เมื่อ 2 blogger ชื่อดังแห่ง gotoknow บุก ม.อ. : รายงาน ไม่สด 2 : เมื่อท่านวิทยากร นำ LO ไปสู่ น้ำท่วมโลก


จึงเกิดบรรยากาศการเรียนรู้ ระหว่างพัก

ก่อนอื่น  ต้องขอโทษนะคะ  ที่ไม่สามารถรายงานสดได้  ไม่ทราบว่าวันนี้ ระบบเน็ต เป็นอะไร  ติด ๆ หลุด ๆ ตลอดเลยค่ะ ยังไงก็จะทยอยนำขึ้นนะคะ

 

ช่วงเบรคเช้า  ดร.วรภัทร์  ได้เกริ่นนำ เรื่อง LO โดยเริ่มจากแนะนำประวัติส่วนตัว  ท่านเล่าให้ฟังว่า  ท่านไม่ได้มาหาดใหญ่นานแล้ว  กว่า 10 ปี

เมื่อก่อนเคยทำระบบ   ISO  ให้ 14 จังหวัดภาคใต้  ภายหลังมาทำเรื่องการศึกษา  และ ร่วมก่อตั้ง สมศ. ถนัด ทางด้าน QA, ช่วย สมศ.ตรวจประเมินภายนอก  หลังจากนั้น ไปบวช   และเมื่อสึกออกมา จึงค้นพบว่า LO  กับ  ธรรมมะ นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน

 

LO  ของท่าน  คืออะไร

-  Living  Organization  เป็นองค์กรมีชีวิต


-  องค์กรเรียนรู้  ไม่ใช่  องค์กรแห่งการเรียนรู้


-  สิ่งมีชีวิต  ต้องเรียนรู้  เพื่อ ให้และรับ  เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน (Sustainable Growth)


ปรากฎว่า มนุษย์ยุคนี้ ไม่ได้ทำอย่างงั้นเลย หากย้อนมาที่เศรษฐกิจพอเพียง  จะค้นพบว่าเป็นทางออก ในหลาย ๆ เรื่อง

-  สิ่งมีชีวิต  ต้องเรียนรู้  ที่จะปรับตัว  กับ Habitat (แหล่งอาศัย)
กวางจะต้องรู้เสมอ  ว่าเสืออยู่ไหน  กวางจะขอบคุณเสือ ที่เสือมาช่วยกินตัวที่อ่อนแอที่สุดในฝูงให้  ถือเป็นการรักษาสมดุล  การรักษาผืนหญ้า เมื่อเสือมากิน ทำให้เกิดการปรับสมดุลย์ให้

จะเห็นได้ว่า เรื่อง  LO  ทั้งหมด  ทำไปทำมา มันคือวิถีไทย  นั่นเอง  แต่ฝรั่งไปตกแต่งชื่อให้หรู  ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันมีอยู่ในวิถีไทยทั้งนั้น

 

LO  เป็นการเล่นเรื่องธรรมชาติ  เล่นเรื่องคน หากจะมองให้ลึก  LO ก็คือ การเรียนรู้ถึงนิสัยเบื้องลึกของคนในองค์กรนั่นเอง

และเมื่อ ดร.วรภัทร์  ได้ยกกรณี การเกิดน้ำท่วมโลก  หากเรายังไม่สามารถปรับตัวให้สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้  เราจะลำบาก  ซึ่งในช่วงนี้  ผู้เข้าอบรม  ต่างก็เริ่มหันเห สนใจ มาให้ความสำคัญกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลกในเรื่องนี้ จนถึงขนาดสอบถามในเรื่องดังกล่าว ระหว่างช่วงพักกลางวันกันยกใหญ่ ว่าจังหวัดที่ตนอยู่นั้น จะรอดพ้นจากน้ำท่วมโลก หรือไม่    จนมีพี่เข้าอบรมท่านหนึ่ง  ท่านบอกว่า "เป็นคน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็ดีเหมือนกันนะคะอาจารย์  เพราะเราไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วมโลกเลย  แค่เราเอาตัวให้รอดจากระเบิดก็พอแล้ว"

ฮากันทั้งห้องเลยค่ะ พี่น้องเอ้ย

จะสนุกสนานอย่างไร ดูจากภาพประกอบแล้วกันนะคะ สุดจะบรรยายเลยค่ะ

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 208847เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2008 15:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
  • นี่ยังไม่เห็นภาพยังฮาขนาดนี้
  • เห็นภาพจะขนาดไหน
  • รอดูๆๆครับ

แหม มาเร็วทันใจจริง น้องพี่

รีบ ๆ ตามมาดูภาพนะคะ

หลับตา ยังนึกภาพ บรรยากาศเรียนรู้คู่ความฮา ได้เลยค่ะ

  • ฮาจริงๆๆด้วย
  • ดูพี่คนเสื้อขาว
  • ฮาสุดๆๆ
  • โปรดสังเกต อาจารย์ไร้กรอบ
  • ใส่เสื้อตัวเก่งอีกแล้วครับ
  • อิอิๆๆ
  • แซวอาจารย์บาปไหมเนี่ย

อิอิอิ

เรียนรู้รับรู้ค่ะ

ขอบคุณจ่ะ

อาจารย์ผมไป มอ. ด้วย

คิดถึง มอ. ครับ

น่าสนุกจังเลยน่ะ

มาทักทายครับ

สวัสดีค่ะ คุณแป๊ด

  • ไม่พบกันนานเลย สบายดีนะคะ
  • การทำให้เกิดองค์กรเรียนรู้ก็คือ ทำให้คนในองค์กรอยากรู้ในเรื่องเดียวกัน สังเกตได้การพูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร หากเป็นละครชิงรักหักสวาท แล้วดูมาด้วยกันละก้อ...ถอดบทเรียนและประสบการณ์ตรงของตัวเข้าร่วมไม่หวัดไม่ไหว...
  • ดังนั้น  หากอยากให้เกิดองค์กรเรียนรู้...ต้องสร้างวิกฤตให้เกิดในองค์กร  จึงเห็นโอกาสที่เค้าช่วยกันหาเพื่อพัฒนาค่ะ...แทคติ๊คนี้ดีมั้ยคะ...อิอิ
  • คิดถึงคุณแป๊ดและเพื่อนๆชาว ม.อ.เสมอนะคะ

พี่ติ๋วขา

ตอนนี้อยู่พร้อมหน้าที่ ม.นเรศวรค่ะ

มีคุณแป๊ด คุณจิ๊บเมตตา หนูอึ่ง อิอิอิ

สามเกลอหัวแข็ง

โห...น้องอึ่ง....

น่าอิจฉาจริงๆ..คืนนี้ได้นอนกอดกันกลมแน่ๆ...อิอิ

ฝากความคิดถึงมายังคุณแป๊ดและคุณเมตตาด้วยค่ะ

รักษาสุขภาพกันทุกๆคนนะคะ

...คิดถึงทุกคนเสมอ...

  • เพิ่งตามฮาครับ....อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท