สรุปการเสวนาในวันนี้เราได้นายก อบต.มาสองท่าน ได้เล่าให้พวกเราฟังถึงช่วงก่อนการเข้ามาสู่ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลว่าเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ในชุมชนระหว่างกลุ่มบุคคลต่างๆเป็นอย่างไร และเมื่อเข้าสู่ตำแหน่งแล้วได้มีการบริหารจัดการความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง
ทำอย่างไรจะให้เกิดบรรยากาศแห่งความสมานฉันท์ขึ้นในชุมชน คุณประสาน ขันติวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสียว จ.ศรีสะเกษเล่าให้ฟังว่า
ความสมานฉันท์เป็นไปไม่ได้ในระดับชุมชน ได้เกิดขึ้นแล้วโดยที่ผู้บริหารท้องถิ่นจะต้องทำความตกลงหรือมีกติกากับชุมชนก่อนที่เข้ามาบริหารงาน กติกาเหล่านี้เกิดจากการพูดคุยกัน (โสเหร่) ระหว่างชาวบ้าน สามารถคัดกรองกันได้ เราจะมีเวทีมาพูดคุยกับผู้อาวุโสและผู้ที่เป็นนักคิดของชุมชน ซึ่งจะมีการตกลงกติกากัน นำมาใช้ในชุมชนการเสียสละและไม่ยุ่งเกี่ยวกับนักการเมือง
·คนในชุมชนตำบลเสียวมีป่าชุมชนเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้เกิดความสามัคคี มีการพูดคุยกันเป็นประจำเป็นที่มาของกติกาที่กำหนดคุณลักษณะของผู้ที่จะมาเป็นผู้บริหารท้องถิ่น
·ชุมชนเรามีสภาผู้เฒ่า ที่ประกอบไปด้วยผู้อาวุโส ผู้เฒ่า ผู้แก่ ปราชญ์ชาวบ้าน จะมาพูดคุยกันเรื่องประเพณีวัฒนธรรมและปัญหาความขัดแย้งต่างๆในชุมชน
มีอดีตผู้นำท้องถิ่นเป็นที่ปรึกษา สภาแห่งนี้จะมีบทบาทในการพูดคุยถึงตัวบุคคลที่สมควรจะมาเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านในชุมชนด้วย แล้วจะลงคะแนนเสียงคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งในตำบล
สมาชิกในชุมชนที่มีจิตสาธารณะที่จะทำงานเพื่อชุมชน เป็นผู้ดำเนินกิจกรรมต่างๆในชุมชน จะเห็นได้เลยว่าสภาผู้เฒ่าแห่งนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันและแก้ไขความขัดแย้งในชุมชน ถือเป็นกลไกในการสร้างความสามัคคีในชุมชนอย่างหนึ่ง
นโยบายต่างๆต้องเกิดมาจากพี่น้องในชุมชน ชุมชนมีองค์กรส่งเสริมอาชีพ ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และเป็นเวทีให้ชาวบ้านในชุมชนได้เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความต้องการ และความทุกข์ร้อนระหว่างกัน
·การพูดคุยกันเป็นเวทีที่ดีและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนา นอกจากนี้กติกาที่ตกลงกันในชุมชนก็มีความสำคัญในการสสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน การเป็นนักพัฒนาต้องมีความใจเย็น มีความตั้งใจที่จะดำรงชีวิตอยู่อย่างพอเพียงและมีศักดิ์ศรี
แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนนั้น จะต้องประกอบไปด้วยการคิดร่วมกัน ทำร่วมกัน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน ที่สำคัญอย่างยิ่งคือการทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้น ไม่ใช้พอเกิดปัญหาแล้วจึงค่อยมานั่งพูดคุยกัน
ชุมชนจะเกิดความสมานฉันท์ได้จะต้องร่วมกันคิดตั้งแต่การคัดสรรคัดกรองผู้ที่จะมาเป็นผู้นำท้องถิ่น จะต้องรู้จักปราชญ์ชาวบ้านในชุมชนของเรา และจะต้องมีการตั้งกติการ่วมกันถึงคุณลักษณะของผู้นำที่พึงปรารถนา ตลอดจนกติกาการอยู่ร่วมกันในชุมชน
แผ่นดินของเรายังพอที่จะคัดสรรคนดีเข้ามาบริหารชุมชนได้อยู่ แต่ชุมชนส่วนใหญ่ยังไม่มองตรงนี้ กลับมองแต่เพียงว่าผู้สมัครคนใดให้เงินเท่าไหร่ การที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ชาวบ้านในชุมชนจะต้องไม่มองตรงจุดนี้ แต่ควรจะคิดว่าผู้สมัครแต่ละคนได้ทำอะไรให้ชุมชนมาแล้วบ้าง และจะทำอะไรให้ต่อไปได้อีก อีกทั้ง ผู้สมัครต่างๆจะต้องไม่พึ่งพิงกับนักการเมือง
ความคิดเห็นที่สองของ คุณสุรกิจ สุวรรณแกม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนหญ้านาง จ.พระนครศรีอยุธยา
ตำบลดอนหญ้านางมี ๑๐ หมู่บ้าน โดยมีประชากรประมาณ ๓,๐๐๐ คน มีโอกาสเข้าร่วมเวทีวิทยากรกระบวนการหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่การทำงานภาคประชาชน ได้รับฟังอ.ประเวศและอ.ไพบูลย์มานับครั้งไม่ถ้วน แนวคิดต่างๆที่ได้พบเจอตลอดเวลาได้สะสมในตัวเรื่อยมา
·มีแนวคิดก่อนที่จะลงสมัครนายกอบต. และได้ไปคุยกับคู่แข่ง โดยตกลงว่าจะไม่ใส่ร้ายป้ายสีกัน เป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด มุมที่จะติดป้ายหาเสียงจะต้องติดด้วยกัน ทำป้ายขนาดเดียวกัน ติดในระดับสูงต่ำเท่ากัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ หากป้ายใครล้มก็ช่วยกันเก็บขึ้นมาติดกันใหม่ สิ่งเหล่านี้ได้สร้างบรรยากาศของความมีน้ำใจต่อกัน นี่เป็นสิ่งเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง พอหลังประกาศผลเลือกตั้ง ชนะ ก็ได้ไปหาเขาที่บ้าน พูดคุยกัน เขาก็บอกว่ามีอะไรก็มาปรึกษาพี่ได้
การซื้อเสียงเป็นการดูถูกชาวบ้าน เพราะชาวบ้านต่างก็เป็นญาติพี่น้องเราทั้งสิ้น หากการเลือกตั้งหาเสียงไม่เป็นไปอย่างสมานฉันท์ แก่งแย่งแข่งขันกันโดยมีการเมืองเข้าแทรก สิ่งที่ตามมาก็คือความแตกแยกในชุมชน ผู้นำท้องถิ่นที่ไม่ได้มาจากการซื้อเสียงจะฟังชาวบ้านมากกว่าและมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชาวบ้านมากกว่าผู้นำที่มาจากการซื้อเสียง
ความอดทนอดกลั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างความสมานฉันท์ คำพูดของนายกฯอาจสร้างความแตกแยกได้ นอกจากอดทนแล้วยังต้องวางตัวเป็นกลาง ที่สำคัญคือ ใช้หลักธรรมะเข้าปรับใช้กับการทำงานและการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิกอบต.ในตำบลผมสามารถที่จะร่วมมือกันได้หมด เนื่องจากชุมชนเราเอางานเป็นตัวตั้ง แล้วเราจึงค่อยมาพิจารณาว่าใคร/องค์กรใดจะช่วยและเสริมกันตรงจุดใดได้บ้าง เมื่อเป็นแบบนี้แล้วคนจะไม่พูดถึงเรื่องฝักฝ่ายเลย แต่จะพูดถึงแต่เรื่องงานเป็นหลัก เราจึงต้องไม่เอาหน่วยงานเป็นตัวตั้ง เพราะจะทำให้เกิดรอยแยกขึ้นในชุมชน เกิดเป็นการแข่งขันหรือขัดแข้งขัดขากัน ต่างคนต่างทำ ไม่เกิดการร่วมมือกัน
ปัจจุบัน ทางตำบลได้ทำสภาผู้นำชุมชน จากการสนับสนุนของพอช. โดยเป็นการดึงผู้นำทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในชุมชนจำนวนทั้งสิ้น ๘๐ คน มาดูภาพรวมของการพัฒนาตำบลทั้งหมด ซึ่งทำหน้าที่คล้ายบอร์ดตำบล และเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชน เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิมีเสียงในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำเสนอทางเลือกแก่ชุมชน
ฟังสองท่านนี้แล้วมีความฝันอยากให้การเมืองท้องถิ่นเป็นแบบอย่างการเมืองระดับชาติจริงๆครับ
สวัสดีเจ้าค่ะ ลุงเอกจ๋าๆๆๆ
คิดถึงงงงงงงงงงง กอดดดดดดดดดดดดดดดดด ตอนนี้น้องจิอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว เตรียมตัวเรียนวิชาอังกฤษ คิดถึงลุงเด้อจ้า รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ --->น้องจิ ^_^
มาทางนี้อีกท่าจะกลัวไม่ได้มาวันศุกร์นี้แน่ๆ
ลุงเอก ที่เคารพ
หนูอ่านแล้วดีใจคะ ที่ยังมีคนสะท้อนมุมมองที่ดีนี้
ออกมาสู่สังคม หนูกำลังเก็บข้อมูลเรื่องนี้อยู่
วันหลังอาจต้องรบกวนลุงเอกช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
หมอแข่ว
สวัสดีค่ะ ลุงเอกที่เคารพ
แวะมาอ่านเรื่องราวดีๆ เห็นด้วยกะลุงเอกค่ะ"ฟังสองท่านนี้แล้วมีความฝันอยากให้การเมืองท้องถิ่นเป็นแบบอย่างการเมืองระดับชาติจริงๆครับ"
"เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชน เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิมีเสียงในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำเสนอทางเลือกแก่ชุมชน"
ลุงเอกรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ อากาศเริ่มเปลี่ยนแล้ว คิดถึงค่ะ