ปาจิตตีย์ มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ 7
โย ปะนะ ภิกขุ มาตุคามัสสะ อุตตะริฉัปปัญจะวาจาหิ…
“อนึ่ง ภิกษุใดแสดงธรรมแ่ก่มาตุคามยิ่งกว่า 5-6 คำ เว้นไว้แต่มีบุรุษผู้รู้เดียงสาอยู่ เป็นปาจิตตีย์.”
อนาบัติ
1.มีบุรุษผู้รู้เดียงสาอยู่ด้วย 2.ภิกษุแสดงธรรมเพียง 5-6 คำ 3.ภิกษุแสดงธรรมหย่อนกว่า 5-6 คำ 4.ภิกษุลุกขึ้นแล้วนั่งแสดงธรรมต่อไป 5.มาตุคามลุกขึ้นแล้วนั่งลงอีก ภิกษุแสดงแก่มาตุคามนั้น 6.ภิกษุแสดงแก่มาตุคามอื่น 7.มาตุคามถามปัญหา ภิกษุถูกถามปัญหาแล้วกล่าวแก้ 8.ภิกษุแสดงธรรมเพื่อประโยชน์แก่คนอื่นอยู่ มาตุคามฟังอยู่ด้วย 9.ภิกษุวิกลจริต 10.ภิกษุอาทิกัมมิกะ ไม่ต้องอาบัติแล.
เรื่องต้นบัญญัติ
พระอุทายีแสดงธรรมกระซิบที่หูของสตรีทำให้ผู้อื่นสงสัย พระผู้มีพระภาคจึงทรงบัญญัติสิกขาบทห้ามแสดงธรรมแก่สตรี ภายหลังมีเหตุเกิดขึ้น จึงทรงบัญญัติเพิ่มเติมว่า ภิกษุแสดงธรรมแก่มาตุคาม (สตรี) เกิน 6 คำ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เว้นแต่มีชายผู้ รู้เดียงสาอยู่.
องค์แห่งบัญญัติ 1.แสดงธรรมยิ่งกว่า 6 คำ 2.มาตุคามเป็นหญิงมนุษย์ที่รู้คำชั่วดีและหยาบไม่หยาบ 3.ไม่เปลี่ยนอริยาบถ 4.ไม่มีชายผู้รู้ความอยู่ด้วย 5.ไม่ใช่กาลวิสัชนาปัญหา พร้อมด้วยองค์ 5 ดังนี้ จึงเป็นปาจิตตีย์ (บุพพสิกขาวรรณนา หน้า185).
http://ariyavinaya.wordpress.com
ไม่มีความเห็น