ไม่แน่ใจว่าการเดินทางมุ่งหน้าไปจังหวัดลพบุรีบ่อยครั้งและครั้งล่าสุดเดินทางไปที่จังหวัดนครนายก เมืองที่ได้ชื่อว่า “เมืองในฝันที่ใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพิษ” เกิดจากการติดอกติดใจในความสวยงามของสถานที่ หรือว่าเกิดจากการดูแลและต้อนรับที่ตรงกับจริตของผม (และคนข้างกาย)
ทำให้การเดินทางที่ใช้เวลา (ไป-กลับ) ร่วมสิบชั่วโมงนั้นเป็นเสมือนการไปพักผ่อนที่ทุ่งนาหลังบ้าน....เราจึงได้ไปซ้ำแล้วซ้ำอีก..ไม่มีเหน็ดเหนื่อย...
ทุกครั้งของการมาเยือนเราได้รับการชักชวนจากเจ้าของบ้านให้ไปท่องเที่ยวชมวัด
เราได้เห็นวัดที่เงียบสงบ เงียบเสียจนได้ยินเสียงของหัวใจตนเอง ... จนผมติดใจแทบจะหนีไปปลีกวิเวกและตัดขาดจากโลกภายนอก...
วัดที่มีผู้คนพลุกพล่าน จนเราไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงประชาสัมพันธ์จากกองอำนวยการให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียนเครื่องบูชา....
และที่วัดเขานางบวชผมได้พบความเงียบสงบ แทบไม่มีใครเลยนอกจากคณะเราสามชีวิต...มีเพียงเสียงธรรมชาติเป็นเพื่อน....เนื่องจากวัดตั้งอยู่ท่ามกลางการโอบล้อมของขุนเขาและต้นไม้น้อยใหญ่
โดยเฉพาะต้นยางนาขนาดบิ๊กบะเริ่ม....ต้องใช้สามคนโอบเป็นอย่างน้อยจึงจะสามารถโอบได้รอบลำต้น
.....
ทำให้คิดถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคตรัสสอนแก่นสารแห่งพระพุทธศาสนาให้แก่พราหมณ์ปิงคลโกจฉะ ที่เชตวนาราม โดยใช้ต้นไม้เป็นสื่อ (เครื่องมือ) การสั่งสอนธรรม...มีความบางตอนกล่าวว่า
“...บุรุษต้องการแก่นไม้ แต่ถากเอาสะเก็ดไม้ไป หรือบ้างก็เอาเปลือก เอากะพี้ เอากิ่งและใบไม้ไป โดยสำคัญผิดคิดว่าเป็นแก่น ก็ไม่ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ถากเอาไป...”
สรุปนัยของคำสอนก็คือ
-ลาภสักการะชื่อเสียง เปรียบเหมือนกิ่งไม้ใบไม้
-ความอุดมด้วยศีล เปรียบเหมือนสะเก็ดไม้
-ความอุดมด้วยสมาธิ เปรียบเหมือนเปลือกไม้
-ความอุดมด้วยปัญญา เปรียบเหมือนกะพี้ไม้
-ความหลุดพ้นแห่งใจอันไม่กลับกำเริบ เปรียบเหมือนแก่นไม้*
แก่นสารแห่งพระพุทธศาสนา* คือการหลุดพ้นที่ไม่กลับกำเริบ
แล้วแก่นสารแห่งชีวิต...อยู่ที่ไหนกัน!!
ชีวิตผม...หัวใจของผมมีแก่นหรือว่ากลวงหนอ....!!
แต่หากมันจะกลวงเพื่อเพิ่มที่ว่าง เพื่อสามารถเอาหัวใจของคนอื่นๆ มาใส่ไปในใจของผม ก็คงเป็นการดีกว่าการมีหัวใจที่คับแคบ....
“The best and most beautiful things in the world cannot be seen or even touched, they must be felt within the heart.” Helen Keller.
เวลานี้ผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ครับ
ขอบคุณไกด์ใจดีที่นำเที่ยวทั้งวัน
บุญรักษาครับ
ผมยังไม่เดินทางกลับครับ...บันทึกต่อไปจะพาไป “ปีนป่ายไต่เขาสูดโอโซน” เสื้อ-ผ้า-หน้า-ผม ไม่ต้องใส่ใจ เตรียมแค่รองเท้าที่กระชับกับหัวใจนักอนุรักษ์ดวงเดียว....ไปปีนเขาออกแรงเรียกเหงื่อก่อนอาหารมื้อเช้ากันได้เลย...
*อ่านเพิ่มเติมให้เต็มอรรถรสได้ที่ “พระไตรปิฎก” ฉบับสำหรับประชาชน โดยมหามกุฏราชวิทยาลัย หน้า48-50
แจงแวงๆๆๆๆ มาแอบดูสาวเสื้อแดงแจงแวง อิอิ ^^ ว่าแต่ทำไมมีแค่เบื้องหลัง อยากดูเบื้องหน้าบ้างค่ะ
แจงแวงๆๆ น้องต้อม มาไวจัง
ไปหม่ำข้าวก่อน
(เบื้องหน้าให้ดูไม่ได้...ยังไม่อยากลงจากตำแหน่งประธานฯ)
อิๆ ฮ่าๆ
แล้วแก่นสารแห่งชีวิต...อยู่ที่ไหนกัน!! ชีวิตผม...หัวใจของผมมีแก่นหรือว่ากลวงหนอ....!! แต่หากมันจะกลวงเพื่อเพิ่มที่ว่าง เพื่อสามารถเอาหัวใจของคนอื่นๆ มาใส่ไปในใจของผม ก็คงเป็นการดีกว่าการมีหัวใจที่คับแคบ....
ชอบมากครับข้อคิดที่ได้ มากมายมหาศาล.....ยิ่งนัก
ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆมาฝากครับ
รพี
สวัสดีครับ รพี กวีข้างถนน
ขอบคุณครับ
จะมาบอกว่าแอบ "จิ๊ก" รูปข้างบนไป อิอิ
น้องต้อม เนปาลี
สวัสดีครับ อ.อ็อด naree suwan
สวัสดีครับ อ.ขจิต ฝอยทอง
สวัสดีครับอาจารย์ นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)
ขอบคุณครับ
อ.อ็อดครับ naree suwan
แก้ไขพิกัดแล้วนะครับ...กลัวต้องนั่งเสียดาย (เสียใจ) ที่ไม่มีสถานที่สวยงามและสงบให้ดูในภายหลังเนอะ
หายเหนื่อยจากการไต่เขาแล้วนะครับ...ไปคราวหน้าต้องห่อข้าวเหนียวส้มตำไปนั่งดื่มด่ำชมวิว 360 องศา ไม่มืดไม่กลับบ้าน..
สวัสดีค่ะท่านหัวหน้า
สวัสดีค่ะ คุณพิทักษ์ มีโอกาสเลยแวะมาทักทายค่ะ
รู้สึกเห็นใจกับชีวิตคนเมืองกรุงค่ะเพราะเวลาไปวัดแทนที่จิตใจจะสงบกลับพกเอาความสับสนและวุ่นวายใจติดตัวกลับบ้านไปด้วย
นับว่าเป็นความโชคดีที่ดิฉันอยู่บ้านนอกค่ะ เพราะวัดแถวที่บ้านไม่ว่าจะเข้าไปเช้า สาย บ่าย เย็น ก็รู้สึกสงบร่มเย็น นอกจากได้ยินเสียงเต้นของหัวใจเราแล้ว ยังได้ยินเสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยร้องกันอยู่เต็มไปหมด สัตว์ทุกชนิดปล่อยอิสระเสรีแต่ค่ำมาก็กลับเข้ามานอนที่วัดกันหมด บางครั้งนกยูง(ซึ่งเลี้ยงอยู่ที่วัด)ก็บินมาเกาะที่หลังคาบ้านเป็นประจำ พอค่ำมาก็กลับเข้าวัดกันหมด ชาวบ้านไม่เคยจับและทำร้าย แค่เข้าประตูวัดก็รู้สึกเย็นสบาย ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้แบบไทยๆ ไม่ใช่ไม้ดัดไม้ประดับอย่างบางวัด
ดิฉันเคยไปวัดใหญ่ๆ เหมือนกันแต่ดูเหมือนทุกวันนี้จะกลายเป็นวัดแบบทำธุรกิจไปแล้ว(ไม่รู้มองโลกในแง่ร้ายรึเปล่า)แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มาเที่ยวแถววัดบ้านนอกกันเถอะค่ะแม้ไม่มีเครื่องลางของขลังจำหน่าย แต่กลับออกไปใจก็สงบสุข
สวัสดีครับน้องหมีเชอรี่ทะเลดาว
ภาพนี้จากวัดเวฬุวัน พระประธานเด่นอยู่บนยอดเขา สงบมากๆ จนลืมความวุ่นวายของโลกภายนอกไปชั่วขณะ
แต่คงไม่กล้าปลีกวิเวก...(อิอิ)
สวัสดีครับ อ.อ็อด naree suwan
แวะมาชมชอบมาก " หากใจมันจะกลวงเพื่อเพิ่มที่ว่าง เพื่อสามารถเอาหัวใจของคนอื่นๆ มาใส่ไปในใจของผม ก็คงเป็นการดีกว่าการมีหัวใจที่คับแคบ
" และ "เราได้เห็นวัดที่เงียบสงบ เงียบเสียจนได้ยินเสียงของหัวใจตนเอง"
คนอยู่ใกล้กว่าแค่อยุธยายังไม่เคยไปเลยค่ะ อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจจะต้องไปอ้อนหัวหน้าทัวร์ให้พาไปบ้างซะแล้วนะคะ
สวัสดีครับ wp2509
สวัสดีครับพี่นุช คุณนายดอกเตอร์