มีคนเสนอให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ นัยว่า ไม่จำเป็นต้องบังคับแล้วพ่อแม่ ผู้ปกครองในบ้านเราไม่มีใครไม่อยากให้บุตรหลานของตนได้รับการศึกษาดี ๆ แต่ที่มีบางรายนั้นเพราะเขามีความลำบากยากเข็ญ หรืออัตคัดขัดสนจริง ๆซึ่งเป็นเรื่องที่สังคม หรือรัฐเท่านั้นแหละจะต้องเขาไปดูแลแก้ไข
ผมได้ยินเขาคุยกันเรื่องนี้ ทำให้นึกถึง กลุ่มคนในบ้านเราที่ควรถูกบังคับให้เข้าเรียนมาก ๆ คือคนที่เป็นผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ คือคนที่ไม่ได้อยู่ในวัยเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คนที่อยู่ในวัยทำมาหากินเลี้ยงชีพของตนเอง
คนที่มีครอบครัวรับผิดชอบชีวิตตนและคนอื่น ๆ อยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะ
อายุอานามแค่ไหน
นี่คือ ผู้ใหญ่ในความหมายของผม ซึ่งหมายรวมถึงคนที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน ไม่ยกเว้นแม้คนที่เป็นครูบาอาจารย์
คนกลุ่มนี้โดยปรกติวิสัย ไม่ชอบเรียนรู้ การดำรงชีวิตโดยส่วนใหญ่ไม่ใช้ความรู้ ไม่ค่อยใช้สติปัญญาสักเท่าไร ทำอะไร ก็ทำตาม ๆกัน อาศัยความเชื่อมากกว่าความรู้
มีตัวอย่างเยอะแยะหมดที่ยืนยันคำกล่าวข้างต้น
เมื่อสัก 4-5 ปีที่แล้ว หนังสือพิมพ์ลงข่าวโดยอ้างว่าเป็นผลการวิจัยความว่า คนไทยอ่านหนังสือโดยเฉลี่ยปีละ 6 บรรทัด
เมื่อ 2-3 วันก่อน มีคนเจอไม้ตะเคียนใหญ่จมอยู่ในแม่น้ำเพชร แถว ๆบ้านลาด ชาวบ้านช่วยกันลากขึ้นมาบนบก มีคนไปปิดทอง ขูด ขัด บนบานศาลกล่าว แล้วไปแทงหวยกัน วัน ๆไม่หยุดหย่อน
เมื่อ 3 ปีที่แล้วมีการประชุมสัมมนาเรื่องวัฒนธรรมการเรียนรู้ของคนไทยที่พิษณุโลก ข้อสรุปสำคัญในการประชุมครั้งนั้น คือ คนไทยไม่ใฝ่รู้ ไม่รู้วิธีเรียนรู้และไม่มีทักษะของการเรียนรู้
ฯลฯ เป็นต้น
ดังนั้น ในบ้านเราผู้ใหญ่ควรถูกบังคับให้เข้ารับการศึกษา ซึ่งอาจจะเป็นการศึกษาในรูปแบบใดก็ได้ การศึกษาในโรงเรียน การศึกษานอกโรงเรียน หรือการศึกษาแบบธรรมดาวิสัย
การศึกษาสำหรับผู้ใหญ่ คือการศึกษาในระดับอุดมศึกษา
อุดมศึกษาในความหมายที่กว้าง ไม่ไช่ความหมายคับแคบที่คนทั่ว ๆไป(แม้คนในกระทรวงศึกษา)เข้าใจกันว่าคือการศึกษาหลังมัธยมศึกษา หรือการศึกษาที่มีใบปริญญาเป็นเป้าหมาย
นิยาม อุดมศึกษาในกฏหมายการศึกษาของเราก็ยังไม่ช่วยให้คนเกิดความกระจ่างในเรื่องการอุดมศึกษาสักเท่าไร ลองตามไปอ่านดูก็ได้ หมวด 3 ระบบการศึกษา หน้า 5-7
ครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ควรทำหน้าที่เป็นผู้นำในเรื่องนี้
สื่อเรื่องนี้สู่สาธารณะชน
สื่อเรื่องนี้ไปยังกระทรวงศึกษาธิการ
สื่อเรื่องนี้ไปยังรัฐบาล
ในนามของที่ประชุมคณะบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ ไม่ต้องยกเลิก แต่ควรปรับปรุงแก้ไข
ในส่วนของ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่จำเป็นต้องไปบังคับชาวบ้านให้ส่งลูกหลานเข้าเรียน แต่ต้องมีมาตรการที่จะกำกับควบคุมรัฐและหน่วยงานของรัฐที่จะต้องจัดการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างมีคุณภาพจริง
ในส่วนของการศึกษา ของประชาชนซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ควรมีมาตรการบังคับให้เข้ารับการศึกษาปีละเท่านั้น เท่านี้หน่วย เท่านั้นเท่านี้คาบ และมาตรการอื่น ๆที่จะกำหนดขึ้นเพื่อเป็นการจูงใจให้ประชาชนเห็นความสำคัญ และสนใจ ที่จะเรียนรู้เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตน
สนับสนุนให้ราชภัฏเป็นผู้นำทางการศึกษาในทัองถิ่น ราชภัฏควรเข้าไปสร้างภาคีเครือข่ายทางการศึกษากับหน่วยงานทางการศึกษาและนอกการศึกษา ทั้งในและนอกท้องถิ่น
เพื่อผลักดันหลักสูตรและวิธีการบริการทางการศึกษาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเอื้อประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนและชุมชนได้จริง
นี่คือหนทางหนึ่งในการพัฒนาประเทศที่เกิดผลจริงได้ ด้วยทุนที่ต่ำ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร และผู้ขายแรงงาน
Paaoobtong
###############
ไม่มีความเห็น