เด็กทำผิดอย่าโทษเด็กฝ่ายเดียว


เด็กทำผิดอย่าโทษเด็กฝ่ายเดียว

รศ.ดร.คมเพชร ฉัตรศุภกุล อาจารย์ประจำภาควิชาการแนะแนวและจิตวิทยาทางการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงการเลี้ยงลูกในยุคที่พ่อแม่ต้องทำงานและไม่ค่อยมีเวลาว่า
       
ในช่วงขวบวัยตั้งแต่ที่แม่ตั้งครรภ์ถึงอายุ 6 ขวบเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงวัย 4 - 6ขวบเป็นช่วงวัยที่เด็กสร้างบุคลิกภาพตัวเองขึ้นมา เด็กบางคนเป็นคนใจร้อน บางคนใจเย็นสุขุม เชื่อฟังพ่อแม่ ว่านอนสอนง่ายจะอยู่ในช่วงขวบวัยนี้ อีกทั้งเด็กจะเรียนรู้เรื่องจริยธรรมรู้ว่าอะไรผิด อะไรเป็นสิ่งที่ดีก็อยู่ในช่วงวัยนี้
       
หากพ่อแม่ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ถือว่าเป็นวัยที่น่าห่วงมาก เด็กบางครอบครัวถูกพ่อแม่เลี้ยงอย่างเก็บกด เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กเก็บกดซึ่งน่าสงสาร ระยะแรกเด็กอาจจะไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่วันหนึ่งที่เขาสะสมความเก็บกดจนถึงขีดหนึ่งเขาจะระเบิดมันออกมา จะเห็นได้จากเด็กหรือวัยรุ่นหลายคนที่ทำผิด หรือเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองที่ผิดๆ

"อยากวิงวอนพ่อแม่ทุกครอบครัวว่า เมื่อเราหนีการเป็นพ่อแม่ไม่พ้น เราต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ต้องเลี้ยงลูกอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง มีเหตุมีผล ให้ความอบอุ่นกับพวกเขา แม้ว่าในยุคสมัยนี้พ่อแม่ต้องช่วยกันทำงาน เนื่องจากเศรษฐกิจที่รัดตัว หากแต่บทบาทในความเป็นพ่อแม่เราทิ้งไม่ได้
       
อย่าเอาคำว่าไม่มีเวลาหรือต้องหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเป็นข้ออ้างในการให้ความอบอุ่นกับลูก พ่อแม่ปฏิเสธไม่ได้ในทุกกรณี
       
หากเรายังปล่อยปละละเลยลูก เด็กจะมีปัญหาและจะเริ่มก่อตัวรุนแรงมากขึ้นๆ หัวใจเด็กไทยในยุคนี้พร้อมจะแตกสลายได้ง่ายมาก จึงอยากฝากเตือนทุกครอบครัวช่วยกันดูแลลูกให้ดีที่สุด?

?ในส่วนของโรงเรียนซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2และครูก็เป็นพ่อแม่คนที่ 2 ต้องช่วยกันฟูมฟักให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นคนดีในสังคมให้ได้ โดยครูต้องมีความเป็นธรรม ให้ความเสมอภาคกับเด็กทุกคน ไม่ใช่แสดงกับเด็กอย่างไม่เท่าเทียมกัน เลือกปฏิบัติจนเด็กไม่ไว้วางใจครู ไม่อยากเข้าใกล้ ครูต้องมีมโนธรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และต้องรู้จักสอนเด็กให้รู้จักเรียนรู้สังคมในความเป็นจริง
       
เด็กบางคนอาจจะมาจากครอบครัวที่ขัดสนเขาจะรู้สึกตัวเองมีปมด้อยทางด้านสังคม แต่ครูต้องชี้ให้เห็นว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เราเลือกเป็นคนดี และเป็นคนเก่งได้แต่หากครูละทิ้งหน้าที่ในการสอนหรือให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เด็กจะหลงผิดเป็นชอบ อาจจะเชื่อว่าหาเงินด้วยวิธีไหนก็ได้ ขออย่างเดียวให้มีเงิน เพื่อนก็จะยอมรับ และจะนำพาเด็กสู่การคิดและกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเข้าสู่อบายมุขในที่สุด
       
ครูต้องสรรสร้างบุคลิกภาพที่ถูกต้องให้เด็ก อย่างบางคนมีปัญหามาจากบ้าน ครูและโรงเรียนต้องเป็นที่พักพิงให้เด็กได้จะเห็นว่าครูสมัยนี้ต้องทำงานให้ครบวงจร ไม่ใช่มีหน้าที่สอนเพียงอย่างเดียว ใครที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นครู ต้องรับสภาพเหล่านี้และต้องมีวิญญาณของการอยากช่วยเหลือคนได้อย่างแท้จริง แต่ครูทุกวันนี้ก็ยังขาดในเรื่องจิตวิญญาณ"
       
รศ.ดร. คมเพชร กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยสะท้อนให้เห็นว่าเราละเลยปัญหาเด็ก

 

บ่อยครั้งที่เราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วิจารณ์เด็ก กล่าวโทษเด็กอย่างไม่มีเหตุผล หากอยากเห็นเด็กคิดดี ทำดี ผู้ใหญ่และสังคมต้องเป็นแบบอย่างที่ดีก่อนไม่ใช่เมื่อเด็กกระทำผิดก็โยนปัญหาว่าเด็กเลวแต่ไม่เคยก้มลงดูตัวเองว่าผู้ใหญ่ในวันนี้เป็นแบบอย่างให้เด็กได้มากพอแล้วหรือยัง
       

20 กันยายนเป็นวันเยาวชนแห่งชาติเพิ่งผ่านไปอยากให้ผู้ใหญ่ทุกคนได้กลับมาทบทวนตัวเอง ไม่ใช่พอถึงวันเยาวชนแห่งชาติก็มาให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนกันแค่วันเดียว จากนั้นวันต่อไปๆ ก็ยังมองเด็กในสายตาเดิมๆ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ไม่เกิดประโยชน์กี่ปีๆ ปัญหาเด็กและเยาวชนไม่มีทางแก้ไขได้แต่จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อ

ที่มา :http://www.aksorn.com

หมายเลขบันทึก: 209530เขียนเมื่อ 17 กันยายน 2008 20:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 17:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีคะ อาจารย์ประภาส

เห็นด้วยนะคะ เด็กวัยรุ่น ต้องช่วยกันทั้งครู พ่อแม่ ไม่ปล่อยให้เป็นภาระของครูอย่างเดียว พ่อแม่ก้ต้องส่งเสริมและเติมเต็ม ช่วยกันพัฒนา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท