ผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับคุณภาพของการศึกษา


ผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับคุณภาพของการศึกษา

ผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับคุณภาพของการศึกษา

 

โดย มติชน วัน ศุกร์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 02:01 น.

 

โดย นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้

ความเป็นผู้นำมาจากไหน

ผู้บริหารส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่มีอำนาจในการบริหารจัดการคน เงิน และงานเป็นสำคัญ ซึ่งอำนาจนี้ได้มาจากการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหาร การใช้อำนาจเหล่านี้กลับไม่เพียงพอที่จะรองรับการบริหารองค์กรท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากมาย ตัวอย่างสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาก็จะพบว่าการนำสถานศึกษาไปสู่ความสำเร็จในการสร้างเด็กให้มีสัมฤทธิผลทางการศึกษา (เก่ง) ควบคู่ไปกับการมีคุณลักษณะ (คุณธรรม) ต้องดำเนินการไปในขณะที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ปกครอง การมีเครือข่ายผู้ปกครอง ทำให้ต้องทำงานแบบเปิดกว้างมากขึ้น การมีระบบการประเมินภายนอก การมีระบบ Admission รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงผู้กำหนดนโยบายบ่อย (รัฐมนตรี 6 คนใน 6 ปี)

การบริหารที่ต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มากมายเหล่านี้ ทำให้ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าทำให้โรงเรียนมีคุณภาพได้อย่างไร ซึ่งเป็นความต้องการร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และจะต้องนำพาหรือได้รับการยอมรับจากผู้ร่วมงานในองค์กรเพื่อขับเคลื่อนการทำงานไปสู่ความสำเร็จ คือ คุณภาพตามความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้น การได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารที่สามารถควบคุมการเงินและงานได้จึงมิได้เป็นปัจจัยทำให้เกิดภาวะผู้นำ แต่ผู้นำในยุคใหม่จะต้องชี้นำสื่อสารและสร้างการเรียนรู้ อันจะเป็นการลดช่องว่างระหว่างผู้นำกับผู้ตาม หรือทำให้ผู้ร่วมงานสามารถตามทันวิสัยทัศน์ของผู้นำได้

กระบวนทัศน์เชิงระบบสำคัญอย่างไร

เดิมการนำองค์กรเกิดจากอำนาจในการควบคุมเงิน คน และงานเป็นสำคัญ กระบวนทัศน์การบริหารจึงเป็นแบบเส้นตรง ก็คือมีนโยบายหรือแนวคิดอะไรก็จะผลักดันเป็นกิจกรรมๆ ไป โดยกิจกรรมเหล่านี้จะมีผู้รับผิดชอบและมีงบประมาณไปให้ องค์กรจึงเต็มไปด้วยการแบ่งงาน แบ่งคน แบ่งเงิน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นการทำงานแบบแยกส่วนนั่นเอง การทำงานแบบแยกส่วนนี้แม้จะมีข้อดีคือ ทำให้เกิดการแบ่งงานและสร้างกิจกรรมได้มากมาย แต่ก็มีข้อเสียหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง (1) จะทำให้เกิดภาระงานและการใช้บุคลากร (ครู) จำนวนมาก เพราะกิจกรรมเหล่านั้นก็ล้วนต้องการให้ครูเป็นผู้ทำทั้งสิ้น (2) ภาระเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เกิดความอ่อนล้า เหนื่อยหน่าย หรือกระทั่งไม่ร่วมมือแล้ว ที่สำคัญกว่าก็คือ กิจกรรมเหล่านี้จะไปคนละทิศละทาง จนในที่สุดก็ไม่รู้ว่าเกิดผลกับคุณภาพของผู้เรียนอย่างที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลายต้องการหรือไม่ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นในการบริหารงานให้เป็นภาพรวมอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์

กระบวนทัศน์เชิงระบบมิใช่เพียงแต่ที่เรามักจำกันว่าเป็นเรื่องของ input, process, output ที่สำคัญเบื้องต้นก็คือการมองเห็นความสัมพันธ์ของระบบต่างๆ ในองค์กร และความสัมพันธ์ของกิจกรรมต่างๆ ในระบบ เช่น การมีระบบดูแลช่วยเหลือที่ดีจะช่วยให้การเรียนการสอนในระบบเรียนรู้ดีขึ้น เพราะนักเรียนและผู้ปกครองจะได้รับการดูแลอย่างดีตามระดับ (ปกติ เสี่ยงหรือมีปัญหา) เช่นเดียวกับการที่มีระบบกิจกรรมทั้งกิจกรรมเสริมหลักสูตร (เช่น ลูกเสือ/เนตรนารี หรือกิจกรรมตามวันและเทศกาลต่างๆ) และที่สำคัญกว่าคือ กิจกรรมนอกหลักสูตร (เช่น ชมรม/ชุมนุม ที่นักเรียนทำนอกเวลาเรียน) ก็จะช่วยให้นักเรียนได้ทำในสิ่งที่ตนสนใจซึ่งมีผลทำให้พฤติกรรมและการเรียนดีขึ้น ทั้ง 3 ระบบนี้อาจอยู่ภายใต้โครงสร้างการบริหารของโรงเรียน ตั้งแต่รองผู้อำนวยการ หัวหน้ากลุ่ม หัวหน้างานคนละคนกัน ถ้าไม่เข้าใจและส่งเสริมงานซึ่งกันและกันแล้ว ก็ยากที่จะมีคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ได้ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการแบ่งงานตามโครงสร้างการบริหาร ซึ่งใช้แนวคิดแบบเส้นตรงจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จ

ในแต่ละระบบยังประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่สัมพันธ์กัน ถ้าสถานศึกษามิได้วางระบบให้กิจกรรมเหล่านั้นสัมพันธ์กันอย่างดีก็ยากที่ทั้งระบบจะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เช่น ที่เราจะเห็นได้จากการแยกส่วนของการทำหลักสูตรและแผนการสอนกับการประเมินผลระหว่างภาคและปลายภาคในระบบการเรียนรู้ หรือการแยกส่วนระหว่างการคัดกรองกับการช่วยเหลือเด็กในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนหรือการแยกส่วนระหว่างกิจกรรมเสริมหลักสูตรกับกิจกรรมนอกหลักสูตรหรือนอกเวลาเรียนต่างๆ การที่จะต้องมองให้เห็นความสัมพันธ์ทั้งในระหว่างระบบและภายในแต่ละระบบ จึงเป็นกระบวนทัศน์ที่สำคัญที่ผู้นำจะต้องชัดเจนนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการบริหารจะช่วยผู้นำได้อย่างไร

เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ถ้าใครอบรมหลักสูตรผู้บริหารก็คงจะจำคำว่า POSCORB ได้ (Planning, Organization, Staffing, Coordinating, Reporting, Budgeting) แต่ในปัจจุบันท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก หลักทั้ง 6 เรื่องคงไม่เพียงพอในยุคนี้ จึงมีเรื่องใหม่ๆ และเครื่องมือใหม่ๆ ให้ผู้บริหารสามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้

ยุคแรกก็คือ การจัดการเชิงกลยุทธ์ เช่น มี SWOT ช่วยให้เกิดการวางวิสัยทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์องค์กร มี Balance score card ช่วยให้เกิดการนำยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติโดยมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนและสมดุลทั้งด้านประสิทธิภาพ ประสิทธิผล กระบวนการทำงานและนวัตกรรมการพัฒนา หรือการใช้ Strategy map เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างยุทธศาสตร์ต่างๆ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นการใช้กระบวนทัศน์เชิงระบบในการบริหารเชิงกลยุทธ์นั่นเอง

ปัจจุบันผู้บริหารก็จะคุ้นเคยกับอีกเรื่องหนึ่งคือการจัดการความรู้ เพื่อให้องค์กรตัดสินใจ และทำงานบนพื้นฐานความรู้ ขณะเดียวกันก็สร้างความรู้จากการทำงานควบคู่กันไป ซึ่งเรื่องหลังนี้จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในองค์กรที่ต้องการให้สมาชิกในองค์กรเข้ามามีส่วนร่วมในการนำประสบการณ์ความสำเร็จของแต่ละคนมาปรับปรุงคุณภาพการทำงาน ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความเข้มแข็งของทีมงานไปด้วย เพราะการจัดการความรู้จากการทำงานนี้ต้องอาศัยเครื่องมือที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ของทีม อย่างเช่นการใช้เรื่องเล่าเร้าพลังมาจัดการความรู้ และนำไปสู่การปรับปรุงการทำงาน หรือแม้กระทั่งปรับปรุงระบบ เช่น ปรับปรุงวิธีปฏิบัติในแต่ละกระบวนการทำงานให้ดีขึ้น

การจัดการคุณภาพเป็นนวัตกรรมการบริหารที่สำคัญ

หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญของผู้นำการเปลี่ยนแปลงก็คือการจัดการคุณภาพ ชื่อก็บอกความสำคัญอยู่แล้วว่าในวงการศึกษา คือ การทำให้นักเรียนมีคุณภาพ ที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลายต้องการนั้นต้องมีการจัดการโดยเฉพาะ เริ่มตั้งแต่การสร้างวงจรคุณภาพนั้นมาในทุกระบบงาน หรือวาง PDCA ที่คุ้นเคยกัน น่าเสียดายที่ความเข้าใจจุดตั้งต้นของวงจรนี้คือ P ว่าเป็นการวางแผนทำให้กระบวนการที่ตามมาทั้งหมดคลาดเคลื่อนไป ที่จริงความหมายของ P ในการจัดการคุณภาพนั้น ต้องการให้ทุกระบบมีการวางวัตถุประสงค์และกระบวนการทำงานที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์หรือคุณภาพตามความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงน่าจะแปลว่าการวางระบบมากกว่า เพราะเมื่อวางระบบได้ดี มีวิธีปฏิบัติในกระบวนการที่สนับสนุนให้ทุกคนในระบบทำตรงกัน (D) ก็จะทำให้ทุกคนทำงานโดยมีคุณภาพใกล้เคียงกัน หรือมีการผลิตซ้ำคุณภาพ ส่วนการประเมินทบทวนระบบ (C หรือ S) และการปรับปรุงระบบ (A) ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่อทำไปหลายๆ รอบ ระบบเหล่านั้นก็จะมั่นคงเป็นวัฒนธรรมขององค์กร แม้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ระบบก็ยังดำเนินดำเนินไปได้อย่างมีคุณภาพ แต่ถ้าเราเน้นแค่วางแผน ทำตามแผน ฯลฯ ในกิจกรรมต่างๆ ก็ไม่ทำให้ระบบงานที่จะมีกระบวนการและวิธีปฏิบัติอย่างชัดเจน และประกันว่ามีคุณภาพเกิดขึ้นได้ กิจกรรมต่างๆ ก็ยังคงคิดและดำเนินการอย่างแยกส่วนอยู่นั่นเอง

การจัดการคุณภาพทั้งองค์กรนั้นก็เป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการที่นำทั้งการจัดการเชิงกลยุทธ์ การจัดการความรู้และการจัดการคุณภาพ มาดำเนินการไปด้วยกันทั้งองค์กร ซึ่งทำให้เกิดความสำเร็จอย่างมากมายทั้งในองค์กรธุรกิจ รวมทั้งองค์กรสาธารณะ เช่น โรงพยาบาล จึงน่าจะเป็นสิ่งที่วงการศึกษาได้เข้าไปเรียนรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้

สถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ (สวร.) เป็นมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมการเรียนรู้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ได้พัฒนานวัตกรรมการจัดการคุณภาพที่เชื่อมโยงกับการจัดการเชิงกลยุทธ์ และการจัดการความรู้ นวัตกรรมที่ได้วิจัยจนกระทั่งนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง ก็คือ นวัตกรรมการพัฒนาคุณภาพภายในสถานศึกษาหรือการประกันคุณภาพที่มักรู้จักในชื่อ ToPSTAR ซึ่งมุ่งให้เกิดการจัดการคุณภาพใน 10 ระบบที่สัมพันธ์กันของสถานศึกษาและนวัตกรรมการเทียบระดับ หรือ Benchmarking ซึ่งมุ่งหมายให้เกิดการก้าวกระโดดของการพัฒนาคุณภาพโดยอาศัยการศึกษาความสำเร็จของผู้อื่น การดำเนินงานในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดบทเรียนมากมายที่น่าจะนำมาเล่าสู่กันฟังและแลกเปลี่ยนระหว่างนักการศึกษา ผู้บริหาร ครูและผู้ปกครองที่สนใจในการศึกษา

คอลัมน์ ระบบดี โรงเรียนมีคุณภาพ เวทีใหม่ทุกวันพฤหัสบดี

ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ทุกวันพฤหัสบดี สถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ (สวร.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะนำเสนอบทความภายใต้ชื่อคอลัมน์ระบบดี โรงเรียนมีคุณภาพ เพื่อเป็นเวทีการนำเสนอแนวคิดและประสบการณ์การบริหารสถานศึกษาให้มีคุณภาพตามความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย โดยใช้แนวคิดเชิงระบบ ซึ่งผู้บริหารในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงจะได้ประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นคงต้องสามารถพิสูจน์ได้จากที่คุณภาพของผู้เรียนที่จะเกิดขึ้นจากการนำองค์กรของตนเอง หวังว่าท่านที่จะบริหารหรือมีส่วนร่วมในการบริหารการเปลี่ยนแปลง คงได้ใช้ประโยชน์จากสาระของคอลัมน์นี้

หน้า 27 

 

 

หมายเลขบันทึก: 206366เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2008 13:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท