"คุณหญิงกษมา"...ฉายภาพ ปฏิรูปการสอน"ภาษาอังกฤษ"


ปฏิรูปการสอน"ภาษาอังกฤษ"

"คุณหญิงกษมา"...ฉายภาพ ปฏิรูปการสอน"ภาษาอังกฤษ"



คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของ ศธ.ว่า ที่ประชุมได้นำข้อสรุปจากการประชุมโต๊ะกลมเกี่ยวกับเรื่องนี้มากลั่นกรอง และเห็นตรงกันว่านโยบายการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่ 1 เป็นเรื่องที่เหมาะสมควรดำเนินการต่อไป ยกเว้นในบางโรงเรียนที่อาจมีความจำเป็นต้องใช้ภาษาอื่นก็สามารถเสนอมาได้ ส่วนจะให้เริ่มการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้น ป.1 หรือไม่นั้น ในที่ประชุมเห็นว่าถ้าให้ดีก็ควรเริ่มตั้งแต่ชั้น ป.1 ได้ แต่ไม่ควรเป็นการบังคับ เพราะที่สำคัญน่าจะไปเน้นตอนปลายทางของการเรียนการสอนว่าจะเป็นอย่างไรมากกว่าจะเน้นเริ่มที่ชั้นเรียนไหน



"ได้มีข้อเสนอแนะในที่ประชุมว่าเมื่อนักเรียนเรียนจบชั้น ม.3 แล้ว ควรจะสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ และสามารถอ่านและเขียนได้ ส่วนว่าระหว่างทางต้องเรียนภาษาอังกฤษมากี่ปี หรือเริ่มเรียนในชั้นเรียนใดนั้น จะเปิดให้มีความยืดหยุ่นตามระดับความสามารถ แต่เมื่อนักเรียนผ่านชั้น ม.3 ไปแล้วควรต้องได้รับการพัฒนามาตรฐานการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้ไปสู่การมีงานทำ หรือการศึกษาต่อในระดับสูงได้ ซึ่งทางคณะผู้เชี่ยวชาญยินดีจะทบทวนหลักสูตรการเรียนการสอนร่วมกับทีมของกระทรวงศึกษาฯ โดยอาจต้องพิจารณาในเรื่องมาตรฐานที่บางเรื่องอาจกำหนดสูงเกินไป หรือกว้างเกินไป"

"แต่เรื่องนี้ไม่อยากให้ครูอาจารย์ตกใจ เพราะสิ่งที่ทำจะง่ายขึ้นและทำมาตรฐานให้สมจริงจากที่ดำเนินการอยู่แล้วให้นำไปสู่การปฏิบัติได้ โดยจะมีการช่วยเหลือครูในการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ จะมีตัวอย่างและศูนย์สนับสนุนสื่อการเรียนการสอน ทั้งที่เป็นหนังสือเรียน และสื่อทางไกลต่างๆ พร้อมทั้งจะมีกระบวนการพัฒนาครูในทุกกลุ่มทั้งระยะสั้นและระยะยาว"

ปลัด ศธ.เปิดเผยด้วยว่า "ในการเรียนอาจจะไม่เรียนตามระดับชั้นเรียน แต่จะเรียนตามความสามารถของเด็ก ซึ่งคณะที่ปรึกษาได้ย้ำว่าในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้ได้ผลจะต้องดำเนินการ 1.ห้องเรียนควรมีขนาดเล็ก มีนักเรียนประมาณ 25-30 คน แต่ปัจจุบันห้องเรียนจะมีนักเรียนมากกว่านั้น โดยคณะที่ปรึกษาได้แนะนำให้แบ่งกลุ่มย่อย เพื่อให้จัดการเรียนการสอนที่ใช้ระบบสื่อสารได้ตามความสามารถของบุคคล ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะถ้าเรื่องจัดขนาดห้องเรียนไม่ประสบผลสำเร็จแล้วจะมีปัญหา 2.ครูอาจารย์ที่สามารถพัฒนาตนเองจนมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและใช้สื่อต่างๆ ได้ดี ควรมีแรงจูงใจในรูปแบบต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับเงินวิทยฐานะ และโอกาสที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถ เช่น ไปศึกษาต่างประเทศ

"ประการที่ 3.ในที่ประชุมย้ำมากว่าจะต้องมีการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทยควบคู่ไปด้วย โดยนักเรียนทุกคนต้องมีพื้นฐานภาษาไทยดี เช่น การสอนให้คิดวิเคราะห์ สรุปใจความ เพื่อให้การเรียนทั้งสองภาษาเกื้อหนุนกัน และต้องปลูกฝังความรู้สึกที่ดีต่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้ย้ำว่าหากจะนำชาวต่างชาติมาสอนต้องเป็นคนที่มีคุณภาพจริงๆ เพราะในปัจจุบันเกิดปัญหาว่าเราปล่อยให้ครูต่างชาติที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาสอน ซึ่งน่าจะนำเงินค่าจ้างส่วนนี้มาพัฒนาครูไทยมากกว่า ซึ่งข้อเสนอแนะต่างๆ ทั้งหมดจะมีการสรุปและยกร่างเพื่อนำเสนอนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้พิจารณาในสัปดาห์นี้"

ด้านนางอรุณี วิริยะจิตรา จากภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า "เราจะพยายามทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้นสำหรับครูอาจารย์ โดยมีหนังสือคู่มือที่ช่วยในการเรียนการสอน จะช่วยพัฒนาความรู้ด้านภาษาอังกฤษของครู และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการอบรมครูให้สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ และพัฒนาศูนย์อีริคโดยอาจจะเชิญอาจารย์ชาวต่างประเทศมาประจำศูนย์ เพื่อช่วยเหลือครูอาจารย์ ดังนั้น ครูไม่ต้องตกใจว่าจะมีการรื้อหรือเปลี่ยนระบบกันใหม่ เพราะจะเป็นระบบช่วยเหลือให้ครูทำการเรียนการสอนได้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น"

"ต่อไปการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษจะไม่บังคับว่า ต้องเริ่มตั้งแต่ชั้น ป.1 แต่จะกำหนดแนวทางที่ชัดเจนว่าในช่วงชั้นที่ 1 ต้องเริ่มให้เด็กรักและสนุกที่จะเรียนภาษาอังกฤษ โดยเน้นการฟังและพูดก่อน ส่วนช่วงชั้นที่ 2 เริ่มเพิ่มการอ่านนอกเหนือจากการฟังและพูด ส่วนการเขียนจะเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย และสำหรับช่วงชั้นที่ 3 และ 4 จะเน้นทั้งการพูด ฟัง อ่าน และเขียน"

ติดประกาศ อังคาร 06 ก.ย. 05@ 13:56:52 ICT โดย kunkroo

หมายเลขบันทึก: 201383เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2008 11:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม 2012 19:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลที่ดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท