วิถีทางประชาธิปไตย
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าวันอาทิตย์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และวันพุธที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๙ เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
การจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่จะต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง เที่ยงธรรม
หลักในการทำงาน ๑๒ ประการ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ให้หลักยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ดังต่อไปนี้
๑. ต้องรอบรู้เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับภารกิจในหน้าที่
๒. ต้องปกิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว
๓. ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง
๔. ต้องเร่งรัดการปฏิบัติงานในหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร่งรัดทั้งตนเอง ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือผู้ร่วมงาน
๕. ต้องริเริ่มพัฒนางานในหน้าที่จอง กกต. ให้ก้าวหน้าไม่หยุดยั้งทันกาลเวลา สนองตอบเจตนารมณ์ในการปฏิรูปทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญและความปรารถนาของประชาชน
๖. ต้องยึดหลักนิติธรรม มโนธรรม ความเป็นธรรมประกอบกันในการปฏิบัติงาน
๗. ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันเป็นหมู่คณะ ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจทำงาน แก้ไขปัญหาด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
๘. ต้องสามารถตอบปัญหาต่อประชาชนและองค์กรต่างๆได้อย่างมีเหตุผลและสมศักดิ์ศรี
๙. ต้องอภิปรายในปัญหาต่างๆอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ปราศจากอคติและใช้มติของที่ประชุมแถลงชี้แจงต่อสาธารณชน
๑๐. ต้องถือว่าความสำเร็จความชอบเป็นของหน่วยงาน เป็นของผู้ร่วมงาน เป็นของผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาต้องมีความกล้าหาญที่จะรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๑๑. ต้องไม่เปิดเผยความลับเกี่ยวกับหน้าที่ อันยังผลให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หน่วยงานและราชการโดยเด็ดขาด
๑๒. ต้องถือหลักความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม มีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่หวั่นไหวต่ออำนาจอิทธิพลใดๆ
"ร่วมมือ ร่วมใจ แก้ไขปัญหาโดยสุจริต โปร่งใส รวดเร็วอย่างยุติธรรม"
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าวันอาทิตย์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และวันพุธที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๙ เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
การจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่จะต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง เที่ยงธรรม
หลักในการทำงาน ๑๒ ประการ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ให้หลักยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ดังต่อไปนี้
๑. ต้องรอบรู้เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับภารกิจในหน้าที่
๒. ต้องปกิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว
๓. ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง
๔. ต้องเร่งรัดการปฏิบัติงานในหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร่งรัดทั้งตนเอง ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือผู้ร่วมงาน
๕. ต้องริเริ่มพัฒนางานในหน้าที่จอง กกต. ให้ก้าวหน้าไม่หยุดยั้งทันกาลเวลา สนองตอบเจตนารมณ์ในการปฏิรูปทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญและความปรารถนาของประชาชน
๖. ต้องยึดหลักนิติธรรม มโนธรรม ความเป็นธรรมประกอบกันในการปฏิบัติงาน
๗. ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันเป็นหมู่คณะ ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจทำงาน แก้ไขปัญหาด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
๘. ต้องสามารถตอบปัญหาต่อประชาชนและองค์กรต่างๆได้อย่างมีเหตุผลและสมศักดิ์ศรี
๙. ต้องอภิปรายในปัญหาต่างๆอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ปราศจากอคติและใช้มติของที่ประชุมแถลงชี้แจงต่อสาธารณชน
๑๐. ต้องถือว่าความสำเร็จความชอบเป็นของหน่วยงาน เป็นของผู้ร่วมงาน เป็นของผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาต้องมีความกล้าหาญที่จะรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๑๑. ต้องไม่เปิดเผยความลับเกี่ยวกับหน้าที่ อันยังผลให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล หน่วยงานและราชการโดยเด็ดขาด
๑๒. ต้องถือหลักความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม มีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่หวั่นไหวต่ออำนาจอิทธิพลใดๆ
"ร่วมมือ ร่วมใจ แก้ไขปัญหาโดยสุจริต โปร่งใส รวดเร็วอย่างยุติธรรม"
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ดร. ปฐมพงศ์ ศุภเลิศ ใน แลกเปลี่ยนเรียนรู้KM
องค์กรกลาง คือ ความหวังของประชาชน โดปรดอย่าทำให้ประชาชนคนไทยผิดหวังอีกนะครับ