เมื่อกล่าวถึงระบบต้องนึกถึงความเชื่อมโยง ต่อเนื่องไม่ขาดสายของแต่ละองค์ประกอบภายในระบบนั้นซึ่งมีหน้าที่จะต้องทำตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ มีจุดเริ่มต้น และมีเป้าหมายที่ชัดเจน การคิดสร้างหลักสูตรที่ไม่มีระบบ มักจะมุ่งเน้นเป้าหมายไปที่การมีเอกสารหลักฐานหลักสูตรเพียงอย่างเดียว ส่วนมากมักละเลยองค์ประกอบที่สำคัญด้านอื่นๆ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 เป็นหลักสูตรอิงมาตรฐานที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเอกสารหลักสูตรดังกล่าวเป็นเอกสารหลักสูตรหลักหรือกรอบหลักสูตร ที่สถานศึกษานำไปเป็นหลักในการสร้างหลักสูตรของสถานศึกษา การคิดเชิงระบบการสร้างหลักสูตรของสถานศึกษา เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมาตราฐานการศึกษาของ 8 กลุ่มสาระ ซึ่งมีทั้งหมด 76 มาตรฐาน โดยการสรุป โดยมีวัตถุประสงค์ ด้วยความใส่ใจ มีการใช้จินตภาพและมีการอนุมาน จากนั้นจึงทำความเข้าใจในมาตรฐานการเรียนรู้ ในช่วงชั้นต่างๆ ทุกกลุ่มสาระโดยใช้หลักการเดียวกัน คือ มีวัตถุประสงค์ใส่ใจ มีจินตภาพมีการสรุปและมีการอนุมาน มาตรฐานการเรียนรู้ ช่วงชั้น ป 1-3 หมายความว่า ในเวลา 3 ปีแห่งการเรียนรู้การสอนในโรงเรียนเมื่อนักเรียนจบ ป 3 นักเรียนต้อง รู้จริงทำได้จริง ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ทุกมาตรฐาน ทุกกลุ่มสาระ รวมทั้งสิ้น 209 มาตรฐาน เมื่อพิจารณาเวลาเรียนปีละ 200 วัน วันละ 4 ชั่วโมง เป็น 3 ปีรวมทั้งสิ้น 2400 ชั่วโมง เฉลี่ยแล้ว 1 มาตรฐาน ให้เวลานักเรียนทำกิจกรรมการเรียนรู้ประมาณ 11 ชั่วโมง ครึ่ง หรือ 2 วันครึ่ง ทำให้นักเรียนรู้จริงทำได้จริง 1 มาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 นำมาตรฐานการเรียนรู้ทั้งหมดในช่วงชั้น มากำหนดหน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้คืออะไร หน่วยการเรียนรู้คือ แผนการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนและการประเมินผลที่อิงมาตรฐานการเรียนรู้ ดังนั้น หน่วยการเรียนรู้ในแต่ละหน่วย จะประกอบด้วย (1.) มาตรฐานการเรียนรู้ (2.) หลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ผู้เรียนรู้จริงทำได้จริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งอาจเป็นผลจากการสอบ ผลงานหรือการกระทำ (3.) แนวทางการให้คะแนนเชิงคุณภาพ(Rubrics) เพื่อใช้การประเมินหลักฐานผลงานหรือการกระทำ ซึ่งประกอบด้วยเกณฑ์ ระดับคะแนน คำอธิบายคุณภาพของงาน และตัวอย่างผลงาน (4.) กิจกรรมการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนสำคัญที่สุด โดยเริ่มจากกิจกรรม เร่งเร้าความอยากรู้อยากเห็นของผู้เรียน กระตุ้นผู้เรียนอยากเรียนรู้ ตามด้วยกิจกรรมเชิงพัฒนาและ กิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานหรือการกระทำตามมาตรฐาน ที่ได้ผลงาน ณ. ระดับที่ยอมรับได้ที่ Rubries กำหนดไว้ นำหน่วยการเรียนรู้หลายหน่วยมารวบรวมจัดเป็นรายวิชา/วิชา การกำหนดหน่วยการเรียนรู้เป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการที่มีความหมายและมีเป้าหมาย การคิดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนสำคัญที่สุดได้ควรมีศึกษาหลักการ 14 ข้อ ของAPA . ขั้นตอนที่ 3 จัดทำคำอธิบายรายวิชา/วิชา. เมื่อรายวิชาหนึ่งๆ ประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ที่อิงมาตรฐาน คำอธิบายรายวิชาต้องเขียนให้ครอบคุมมาตรฐานการเรียนรู้และมีมาตรฐานการเรียนรู้ปรากฏในคำอิบายรายวิชา นำรายวิชามาจัดเป็นโครงสร้างหลักสูตร โดยพิจารณามาตรฐานการเรียนรู้ประกอบ ขั้นตอนที่ 4 การออกแบรายงานผลการเรียนรู้ ต้องเป็นรายงานที่แสดงถึงความก้าวหน้าของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ มิใช่ปรากฏแต่จำนวน % หรือเกรดที่เป็นตัวเลขหรือตัวหนังสือแบบรวมๆ ที่เคยปฏิบัติกันมา เพราะรายงานต้องเป็นแบบรายงานที่ควรระบุมาตรฐานการเรียนรู้ และระดับผลการเรียนรู้ของผู้เรียนว่าตนเองมีระดับความรู้ความสามารถในมาตรฐานนั้นๆ ระดับใด ขั้นตอนที่ 5 การให้เกรด และการตัดสินผลการเรียน ต้องกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า รายวิชานี้ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้ กี่หน่วย และผู้เรียนจะถูกประเมินด้วยวิธีการใด ด้วยเครื่องมืออะไร จะให้น้ำหนักความสำคัญแต่ละส่วนๆละเท่าใด และสุดท้ายจะกำหนดเกณฑ์เพื่อกำหนดการให้เกรดแสดงผลการเรียนในรายวิชานี้อย่างไร สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกกำหนดไว้ก่อนล่วงหน้าก่อนจะมีการเรียนการสอนทั้งสิ้น ส่วนการตัดสินผลการจบในแต่ละช่วงชั้น ต้องมองที่รายวิชาทุกรายวิชาที่จะไปปรากฏในโครงสร้างหลักสูตรว่า รายวิชาใดเป็นรายวิชาบังคับวิชาแกน รายบังคับเลือกหรือเลือกเสรี อย่าลืมว่าทุกรายวิชาจะมีภาพของหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ แนวทางการให้คะแนนเพื่อการประเมิน แนวทางการรายงานผล และเกณฑ์การตัดเกรดอยู่ทุกรายวิชาอยู่เสมอ ประเด็นอยู่ที่ว่ามาตรฐานการเรียนรู้ใดเป็นมาตรฐานแกนกลาง และมาตรฐานใดเป็นมาตรฐานเสริมสร้าง
ขอบคุณครับ
