ปราสาทสด๊กก๊อกธม


ปราสาทสด๊กก๊อกธม

      กรณีปราสาทตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาวันนี้ ทำให้เราประชาชนไทยต้องคิดให้หนัก เขมรเริ่มกดดันเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่ทหารก็สามารถเตรียมรับมือได้เป็นอย่างดี ติดอยู่ทีรัฐบาลชุดนี้เท่านั้นที่ไม่ฟันธง ทำอะไรให้มันชัดเจนขึ้นมากกว่านิ่งเงียบ วันนี้ก็เลยนำเสนอปราสาทอีกแห่งคือปราสาทสด๊กก๊อกธม

 

     ปราสาทสด๊กก๊อกธมหรือปราสาทเมืองพร้าว    ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเสม็ด ตำบลโคกสูง กิ่ง อ.โคกสูง  จ.สระแก้ว  ห่างจาก จ.สระแก้ว ประมาณ 85 ก.ม.  เป็นโบราณสถานตั้งอยู่กลางป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา


http://www.vrapol.com/bikeproject/tat_map_sakao2.gif

ที่มา

http://www.tripandtrek.com/webboard2/photo/2005030100271299699969.jpg

 

Image

       ปราสาทสด๊กก๊อกธม แปลว่า ปราสาทใหญ่ที่มีต้นกกขึ้นรกรุงรัง  เป็นปราสาทก่อด้วยหินและศิลาแลง  หันไปทางทิศตะวันออก  ประกอบไปด้วยตัวปราสาทและบารายตัวปราสาท  ด้านนอกเป็นกำแพงแก้ว  ก่อด้วยศิลาแลง  มีทางเข้าออกสองทาง  คือ ด้านตะวันออกและตะวันตก  มีคูน้ำรูปตัวยูล้อมตัวปราสาท  มีบาราย 2 แห่ง 

       ปราสาทแห่งนี้มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก  มีการค้นพบจารึกซึ่งมีความสำคัญต่อการศึกษาลำดับกษัตริย์ราชวงศ์เขมรอย่าง มาก  แม้ในดินแดนเขมรเองก็ยังไม่เคยมีการพบจารึกลักษณะนี้  จารึกที่พบมี 2 หลัก  หลักแรก ระบุศักราชตรงกับ พ.ศ. 1480 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 (ศิลปะแบบเกาะแกร์)  เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถวายทาสชายหญิงดูแลรักษาศิวลึงค์  หลักที่สอง  ตัวจารึกระบุศักราชตรงกับ พ.ศ. 1595 (ศิลปะแบบคลัง-บาปวน)  กล่าวถึงการที่พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 พระราชทานที่ดินและคนเพื่อสร้างปราสาทถวายแด่พราหมณ์สทาศิวะผู้เป็นอาจารย์  กล่าวถึงประวัติการประดิษฐานลัทธิเทวราชและประวัติการสืบสายตระกูลพราหมณ์ใน ราชสำนักของเขมร  ที่มีความสัมพันธ์กับลำดับการสืบสันตติวงศ์ของกษัตริย์เขมร  อันเป็นหลักฐานที่มีคุณค่าต่อการศึกษาประวัติศาสตร์เขมรสมัยโบราณเป็นอย่าง มาก
    จารึกหลักแรกระบุว่าพบที่ ต.โคกสูง  ส่วนหลักที่สองระบุว่าพบที่ปราสาทเมืองพร้าวอันเป็นชื่อเดิมของปราสาท  มีข้อน่าสังเกตคือจารึกทั้งสองระบุศักราชต่างกัน  จารึกมีลักษณะของศิลปะต่างกัน  แต่หลักที่สองมีศิลปะที่สอดคล้องกับตัวปราสาทมากกว่า (คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ, 2545:88-89)

อ้างอิง

แหล่งข้อมูล1

แหล่งข้อมูล2

แหล่งข้อมูล3

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 198787เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2008 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอม ในสมัยโบราณ เป็นนักล่าอาณานิคม ที่ยิ่งใหญ่ เหมือน ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ในอีกยุคนึง ขอม แผ่อาณาจักรใหญ่โต และ สร้าง ปราสาท เป็น land mark ไว้มากมาย หาก เขมรปัจจุบัน ที่อยู่ ประเทศกัมพูชา คิดว่า ปราสาททั้งหมดเป็นของเขมรคิดผิด เพราะ คนไทยในแถบนี้จำนวนมาก ก็ มีเชื้อสายขอมโบราณ แต่ ประเทศ เขมร กับ ชนชาติ ขอมนั้นต่างกัน เมื่อ ถึงยุคที่ ขอมหมดอำนาจ อาณานิคมต่างๆล้วนประกาศเป็นอิสระ เป็นประเทศต่างๆ ดังนั้น หากเขมรคิดว่า ตัวเอง เป็นเจ้าของปราสาททั้งหมดคิดผิด เพราะ สิ่งที่ ฝรั่งเศส อังกฤษสร้างไว้ สมัย เขมร ลาว มาเลย์ เป็น อาณานิคม หาก อังกฤษ ฝรั่งเศส บอกเป็น ส่วนหนึ่งของ ประเทศ ฝรั่งเศส อังกฤษ ประเทศเหล่านี้จะว่าอย่างไร? หากเขมร ต้องการ ปท ไทย แถบ อิสาน ปราสาท พนมรุ้ง ที่บุรีย์รัมย์ ปราสาทหินพิมาย ที่ โคราช ต้องยกให้เขมรหมดเหรอ หากเขมรต้องการให้ประวัติศาสตร์ หลายร้อยปี มาเกิดสงครามในตอนนี้ก็ลองดู เพราะ หลายร้อยปีก่อน ขอม ได้ทำกับเรามากมากแล้ว

วันนี้ (5 ส.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาอ้างเรื่องพรมแดนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ โดยไทยมีการรุกล้ำโดยใช้กำลังทหารไปตรึงกำลังไว้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยการตรึงกำลังฝั่งไทยทำมานานแล้ว ยึดตามแผนที่มีอยู่ในมือขณะนี้ และพื้นที่ดังกล่าวก็อยู่ในพรมแดนไทย ซึ่งการที่กัมพูชาไม่หยุดเรียกร้องเรื่องพรมแดน ทั้งปราสาทพระวิหารที่เป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งในประเทศไทย และยังมีการเพิ่มเติมเรื่องดินแดนที่ปราสาทตาเมือนธมขึ้นมาอีกนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ขอวิจารณ์ถึงเหตุผลของกัมพูชาที่ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว เพราะเกรงจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

รักปราสาทสด๊กก๊อกธมมากจากเด็กหนองแวง(บ้านนาทราย)

ถล่มมันให้หายไปแจากแผนที่โลกเลย เพื่อนบ้านเหี้ยๆ อย่างมันไม่มีประโยช์ กับประเทศเรา คนบ้่านแม้งก็มาเป็นขี้ข้าบ้านเรา ฆ่ามันแล้วยึดประเทศษมันมา  55555555

ยังไงเป็นเทศเราก็เหนือกว่าทุก  ฆ่ามัน หุนเสน

อีกหน่อยก็ไปเป็นของเขมรแล้วเสียดายจัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท