ปาจิตตีย์ มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ 3ุ
ภิกขุเปสุญเญ ปาจิตติยัง.
“เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะส่อเสียดภิกษุ.”
วิภังค์
ที่ชื่อว่า ส่อเสียด คือ ฟังคำของฝ่ายนี้แล้วบอกแก่ฝ่ายโน้น เพื่อทำลายฝ่ายนี้ ฟังคำของฝ่ายโน้นแล้วบอกแก่ฝ่ายนี้ เพื่อทำลายฝ่ายโน้น
ขยายความว่า วัตถุสำหรับเก็บมาส่อเสียด มีได้ด้วยอาการ 2 อย่าง คือ
ภิกษุเก็บเอาวัตถุสำหรับส่อเสียดมากล่าวโดยอาการ 10 อย่าง คือ 1.ชาติ 2.ชื่อ 3.โคตร 4.การงาน 5.ศิลปะ 6.โรค 7.รูปพรรณ 8.กิเลส 9.อาบัติ 10.คำด่า.
อนาบัติ
1.ภิกษุไม่ต้องการจะให้เขาชอบ 2.ภิกษุไม่ประสงค์จะให้เขาแตกกัน 3.ภิกษุวิกลจริต 4.ภิกษุอาทิกัมมิกะ ไม่ต้องอาบัติแล.
เรื่องต้นบัญญัติิ
ภิกษุฉัพพัคคีย์ พูดส่อเสียดภิกษุสองฝ่ายซึ่งทะเลาะกัน ฟังความข้างนี้ไปบอกข้างโน้น ฟังความข้างโน้นไปบอกข้างนี้ เพื่อให้แตกร้าวกันทำให้ทะเลาะกันยิ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบ จึงทรงบัญญัติสิกขาบท ปรับอาบัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้พูดส่อเสียดภิกษุอื่น.
องค์แห่งอาบัติ 1.ได้ยินภิกษุด่าว่าด้วยอักโกสวัตถุมีชาติเป็นต้น ไม่อ้างผู้อื่นแล้วนำไปบอกแก่ภิกษุผู้ถูกด่า 2.หวังจะให้ผู้ถูกด่ารักใคร่ตัว หรือให้เธอทั้ง 2 แตกกัน อย่างใดอย่างหนึ่ง 3.ผู้ถูกด่านั้นรู้ความ พร้อมด้วยองค์ 3 ดังนี้ จึงเป็นปาิจิตตีย์ (บุพพสิกขาวรรณนา หน้า 180).
http://ariyavinaya.wordpress.com
ไม่มีความเห็น