ประชาชนที่ให้ประชาชนเลือกเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน


อย่ายึดติด เมื่อได้อำนาจ ยศตำแหน่ง ควรละวางด้วยอย่าลืมตัว
     
      สวัสดีครับ
        วันนี้ผมมีเรื่องที่อยากจะคุยด้วย ขอเวลาคุย
เรื่องการเมืองด้วยนะครับ ผมเห็นเรื่องยุ่งเหลือ
เกินว่าทำไม  คนเราพอเป็นใหญ่ทำไมพูดกันไม่รู้
เรื่อง ผมสงสัยใครจะตอบผมได้บ้าง ผมจะยก
ตัวอย่างอะไรสักเรื่อง มีเพื่อนผู้ชายด้วยกันเรียน
จบมาด้วยกันกินเที่ยวด้วยกันนอนด้วยกันไปไหน
ไปกันรู้และเข้าใจในความเป็นเพื่อนกันได้ดี ก็ไป
สอบเข้าราชการด้วยกันอีกคนสอบได้อีกคนสอบ
ไม่ได้งานนั้นเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจ เพื่อนคนที่
สอบเข้าไม่ได้ก็กลับมาอยู่บ้าน เพื่อนอีกคนที่สอบ
ได้ก็เข้าไปรับราชการในเมืองแล้วได้มาเจอเพื่อน
เก่าที่เคยเที่ยวเคยกินมาด้วยกันแต่อุปนิสัยและคำ
พูดเปลี่ยนไปมากเขารู้กฎหมายหมดเลยไม่ว่าจะ
พูดอะไรมา(ก่อนนั้นไม่รู้เรื่องกฎหมายเลยแต่พอ
สอบเข้าได้ยังไม่ได้ไปเรียนรู้เขาก็รู้เสียแล้วนี่
แหละครับมนุษย์)นี่คือการบอกเล่าที่มีอีกมากมาย
เรื่องอย่างนี้ทุกถิ่นทุกที่และบางคนก็ลืมไปเลยว่านี่
คือเพื่อนกันเคยไปมาหาสู่ซึ่งกันและกันแต่พอมี
อำนาจมียศทุกอย่างก็เปลี่ยนไป มันเป็นเพราะ
อะไร นี่คืออำนาจ และยศตำแหน่งใช่ไหม แต่เวลา
ออกจากราชการแล้ว ท่านผู้อ่านเคยได้ยินเขาพูด
กันบ้างไหมว่า ไอ้คนคนนี้เมื่อตอนมันทำงานมี
อำนาจไม่รู้จักใครเลย แต่พอหมดอำนาจมันเดิน
ทักเขาไปทั่ว แต่ไม่ค่อยจะมีคนสนทนาด้วยเพราะ
ว่าเกลียดเวลารับราชการทำหยิ่ง เขาบอกว่า
นักการเมืองก็เหมือนกันเวลาจะลงเลือกตั้งทีไร ก็
มาทำความรู้จักยกมือไหว้ไปทั่วจะรู้จักหรือไม่รู้จัก
ก็ไหว้ไปหมดทุกคนที่เดินผ่านไปมา นี่คือเขาต้อง
การเข้าไปเป็นคนมีอำนาจมีตำแหน่งทางการ
เมือง อำนาจที่ประชาชนมอบให้แต่เมื่อได้อำนาจ
ที่ประชาชนมอบให้แล้ว ถ้ากลุ่มคนพวกนี้ไม่ชอบ
ใจก็ใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้ แล้วนำอำนาจที่
ได้รับจากประชาชน กลับมาทำร้ายประชาชน
ทันที   ที่ความคิดเห็นต่างกัน นี่เห็นไหมโทษของ
อำนาจก่อนที่จะได้อำนาจนั้นไป ก็อ่อนน้อมถ่อม
ตนดีนัก ประชาชนชาวบ้านพูดจาอะไรเชื่อฟังหมด
แต่พอได้อำนาจเวลาใด ประชาชนที่มอบอำนาจ
ให้นั้น ลักษณะเหมือนจะเป็นคนไม่รู้ไปในทันที
หรือจะเรียกให้ชัดเจนก็คือ ผู้ที่มอบอำนาจให้ก็คือ
ประชาชนนั้นโง่ทันที ทั้งทั้งที่ก่อนที่เขาจะถูกคัด
เลือกเข้าไปทำหน้าที่ก็เป็นคนพื้นบ้านมาด้วยกัน
แต่พอได้อำนาจเข้า ทุกอย่างในตัวของผู้ที่ได้รับ
อำนาจนั้น จะเปลี่ยนไปทันที มันเป็นเพราะอะไร
และเวลาผู้ที่มอบอำนาจให้หรือให้ความไว้วางใจ
เข้าไปทำหน้าที่แทน เวลาจะพูดจาอะไรก็ไม่เคย
รับฟังเลย รู้อย่างเดียวว่าเมื่อได้รับอำนาจ ข้าคือผู้
ฉลาดทันที อย่างนี้เวลามีการเลือกตั้งเข้าไปอีก
แล้ว เราต้องให้อำนาจแก่เขาเหล่านั้น ต้องเลือก
นักการเมืองให้ดี ก่อนที่เราจะให้อำนาจกับนักการ
เมือง ถ้าแจกเงินให้รีบรับไว้ ให้มาก เอามาก ให้
น้อยไม่เอาต้องเอามากๆ แต่ถึงเวลาเลือก อย่า
อย่า ไปเลือกคนพวกนี้ เพราะเขาใช้เงินมาซื้อ
เสียงจากเรา วันที่เขาให้เงินเรา ลำดับ แรกก็ดูถูก
เราแล้วและ ลำดับ ต่อมาเมื่อเราได้เงินแล้วก็ไม่มี
บุญคุณต่อกัน เรื่องอย่างนี้สำคัญมาก พวกเราชาว
ประชาที่อยู่ในประเทศทั้งหลายเราต้องช่วยกัน ถ้า
เราเลือกคนไม่ดีเข้าไปเราจะได้รับปัญหาที่เขา
ต้องการ แต่ไม่ถูกใจเรา เรายังจะเลือกคนพวกนี้
อีกหรือ และเห็นไหมเวลาเขาต้องการอะไร ต้อง
ทำให้ได้ พวกนักการเมืองไม่เคยพูดกันเลยว่า
ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากพวกเรานักการ
เมืองสร้างกันเองทั้งสิ้น หาเหตุให้บ้านเมืองกันเอง
หรือเปล่า เพราะม่มีใครที่จะเข้ามาวุ่นวายเท่ากับ
พวกนักการเมืองกันเองเลย คนในประเทศของเรา
ที่มีคุณภาพยังมีอีกมากมายไม่ต้องกลัวว่าประเทศ
ของเราจะไม่มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาบริหาร
ประเทศ ถ้าขาดนักการเมืองน้ำเน่าในปัจจุบันจะ
ทำให้ประเทศของเราล่มจมก็หาไม่ ถ้าเราได้
นักการเมืองรุ่นใหม่ที่ไม่ใช้เงินเราจะดีขึ้น เพราะ
เราต้องเลือกคนดีจริงๆ กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ใช้
ดีหมดทุกฉบับ แต่ที่ไม่ดีเพราะนักการเมืองเข้ามา
แล้วไปสดุดกับกฎหมายเข้าทำอะไรไม่สดวก จึง
ต้องขอแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย
จนกว่าจะถูกใจท่านว่าจริงไหม และทุกท่านสังเกตุ
ไหมว่านักการเมือง บอกว่าทำทุกอย่างเพื่อ
ประเทศชาติ และรักษาผลประโยชน์ให้กั
ประชาชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนักการเมืองไม่เคย
มองตัวเองเลยว่า สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในเวลานี้
เป็นการสร้างเงื่อนไขให้กับกลุ่มคนของตัวเอง
แต่อ้างผลประโยชน์ของประชาชนและของ
ประเทศชาติ บ้างบอกว่าประเทศชาติบอบช้ำแล้ว
เวลานี้ แต่ไม่จริงความบอบช้ำประเทศไม่มีปัญหา
แต่ความบอบช้ำเกิดจากการกระทำของนักการ
เมืองที่ไม่ประสบความสำเร็จในการที่จะได้อำนาจ
มา บริหารประเทศต่างหาก แต่เขาไม่คิดเลยว่าเขา
เข้ามามีอำนาจแล้วจะต้องออกไป เมื่อเข้ามาแล้ว
ตาม รัฐธรรมนูญ อย่างถูกต้อง แต่ก็ต้องยอมรับ 
รัฐธรรมนูญ นั้นด้วย เพราะก่อนเข้ามามีอำนาจก็รู้
อยู่แล้วว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับนี้เขียนไว้อย่างไรเมื่อ
รับไม่ได้ก็ไม่ต้องเข้ามามีอำนาจหรือเข้ามารับใช้
ประชาชนและประเทศชาติจะดีกว่า ถ้าจะแก้
รัฐธรรมนูญ ต้องให้เวลา รัฐธรรมนูญ ผ่านไป ยี่สิบ
ปีจึงค่อยแก้ไขได้ตามเวลาอันสมควรต่อประชาชน
และต่อประเทศชาติ ไม่ใช่แก้เพราะคณะและกลุ่ม
บุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น การแก้ความวุ่นวายใน
ความคิดผมเวลานี้ให้แก้ตรงที่
หนึ่ง ผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งจากการเลือกตั้งของ
ประชาชนให้อยู่ในอำนาจแค ่ระยะสองปีเท่านั้น
สอง ผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งแล้วเมื่อครบวาระ
สองปี ให้เลือกตั้งใหม่ แต่ผู้ที่เคยถูกเลือกเข้าไป
แล้วห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งอีกไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ
ทั้งสิ้น จะลงสมัครเลือกตั้งได้อีกต้องใหระยะเวลา
ผ่านไปแล้วอีก สิบห้าปี และผู้ที่มี นามสกุลเดียว
กันก็ห้ามลงเช่นกันถือว่าสกุลนี้ได้ทำหน้าที่การ
เมืองแล้ว ถ้าจะลงอีกต้องรอให้ถึงสิบห้าปีเช่นกัน
เหตุผล เพราะเราไม่ต้องการให้มีอำนาจสืบทอด
เพราะเราจะเห็นได้ว่าเวลานี้พอ พ่อเป็นนักการ
เมืองก็นำ ลูก เมีย เข้ามาเลือกตั้งตามวิธี
ประชาธิปไตยถูกต้องทุกอย่าง แต่เป็นการสืบทอด
อำนาจเราไม่ต้องการให้อำนาจอยู่ในคนกลุ่มเดียว
หรือคณะเดียวเท่านั้น 
สาม ทุกคนที่จะมาลงเลือกตั้งจะทุ่มเงินซื้อเสียง
สักเท่าไร อย่าห้าม ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย
ให้ซื้อเสียงเข้าไปไม่ต้องตรวจสอบ ประชาชนผู้รับ
เงินก็อย่าลืมคิดค่าคะแนนเสียงให้มากเข้าไว้
(เพราะทุกวันนี้ก็ตรวจสอบจับไม่ได้ไล่ไม่ทันอยู่
แล้ว บางครั้งจับได้ยังทำอะไรไม่ได้ คนมันจะโกง
จะทิ้งหลักฐานไว้ทำไม มีส่วนน้อยที่จับได้ไล่ทัน
และก็ถูกลงโทษตามกฎหมาย)
สี่ คณะตรวจสอบต้องเอาผิดให้ได้กับผู้ที่เข้ามามี
อำนาจอย่างเคร่งครัด ห้ามลูบหน้าปะจมูกหรือจับ
แต่ตัวเล็กเท่านั้น
ห้า ให้สังเกตุให้ดีประเทศของเรามีการเลือกตั้ง
มากมายหลายตำแหน่ง เช่น เลือกผู้ว่ากรุงเทพฯ
สส. สว. เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาล
ตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหาร
ส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตำแหน่งที่ยังไม่
กล่าวมายังมีอีกมาก เมื่อท่านรักประเทศชาติจริงก็
ให้คนอื่นรักประเทศบ้างแล้วท่านก็สามารถไป
สมัครตำแหน่งการเมืองตำแหน่งอื่นๆอีกก็ได้ไม่ใช่
จ้องแต่จะเข้าสภากันท่าเดียว เป็นการเขียนของ
ผมที่เป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะอำนาจสูง
สุดใครจะยอมให้ผ่านมือไป
หก ที่เขียนอย่างนี้เพราะคนมีเงินเท่านั้นที่จะมี
อำนาจ เราต้องการให้คนที่ไม่มีเงินเข้ามาบริหาร
ประเทศบ้าง จะเถียงว่าข้อความหรือข้อคิดนี้ไม่ถูก
ต้องเป็นไปไม่ได้ เพราะจะทำให้ เสียงบประมาณ
หลายพันล้าน แต่ถ้าคิดให้ดีเวลานี้เราเฉลี่ยหรือยัง
ว่าเราเลือกตั้งแต่ละครั้งรัฐบาลอยู่บริหารประเทศ
อัตราเฉลี่ยแล้ว อย่างน้อยก็สองปีแล้วเลือกตั้งใหม่
อย่าลืมนะครับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จากที่ผมเขียนนี้
ขอให้เป็นไปได้และให้เป็นจริงด้วยในเวลาอันใกล้
นี้เพื่อลดกระแสการเมืองได้แน่และท่านเห็นไหมผู้
ที่เคยได้เป็นใหญ่และพอหมดอำนาจก็เงียบหาย
ไปแต่พอมีอำนาจก็เข้ามา
*บ้าอำนาจ และคนที่ไม่เคยมีอำนาจ เมื่อได้
อำนาจนั้นบ้างก็เช่นเดียวกัน*
เจ็ด เราควรจะมีโรงเรียนัีกการเมืองสอนการ
เมืองอย่างเดียวใครที่จะลงเลือกตั้งเป็นตัวแทน
ของประชาชนต้องผ่านโรงเรียนนักการเมืองไม่
อย่างนั้นไม่รับสมัครแต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ผมแนะ
นำเพราะนักการเมืองที่เข้ามามีอำนาจบริหาร
ประเทศยัง ขาดสามัญสำนึก คุณธรรม จริยธรรม
อีกมาก แต่นักการเมืองที่ดีก็มีมาก แต่ถ้าดีจริง
อย่างนั้นแล้วท่านมาทะเลาะกันทำไม
คำเขียนของผมในวันนี้อาจจะไม่ถูกใจในกลุ่มคน
ความคิดมุมมองที่ต่างกันออกไป ก็อย่าว่าผมนะ
ครับ เพราะผมเขียนตามความรู้สึกที่เคยได้
สนทนากันมาจากบุคคลต่างๆกันไปจึงนำเรื่องนี้มา
เล่าให้ฟังยังมีอีกมากครับที่เราต้องแก้ไขมนุษย์ที่
อยู่ร่วมกัน แต่หวังชิงดีชิงความเป็นใหญ่ชิงความ
ร่ำรว ก็จะมีเรื่องอีกมาก เพราะเท่าที่
สังเกตุ ทุกวันนี้ ประชาชนของประเทศเราก็ยัง
ต้องอ่านภาษาเดียวกันแท้ๆ แล้วยังต้องแปลภ่าษา
เดียวกันอีก คอยจ้องแต่เอาแง่เอามุม เข้าต่อสู้กัน
เท่านั้น น่าเสียดายประเทศของพวกเรา *ที่บอกว่า
ประเทศของเราถอยหลัง  ล้าหลังประเทศอื่นมาก
เพราะเรามัวแต่ทะเลาะกันเอง ไม่จริงหรอก
ประเทศของเราไม่ถอยหลังมีแต่จะเจริญเดินหน้า
ไปได้ดีตลอดเวลา แต่ที่ถอยหลังนั้นก็
*พวกนักการเมืองมากกว่าที่ถอยหลังทางด้านจิต
ใจ สามัญสำนึก และล้าหลังด้วยพวกนี้ไม่มองตัว
เองมองแต่ว่า อ้างอย่างเดียวประเทศถอยหลังคิด
ดูให้ดีว่าใครถอยหลังกันแน่ นี่ดีนะที่เราไม่มีศึก
สงครามจากภายนอก แต่พวกเราประเทศเดียวกัน
พูดภาษาเดียวกัน ต้องมาห้ำหั่นกันเอง เราไม่มีศึก
สงครามใช่ไหมเราจึงไม่อยากรักกัน
สุดท้ายนี้ ผมขอให้ทุกคนที่รักประเทศและหวังดี
ต่อประเทศชาติทุกคน ขอให้รักประเทศอย่าง
เสมอต้นเสมอปลายจงเป็นพลเมืองดีของประเทศ
แล้วประเทศจะให้ความสุขอุดมสมบูรณ์แก่ท่าน จง
อย่ารักประเทศจนหัวปรักหัวปรำ อย่ารักประเทศ
แบบจอมปลอมใส่สูทเข้ามาปล้นชาติปล้นแผ่นดิน
และพยายามอย่ารักประเทศอยู่กลุ่มเดียวหรือ
คณะเดียวให้ประชาชนคนอื่นเขาเข้ามาบริหาร
ประเทศบ้าง รักประเทศบ้างเถิดครับ ท่านผู้มี
อำนาจทั้งหลาย ผมขอให้ทุกท่านจงมีความสุข 
ร่มเย็นนะครับ มีธรรมประจำใจกันด้วยครับ
สวัสดี
จากแก้ว สาริกา
089 9039098

 

 



ความเห็น (2)

อำนาจที่แท้จริง คือ สิ่งที่จรรโลงสังคม ทำสิ่งถูกให้ถูก ทำสิ่งผิดให้ผิด

แต่อำนาจนั้นน่าหลงไหล ทำให้หลายๆคนที่มีอำนาจ กลับทำสิ่งตรงกันข้าม

ทำสิ่งผิดให้ถูก ทำสิ่งถุกให้จางหายไป....

อยากอ่านนะครับ

แต่ช่วยเว้นบรรทัดหน่อยเถอะครับ

จะเปนบร๊ะคุณอย่างยิ่ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท