การทำงาน : ดี


รับงานเวรเที่ยงวันนี้เผอิญน้องเขาเปิด Star Movie พอเห็นว่านักแสดงนำเป็น "บรู๊ซ วิลลิซ" ก็เลยอดดูไม่ได้ เพราะชอบพระเอก ไม่อยากจะบอกเลยว่าผู้เขียนชอบลักษณะแววตาโดยเฉพาะเวลามอง ทำให้รู้สึกว่ามีความเย็นชา (เดาไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่) อีกทั้งหนังที่เขาแสดงจะเป็นแนว บู๊แอคชั่นล้างผลาญมันส์ดี ก็เลยทำงานไปดูหนังไป..

ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร เพราะมาดูตอนที่หนังเล่นไปแล้ว แต่ตอนจบผู้เขียนชอบคล้าย  ๆ ข้อคิดคำคม จดไม่ทันว่ามาจากใครประมาณ เอ็ดเวิร์ด เอ็ดมุน เพราะมัวแต่จดคำแปล 

"สิ่งเดียวที่เป็นชัยชนะของคนชั่ว คือคนดีไม่ทำอะไร" version ภาษาอังกฤษจดไม่ทันค่ะ เพราะแค่ดูหนังก็เมื่อยลูกกะตาจะแย่ดูไปอ่านไป (ฟังไม่ออกอ่ะ) ดูไปทำงานไปไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไรแต่เนื้อเรื่องประมาณว่า..

บรู๊ซ วิลลิสซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและทหารอเมริกันจำนวนหนึ่งได้รับคำสั่งให้ไปนำแพทย์ผู้หญิงคนหนึ่งออกมา แต่แพทย์หญิงคนนี้ก็มีความผูกพันกับกลุ่มชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง โดยที่เข้าใจว่าจะนำตัวเองและกลุ่มชาวบ้านไปด้วย แต่ในที่สุดพระเอกและพวกทหารก็นำเพียงแพทย์หญิงขึ้นฮ. ไปเพียงลำพัง แม้แพทย์หญิงพยายามขอร้องเพียงใด แต่ระหว่างอยู่บนฮ.ซึ่งบินผ่านหมู่บ้านที่ถูกโจมตี เสียหายพระเอกและพวกทหารก็เลยตัดสินใจกลับลำ ปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือภารกิจ ไปรับชาวบ้านโดยเฉพาะเด็ก ๆ ขึ้นฮ. แทนแล้วพวกทหาร แพทย์หญิงและชาวบ้านผู้ชายก็ตัดสินใจเดินเท้าไปแทน ระหว่างทางได้ไปช่วยหมู่บ้านชาวบ้านที่ถูกโจมตี ซึ่งได้ต่อสู้และพบกับความโหดเหี้ยมของพวกกบฏที่ทำร้าย ทำลายหมู่บ้าน พวกทหารจึงรู้สึกว่าการตัดสินใจทำนอกเหนือภารกิจนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว (เพื่อมนุษยธรรม ประมาณนี้) และระหว่างทางที่เดินทางก็มีการถูกตามล่าอีก ทำให้ได้รู้ว่าในหมู่พวกชาวบ้านที่เดินทางไปด้วยกันมีคนทรยศอยู่(มีเครื่องส่งสัญญาณ) หลังจากคาดคั้นจึงพบสาเหตุว่าหนึ่งในชาวบ้านนั้นมีลูกชายของประธานาธิบดีอยู่ด้วย พวกกบฏต้องการฆ่าลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ของประธานาธิบดี และแพทย์หญิงก็ทราบถึงสาเหตุการโดนตามล่า แต่เนื่องจากในตอนแรกไม่ไว้ใจจึงไม่ได้บอกเรื่องราว และระหว่างการเดินทางไปชายแดนก็พบว่า..โดนตามล่าทำให้สูญเสียทหารอเมริกันจำนวนหนึ่ง แต่สุดท้ายก็จบสไตล์หนังไทยเหมือนกันก็กองทัพอเมริกันก็มาช่วยไว้ได้ทัน...แบบแฮปปี้เอนดิ้ง..

อย่างที่บอกค่ะว่าทำงานไปด้วย ดูหนังไปด้วย ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าใจถูกรึเปล่า?? น๊ะ แต่สิ่งสำคัญก็คือใช้สติในการทำงานเพิ่มมากขึ้น เพราะล่าสุดพี่วรรณีเล่าให้ฟังว่าวันเสาร์ที่ผู้เขียนอยู่เวรที่ผ่านมาดูดซีรัมผิดรายผิดคน ทำให้คนที่ค่า K+ สูงได้ค่าปกติ คนที่ K+ ปรกติได้ K+สูง สาเหตุจากการดูดซีรัมผิดคนสลับกัน คือตัวเองก็นึกไม่ออกว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อเกิดขึ้นเราได้คุยกับน้องที่อยู่เวร ว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไรกันดี ก็เลยคิดว่า..จริง  ๆ แล้วถ้ามีค่า K+ สูง เราควรมาดูดซีรัมใหม่ ไม่ควรจะเอาใน Cup เดิมมาทำอีก วันนี้ผู้เขียนก็เลยระวัง เพราะระหว่างทำงานตอนเที่ยงก็มีค่า K+ สูงหนึ่งรายผู้เขียนตัดสินใจมาดูดเอา serum จากหลอดเลือดซ้ำ ก็พบว่าสูงจริง  ๆ

อีกทั้งวันนี้ได้ข้อคิดจากพี่โอ๋ซึ่งพี่เขาไปประชุมที่กระบี่มาค่ะว่า..(ไว้พี่โอ๋คงจะมาเขียนเล่าเอง) แต่สำหรับผู้เขียนรู้สึกฟังแล้วกระตุ้นไปถึงจิตวิญญาณ (ขนลุกด้วย) รวมถึงความภูมิใจในวิชาชีพ ประมาณว่า เรานักเทคนิคการแพทย์ ในการออกผล Lab. แต่ละครั้งนอกจากเราจะคิดเพียงแค่ผู้ป่วยแล้ว เราต้องคิดไปถึง ลูก ๆ ของผู้ป่วย พ่อ แม่ สามี ภรรยา ฯ ซึ่งจะมีผลกระทบไม่ใช่เพียงแค่ผู้ป่วย และในการทำงานเราต้องรู้ว่าทำไม แพทย์มีเหตุผลอย่างไรจึงสั่งตรวจการทดสอบตัวนี้ หรือทำไมไม่สั่งตัวนี้ และเราไม่ใช่เพียงผู้ปฏิบัติเท่านั้นค่ะ แต่เราต้องเป็นผู้ให้ ให้วิชาความรู้ให้ข้อมูลแก่ผู้รับบริการได้ สิ่งสำคัญคือคุณภาพ ความถูกต้อง ไว้พี่โอ๋คงมาเขียนเล่าได้ดีกว่าค่ะ

วันนี้ก็เลยรู้สึก"ดี"ค่ะ นอกเหนือจากวันแม่ การทำหน้าที่เป็นแม่ที่ดี เป็นลูกที่ดี เป็นนักเทคนิคการแพทย์ที่ดี  เป็นคนดี ทำความดี ...ดี ดี DDDD (ทำเท่าที่ทำได้ ทำดีที่สุดแล้ว) อ้อ!! ยกเว้นภรรยาที่ดี (เพราะสามีไม่อยู่) --^____^

คำสำคัญ (Tags): #การทำงาน
หมายเลขบันทึก: 200416เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2008 14:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นคนดีของสังคมด้วยการให้ความรู้เป็นทานอย่างที่คุณแหม่มทำอยู่ค่ะ :) (ช่วยเติมค่ะ)

สวัสดีค่ะ

เห็นด้วยกับ อาจารย์จันทวรรณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท