ภาคเช้าวันที่ 8 ก.ค. 51 ผมนั่งอยู่ที่สำนักงานของแก่น กำลังรวบรวมความคิดเรื่อง KM ว่าจะทำอะไรกันบ้างในโครงการ อาจารย์สมใจหรือคุณน้อยก็คุยแลกเปลี่ยนขึ้นมาว่า
งานเกษตรนั้นจำเป็นจะต้องตอบคำถามว่า โมเด็ลของการเกษตรผสมผสานคืออะไร และการเพิ่มผลผลิตในพืชต่างๆนั้นสรุปได้ว่าอย่างไร เพื่อนำไปขยายต่อในพื้นที่โครงการระยะที่สอง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างไร ?
ดูเหมือนว่า น้อย จะมุ่งเป้าการสรุปบทเรียนนี้มาที่ KM ซึ่งผมรับผิดชอบอยู่ครึ่งตัว แต่ก็ตอบ น้อย ไปว่า
พี่รับ KM ก็จริง แต่ลองมาพิจารณาเรื่องการสรุปบทเรียนนี้มาดู พบว่าเรามีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย คือ
ผู้เชี่ยวชาญเกษตรกลาง |
ผู้รับผิดชอบแผนงานนี้เป็นหลัก |
ที่ปรึกษาประจำจังหวัด |
ผู้รับผิดชอบงานต่างๆในพื้นที่ |
ผู้เชี่ยวชาญ HRD กลาง |
ในความหมายที่เข้าใจกันนั้นน่าจะรวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรโครงการและผู้นำเกษตรกรด้วย |
ผู้รับผิดชอบ KM |
ในฐานะจะต้องจัดการความรู้และสร้างระบบความรู้ |
หน่วยงานราชการอื่นๆในท้องที่ |
ร่วมสนับสนุนการทำงานของเรา |
สำหรับเรื่องนี้ยัง งงๆกันอยู่ว่า ใครจะรับผิดชอบส่วนไหน อย่างไร ต่างฝ่ายต่างก็คาดหวังว่าคนนั้นควรรับผิดชอบงานนี้ ฝ่ายนี้ควรรับผิดชอบงานนั้น พูดอีกทีก็คือมั่วๆ กันไป
เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด และพูดคุยเจรจากันให้เกิดความชัดเจน ควรปรึกษาหารือกันให้ถึงที่สุดโดยเร็วที่สุด
ฝ่าย KM นั้น คือผมที่มีตำแหน่งนี้ครึ่งตัวจากผู้จัดการจังหวัด และงาน KM แม้จะมีตำแหน่ง แต่ไม่มีแผนงานพิเศษใน proposal ความคิดผมในเรื่อง KM กับคนอื่นๆคิดก็คงไม่ตรงกัน จึงคิดว่าน่าที่จะคุยกัน ผมลองถาม น้อย ว่า คิดอย่างไร ดูเหมือนน้อยจะคิดว่า KM จะทำอะไรมากมายตามสาระของ KM ก็อาจจะใช่บางส่วน แต่นั่นเหมือนกับจะต้องมีทีมงานทำเรื่องนี้อย่างเข้าใจ
ผมลองยกตัวอย่างว่า หากไม่มีตำแหน่ง KM แล้วจะทำอย่างไร ก็เหมือนว่าทุกคนต่างก็ช่วยกันทำ ในทำนองเดียวกันเมื่อมี KM ก็คงอยู่ในสภาพเดียวกันคือ ทุกคนต้องช่วยกันทำ เพียงแต่ KM อาจจะยกร่าง กระบวนการนี้มาปรึกษาหารือกับฝ่ายเกษตรและจัดทำแผนงานบูรณาการดำเนินการขึ้นมาเพื่อนำไปประชุมร่วมกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมกับ น้อย จึงคุยกันถึงงานตัวอย่างเรื่องการทำแปลงทดลองข้าว โดย List ขั้นตอนต่างๆลงมาให้หมดอย่างละเอียด เน้นว่าอย่างละเอียดยิบ แล้วแบ่งความรับผิดชอบกัน จึงเป็นที่มาของ “ร่างการบูรณาการความรับผิดชอบ กิจกรรมแปลงทดลองข้าว” ดังที่แนบมา
เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่งานด้านอื่นๆจึงส่งมาให้ทุกท่านและโปรดพิจารณาจัดทำงานของท่านขึ้นในลักษณะเดียวกันแล้วนำไปเข้าที่ประชุมในวันที่ 15-16 ก.ค.นี้ ที่มุกดาหารนะครับ
นอกจากนี้แล้วผมมีความคิดที่จะทำ flow chart ในเรื่องนี้ด้วย แต่ใส่รายละเอียดมากขึ้นเพื่อให้เข้าใจร่วมกัน เป็นเทคนิคที่ใช้กัน เรียกว่า sustainability analysis
สวัสดีค่ะ พี่ชาย
ครูอ้อยแวะมากล่าวว่า...คิดถึงค่ะ
รักษาสุขภาพนะคะ
สวัสดีครับครูน้องอ้อย
คิดถึงครูน้องอ้อยและครอบครัวเช่นกัน
ขอบคุณมากครับ
(กำลังเป็นหวัดอย่างแรง รักษาตัวอยู่ครับ)
สวัสดีค่ะพี่บู๊ท
ทราบว่าพี่บู๊ทไม่สบาย ก็พยายามติดต่อค่ะ แต่มักไม่ค่อยมีสัญญาน
มาวันนี้เห็นพี่บู๊ทเข้ามาตอบ commentแล้ว ดีใจจัง
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
รออ่าน blog พี่ชายอยู่ค่ะ
น้องหนิงที่คิดถึง
มีอะไรให้ช่วยไหมคะพี่ชาย ยินดีนะคะ แต่คงไม่ใช่ช่วง 17ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน หรอกเนอะ เพราะช่วงนั้นหนิงไม่อยู่ไทย ไปอเมริกาอ่ะค่ะ
ขอบคุณมากครับน้องหนิงที่อาสาจะช่วย พี่กำลังปรึกษากับเจ้านายว่า หากต้องการเต็มหลักสูตรก็ต้องใช้งบประมาณ จะสนับสนุนได้ไหม หากได้ ก็คงจัดเต็มรูป หากไม่มีงบก็เอาแบบวงเล็กๆ ว่ากันไปตามสภาพที่อำนวย
เต็มรูปคือเชิญข้าราชการ สปก.มาร่วมด้วย แบบวงเล็กคือไม่มีเจ้าหน้าที่ มีเพียงเจ้าหน้าที่โครงการเท่านั้นครับ
แล้วพี่จะส่งข่าวครับ ขอบคุณอีกครั้ง
น้องหนิงจะไป เมกา ช่วงปลายเดือน ไปศึกษาดูงานหรือครับ กำหนดวันฝึกอบรมยังต้องปรึกษากันต่อไปครับว่าเหมาะสมเมื่อไหร่ครับ
น้องหมอเจ๊ครับ 7. หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พี่บู๊ทคะ
พี่ทราบหรือยังคะ อ.จารุจินต์ นภีตะภัฏ นักธรรมชาติวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองไทย จากพวกเราไปแล้ว.. แวะมาบอกข่าวคนในแวดวงนิยมธรรมชาติอ่ะค่ะ