ความหมักหมมของปัญหาเชิงโครงสร้างใหญ่ ซึ่งไทยมีอยู่ 4 เรื่อง ถือว่าเป็นภูเขาที่กั้นขวางให้เกิด หลุมดำ ซึ่งขณะนี้ไม่มีหน่วยงานใด หรือ รัฐบาลใด จะแก้ปัญหาได้ ซึ่งภูเขาใหญ่ทั้ง 4 ลูก คือ
1. วัฒนธรรมและโครงสร้างเชิงอำนาจ ที่มีอยู่ในเมืองไทยมาเป็นร้อยๆ ปี ทำให้สังคมมีการเรียนรู้น้อย ไม่สามารถเผชิญกับปัญหาได้
2. ระบบราชการและการเมืองที่ด้อยประสิทธิภาพ
3. ระบบการศึกษาที่คับแคบและอ่อนแอ การจัดการศึกษาของไทยไม่ได้ก่อให้เกิดการเรียนรู้หรือกระตุ้นต่อมใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้เกิดความเฉยเมย เฉยชา การศึกษามีเพียงผู้สอนกับผู้ถูกสอน ทั้งที่ความรู้คือการระเบิดพลังออกมาจากภายใน ทำให้คิดเป็น และ
4. ทิศทางการพัฒนาตามแนวทางเงินนิยม วัตถุนิยม และบริโภคนิยม
ซึ่งปัญหาเชิงโครงสร้างทั้ง 4 เรื่อง นำไปสู่การเจ็บป่วยทางสังคมเป็นร้อยๆ อาการ ทำให้เกิดความขัดแย้ง การเอารัดเอาเปรียบ ความรุนแรง การอุ้มฆ่า
การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างทั้ง 4 เรื่อง จะแก้ไขเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ แต่ต้องแก้ไขไปพร้อมๆ กันทั้ง 4 เรื่อง เพราะทุกเรื่องมีความเชื่อมโยงกัน
ที่ผ่านมาเรามีความพยายามที่จะปฏิรูประบบราชการ การเมือง และระบบการศึกษา ที่สุดท้ายก็กลายเป็นการปฏิรูปกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น
ในส่วนของการศึกษาเราต้องสร้างคนที่สามารถระเบิดภูเขาที่ขวางกั้นเป็นหลุมดำให้ได้ ต้องเป็นคนที่สามารถสร้างบิ๊กแบง หรือการระเบิดครั้งใหญ่ และต้องแก้ไขโครงสร้างของสังคมที่เน้นการแก้ไขปัญหาแบบแนวดิ่ง เน้นการใช้อำนาจ มาเป็นการแก้ปัญหาสังคมแบบแนวราบ คือให้ทุกส่วนของสังคม หรือประชาสังคม ได้ร่วมมือกันแก้ไข
องค์การทางการเมือง ราชการ พยายามปฏิรูปแต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีอำนาจถักทอกั้นอยู่ ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนสังคมไปสู่การเรียนรู้
การศึกษาก็ต้องเปลี่ยน ต้องปฏิรูปให้เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ให้ทุกคนได้เรียนรู้ร่วมกันทั้งครูและนักเรียนและต้องเปลี่ยนเศรษฐกิจจากเงินนิยม ทุนนิยม เป็นเศรษฐกิจแบบธรรมนิยม หรือเศรษฐกิจแบบพอเพียง ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ชุมชน สุขภาพ ไปพร้อมๆ กัน และเชื่อมโยงถึงกัน
การระเบิดของพลังครั้งใหญ่ เกิดจากอะไร
การระเบิดของพลังครั้งใหญ่ เกิดจาก 5 องค์ประกอบ คือ
1. พลังแห่งสัมมาทิฐิ ซึ่งหมายถึงพลังแห่งการสัมมาพัฒนา หรือทิศทางการพัฒนาที่ถูกต้อง
2. พลังแห่งบูรณาการภวะ คือการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นบูรณาการ ไม่แยกส่วน เพราะการแยกออกเป็นส่วนจะเป็นการทอนพลังกันเอง หรือขัดแย้งกัน
3. พลังสังคมเข้มแข็ง(สังคมานุภาพ)
4. พลังแห่งการเรียนรู้ใหม่อันไพศาล หรือนวัตกรรมการเรียนรู้ เราต้องปรับปรุงการเรียนการศึกษาใหม่ ซึ่งแต่เดิมเราแยกการศึกษากับการวิจัยออกจากกันซึ่งผิดมาก เราศึกษาเยอะแต่มีการวิจัยน้อย ประเทศจึงอ่อนแอ
5. พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน
โดยทั้ง 5 พลัง จะต้องระเบิดการเรียนรู้ออกไปทุกทิศทางของสังคม
ที่มาจาก: ศ.น.พ.ประเวศ วะสี ประธานมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และราษฎรอาวุโส ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง ยุทธศาสตร์รัตนโกสินทร์ ระเบิดพลังฝ่าหลุมดำ
สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง วิธีการที่เชื้อโรคเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง คือการกลายพันธุ์ แต่มนุษย์ไม่สามารถกลายพันธุ์ได้ เราจึงต้องอาศัยการเรียนรู้ แต่เราไปเรียนรู้จากอดีตก็คงไม่ทัน กว่าตำราจะพิมพ์ออกมาความรู้ก็ล้าสมัยไปแล้ว เราจึงไม่รู้ปัจจุบัน และไม่เข้าใจอนาคต ดังนั้น จึงต้องเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้ความรู้ การเรียนรู้ และการจัดองค์กรมาประสานกัน เป็นไตรวัฏฏะ จึงเกิดผู้นำตามธรรมชาติมาเพื่อจัดการกับองค์การจัดการความรู้ไงครับ พี่น้อง
มาเยี่ยมหลุมดำของสังคมค่ะ
สวัสดียามค่ำคืนครับ พี่เพ็ญ