ทำไมต้องวิเคราะห์ระบบ
กระแสโลกาภิวัตน์ ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านของสังคมมนุษย์ จนมีคำกล่าวว่า “ความเจริญทางเทคโนโลยีและการสื่อสารทำให้โลกเล็กลง” เพราะมีการติดต่อสื่อสารทันอย่างรวดเร็วแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นสังคมเปิดจึงมีโอกาสได้รับทราบความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในโลกช่วงพริบตา
กระแสโลกาภิวัฒน์ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตคนไทยอย่างมากมายโดยเฉพาะทางด้านข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ เราต้องใช้ปัญญามากขึ้น วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลมากขึ้น ทุกคนต้องปรับและรับกระแสความเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ที่มีประสบการณ์ย่อมเอาตัวรอดได้อย่างปลอดภัย แต่เด็กและเยาวชนไทยที่น้อยด้วยประสบการณ์พวกเขาจะอยู่รอดได้อย่างไร จึงเป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายโดยเฉพาะผู้ที่ได้ชื่อว่า “ครู” ซึ่งเปรียบเสมือนแม่พิมพ์ของชาติที่มีหน้าที่จัดการเรียนการสอนให้เด็กได้เรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข
แต่ปัจจุบัน ครูของเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสอนของตนเองที่เคยใช้อยู่ตั้งแต่ในอดีตแล้วหรือยัง ครูตื่นตัวในการปฎิรูปการเรียนการสอนของตนเองแค่ไหนเพียงใด หรือครูยังใช้รูปแบบวิธีสอนเดิม ๆ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ถึงเวลาแล้วที่ครูต้องหันกลับมามองและทบทวนบทบาทและวัฒนธรรมการสอนของตนเองเสียใหม่เพื่อสร้างให้ผู้เรียนได้เกิดวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ทันต่อกระแสโลกาภิวัฒน์ เสริมสร้างให้เขาเป็นบุคคลใฝ่รู้ใฝ่เรียน ฝึกให้เขาเหล่านั้นใช้ความสามารถที่สูงกว่าความสามารถธรรมดา ๆ ที่เคยคิดปฏิบัติ ให้เขาได้เรียนรู้โลกใหม่แต่ไม่ลืมธรรมชาติและท้องถิ่นของตนเอง จึงเป็นหน้าที่ของครูผู้สอนที่จะต้องตรวจสอบระบบการเรียนการสอนของตนเองใช้มาในอดีตให้เหมาะสมต่อไป
ดังนั้น ถ้าครูมีการดำเนินการสอนอย่างเป็นระบบ ประสานสอดคล้องเป็นเหตุเป็นผลต่อกันสัมพันธ์กันทุกส่วนของระบบทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพย่อมส่งผลถึงคุณภาพของงานสอนตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินสอนของครูในทุกสาขาวิชาชีพมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ จึงต้องมี “การจัดระบบการเรียนการสอน” ให้เหมาะสมกับสภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน