ปาจิตตีย์ มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ 5
โย ปะนะ ภิกขุ อะนุปะสัมปันเนนะ อุตตะริท๎ิวิรัตตะติรัตตัง…
“อนึ่ง ภิกษุใดสำเร็จการนอนร่วมกับอนุปสัมบัน ยิ่งกว่า 2-3 คืน เป็นปาจิตตีย์.”
อนาบัติ
1.ภิกษุอยู่ 2-3 คืน 2.ภิกษุอยู่ไม่ถึง 2-3 คืน 3.ภิกษุอยู่ 2 คืนแล้ว คืนที่ 3 ออกไปก่อนอรุณ แล้วอยู่ใหม่ 4.อยู่ในสถานที่มุงทั้งหมด ไม่บังทั้งหมด 5.อยู่ในสถานที่บังทั้งหมด ไม่มุงทั้งหมด 6.อยู่ในสถานที่ไม่มุงโดยมาก ไม่บังโดยมาก 7.อนุปสัมบันนอน ภิกษุนั่ง 8.ภิกษุนอน อนุปสัมบันนั่ง 9.หรือนั่งทั้งสอง 10.ภิกษุวิกลจริต 11.ภิกษุอาทิกัมมิกะ ไม่ต้องอาบัติแล.
เรื่องต้นบัญญัติ
อุบาสกไปฟังธรรม นอนค้างที่วัด ในหอประชุม ภิกษุบวชใหม่ก็นอนร่วมกับเขาด้วย เป็นผู้ไม่มีสติ สัมปชัญญะ นอนเปลือยกาย ละเมอ กรน เป็นที่ติเตียนของอุบาสกเหล่านั้น พระผู้มีพระภาค จึงทรงบัญญัติสิกขาบท ปรับอาบัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้นอนร่วมกับอนุปสัมบัน (ผู้มิใช่ภิกษุ) ต่อมาทรงผ่อนผันให้นอนร่วมกันได้ไม่เกิน 3 คืน
องค์แห่งอาบัติ 1.เสนาสนะเป็นวัตถุแห่งปาจิตตีย์ 2.นอนกับอนุปสัมบันในเสนาสนะนั้น 3.อาทิตย์อัสดงคตลับไปในวันที่สี่ พร้อมด้วยองค์ 3 ดังนี้ จึงเป็นปาจิตตีย์(บุพพสิกขาวรรณนา หน้า 183).
http://ariyavinaya.wordpress.com
ไม่มีความเห็น