่าความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากพลังของเพื่อนร่วมงานกลุ่มนี้