ประสบการณ์ conflict confrontation 2 เผชิญ Mob


ความขัดแย้งที่บ้านหนองหมู: เมื่อปี พ.ศ. 2545 โครงการที่ผมรับผิดชอบมีแผนงานพัฒนาถนนสายหนึ่งต้องสร้างผ่านหมู่บ้านหนองหมูไปสิ้นสุดที่ริมห้วยบางทรายที่อีกฝั่งหนึ่งเป็นถนนดำสายหลัก สมัยนั้นบ้านหนองหมูเป็นหมู่บ้านปิดเพราะที่ตั้งหมู่บ้านอยู่บนฝั่งขวาห้วยบางทรายมีภูเขาล้อมรอบ ไม่มีสะพานสำหรับรถสี่ล้อข้ามห้วยบางทราย มีเพียงสะพานแขวนใช้เดินและมอเตอร์ไซด์เท่านั้น ชาวบ้านพบความเดือดร้อนเพราะไม่สามารถนำผลผลิตการเกษตรออกขายได้.. จึงร้องเรียนราชการให้ช่วยสร้างสะพาน แต่ไม่ผ่านกรอบระเบียบเพราะจะต้องใช้งบประมาณนับสิบล้านบาท มีผู้ได้ประโยชน์เพียงหมู่บ้านเดียว ไม่คุ้ม  ส.ป.ก.จะสร้างถนนให้มาจ่อริมห้วยรองบประมาณหน่วยใดก็ได้ที่พิจารณาสร้างสะพาน...

 

เมื่อ ส.ป.ก.เริ่มลงมือก่อสร้างโดยบริษัทผู้รับเหมา เรื่องก็เกิดขึ้น ผู้นำชาวบ้านที่เป็น อบต.คนหนึ่งแจ้งทาง ส.ป.ก. ว่าไม่ให้ ส.ป.ก.ทำถนนแล้ว จะให้ สำนักงานทางหลวงชนบท (รพช.เดิม) เป็นผู้สร้าง ......ทุกคนงง แต่เมื่อติดตามข้อมูล.. พบว่าเกิดการซ้ำซ้อนในแผนการก่อสร้างถนนขึ้น คือ ส.ป.ก.กับ ทางหลวงชนบทมีแผนตรงกันที่จะสร้างถนนเส้นนี้ (??) โดยเงื่อนไขของทางหลวงชนบทดีกว่า กล่าวคือ จะสร้างสะพานที่เกษตรกรรอคอยมานาน และสร้างถนนที่มีความกว้าง 6 เมตรตามมาตรฐานของหน่วยงาน ส่วน ส.ป.ก.ไม่มีสะพานและขนาดถนนกว้างเพียง 4 เมตรแต่ยาวมากกว่า ชาวบ้านเลือกงานของกรมทางหลวงชนบท ไม่เอาแผนงานของ ส.ป.ก. และระดมชาวบ้านจะเดินขบวนไปร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด... และยื่นเงื่อนไขให้ คนของ ส.ป.ก.ไปเจรจาที่หมู่บ้านหนองหมูภายในวันนั้น...

 

ทั้งหมู่บ้านคืออดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ตื่นตัวเรื่องสิทธิ และความต้องการของหมู่บ้าน

 

เผชิญหน้า Mob : เมื่อเจ้าหน้าที่ราชการ ส.ป.ก. ทราบรายละเอียด ก็ไม่มีใครเสนอตัวเข้าไปเจรจากับกลุ่มชาวบ้านเลย ผู้เขียนในฐานะที่รับผิดชอบกิจกรรมโครงการและบ้านหนองหมูอยู่ในพื้นที่โครงการ จึงต้องไปเผชิญ Mob ลานกลางหมู่บ้าน วันนั้นมีชาวบ้านประมาณ 150-200 คนนั่งเกาะกลุ่มกันอยู่ แต่ละคนคุยเสียงดัง หน้าตาจะเอาเป็นเอาตาย  ฝ่ายราชการนำคณะนายช่างควบคุมงาน ส.ป.ก. ผู้รับเหมาก่อสร้าง และเจ้าหน้าที่อื่นๆอีก 2-3 คน ตามไปนั่งเก้าอี้เผชิญหน้ากลุ่มชาวบ้าน 

 

แล้วการเจรจาก็เริ่ม โดย ผู้นำชาวบ้านลุกขึ้นกล่าวสาระรายละเอียดต่างๆและปัญหาที่เกิดขึ้น แน่นอนจะรวมไปถึงความบกพร่องของฝ่ายราชการ คนของทางราชการ พนักงานบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่อาจจะพลาดพลั้งไปในเรื่องต่างๆระหว่างการทำงาน ทั้งวาจา ท่าที ขณะผู้นำพูดนั้นจะมีเสียงชาวบ้าน เฮ ฮาเสียงดังลั่น ในทำนองเห็นด้วยกับผู้นำ mob ผู้เขียนลุกขึ้นกล่าวถึง แผนงานของ ส.ป.ก.ที่จะสร้างถนนเข้าหมู่บ้าน ซึ่งก็เป็นความต้องการของชาวบ้าน การจัดทำแผนงานก็จะต้องมาปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของที่ดิน ส.ป.ก.ที่ถนนจะผ่านแล้ว ทุกคนก็ไม่ขัดข้อง และเป็นเจตนาดีของทางราชการที่จะทำถนนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับชาวบ้าน  แต่เมื่อมาเป็นแผนงานที่ซ้ำซ้อนกันเช่นนี้ ก็ต้องร่วมกันพิจารณาทางระเบียบราชการโดยเอาผลประโยชน์ของชาวบ้านเป็นที่ตั้ง บัดนี้ชาวบ้านหนองหมูยืนยันต้องการให้ทางหลวงชนบทเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างถนนและสะพาน แต่ทาง ส.ป.ก.ก็ติดขัดเรื่องการยกเลิกสัญญาก่อสร้างซึ่งจะเป็นความเสียหายต่อทางราชการเช่นกัน ขอเวลาให้ฝ่ายราชการปรึกษาหารือกัน 2 วันแล้วจะมาประชุมกันใหม่ที่นี่

 

ราชการเผชิญหน้ากัน: เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ระดมความคิดกันและยืนยันความถูกต้องที่จะก่อสร้างต่อไป ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย เช่น

·      พื้นที่นั้นๆเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. 4-01

·      การประมูลการก่อสร้างกระทำถูกต้องตามกฎหมายและไม่สามารถยกเลิกได้ หากยกเลิกราชการจะถูกฟ้องร้อง

·      การลงนามในสัญญาก่อสร้างของ ส.ป.ก. นั้นลงนามก่อนงานก่อสร้างของกรมทางหลวงชนบท

 

ส.ป.ก. และกรมทางหลวงชนบทในฐานะที่เป็นหน่วยงานราชการด้วยกันจำเป็นต้องนั่งโต๊ะปรึกษาหารือกัน แต่เมื่อเผชิญหน้าเจรจา ปรากฏว่ากรมทางหลวงชนบทก็ยืนยันที่จะดำเนินการต่อไปเพราะเป็นคำสั่งที่มาจากราชเลขา และเป็นการก่อสร้างตามการเสนอขอจากชาวบ้าน บ้านหนองหมูเอง....ที่ขอราชการสร้างสะพานกี่กรมกี่หน่วยก็ไม่เคยได้ จึงไปร้องเรียนต่อราชเลขา ซึ่งที่ดงหลวงมีพื้นที่โครงการพระราชดำริอยู่

 

เอาละซี...ผู้เขียนเห็นการระเบิดครั้งใหญ่ของกาแลกซี่อยู่ข้างหน้าแล้ว... แต่ในที่สุดการประนีประนอมก็เกิดขึ้นแบบ วินวินเมื่อผู้รับเหมาทาง ส.ป.ก. ใจป้ำ ยอมลดรายได้ของบริษัท ตัดสินใจขอเป็นผู้ก่อสร้างถนนเองโดยใช้มาตรฐานทางหลวงชนบทคือถนนกว้าง 6 เมตรตามระยะที่ทางหลวงชนบทมีแผนไว้ ส่วนสะพานทางหลวงชนบทก็สร้างต่อไปตามแผนงาน ส่วนงบประมาณสร้างถนนของกรมทางหลวงชนบทที่ซ้ำซ้อนกับ ส.ป.ก.นั้นให้นำไปใช้เสริมงานก่อสร้างสะพาน

 

เรื่องก็จบลงโดยมีอารมณ์คั่งค้างไปบ้าง ชาวบ้านยอมรับแนวทางออกดังกล่าว ผลประโยชน์ชาวบ้านได้เต็มที่ ได้สะพานที่หวังมานานได้ถนนมาตรฐานทางหลวงชนบท ได้ถนน ส.ป.ก.ตามระยะเดิม....

 

ข้อสรุป:

§      การบูรณาการแผนงานพัฒนาพื้นที่ใดๆระหว่างหน่วยงานราชการ บกพร่อง ต่างฝ่ายต่างทำแผนงานแต่ไม่ประสานงานกัน เป็นปัญหาเดิมๆที่ยังแก้ไม่ตก

§      ราชการขาดการประชาสัมพันธ์งานที่จะดำเนินการให้ชาวบ้านทราบตั้งแต่ต้น  ชาวบ้านจะทราบเมื่องานจะก่อสร้างแล้ว

§      การแก้ปัญหาระหว่างฝ่ายราชการด้วยกันเองไม่ได้หาทางออกด้วยการเปิดใจเข้าหากัน  แต่เป็นการเผชิญหน้าด้วยการยึดเงื่อนของตัวเองเป็นหลัก ทำการเจรจาเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามลดเงื่อนไขลง คือเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง  มิได้ยืนอยู่บนการแสวงหาทางออกร่วมกัน

 

ข้อสังเกตในกรณีนี้

§      ชาวบ้านนั้นเอาประโยชน์ที่หมู่บ้านจะได้รับเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าใครจะมาทำประโยชน์ก็ตาม แต่จะต่อสู้เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดตามเงื่อนไขที่สร้างโอกาสให้แล้ว

§      ระบบธุรกิจ (ผู้รับเหมาก่อสร้าง) ยินยอมลดประโยชน์ที่จะได้รับลงมา จึงเป็นปมคลี่คลายปัญหาที่เผชิญหน้ากัน

§      สถานที่เจรจาใช้บริเวณลานในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านทุกคนสามารถเข้ามาร่วมได้ เราแสดงความจริงใจในการเจรจาอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา

§      ผมผู้เป็นคนนำในการเจรจาตั้งสติและใช้ความเป็นปกติของคนทำงานพัฒนาชุมชน ที่แสดงความตั้งใจ จริงใจ เคารพชาวบ้าน และไล่เรียงความเป็นมาให้ทุกคนเข้าใจเงื่อนไขต่างๆของทุกฝ่ายอย่างชัดเจน แล้วมาสรุปประเด็นการเจรจา โดยเคารพความคิดเห็น ความต้องการของชาวบ้าน และชี้ให้เห็นเงื่อนไขของระบบราชการ

§      การต่อรองมาติดขัดที่กฎระเบียบของราชการ หากผู้รับเหมาก่อสร้างถนนไม่ยอมลดผลประโยชน์ลงมา ความขัดแย้งนี้ย่อมไม่ยุติ

§      การทำงานพัฒนาที่ไม่ได้ผลเต็มที่ก็คือการทำงานตามระเบียบราชการ  ไม่ได้เอาชาวบ้านเป็นตัวตั้ง  แต่เอาระเบียบราชการเป็นที่ตั้งจึงติดขัดไปหมด  แม้ว่าเพื่อนข้าราชจะเอาชาวบ้านเป็นตัวตั้งแต่ก็ไม่สามารถจะข้ามระเบียบราชการไปได้ สรุปว่างานพัฒนาชนบทนั้นการทำงานภายใต้ระเบียบราชการมีข้อจำกัดมาก  ไม่อาจเป็นเงื่อนไขการทำงานที่เสริมพลังชุมชนอย่างแท้จริงได้

 

หมายเหตุ: บันทึกนี้เคยนำลงที่ G2K แล้วที่ http://gotoknow.org/blog/dongluang/73641

จึงนำมาปรับปรุงใหม่

หมายเลขบันทึก: 195264เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2008 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (27)

สวัสดีครับ

เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจและตื่นเต้นดีครับ

แสดงว่าระเบียบราชการเป็นอุปสรรคจริงๆ อาจเพราะเป็นระเยียบที่ไม่มีชีวิต :)

น่าสนใจที่ว่า ผู้รับเหมา สปก.ใจป้ำ ยอมลดรายได้....

การกระทำแบบนี้ ถ้ามีกับทุกฝ่ายในทุกความขัดแย้ง ก็คงจะช่วยให้ทุกอย่างคลี่คลายไปได้บ้างนะครับ

ปัญหาก็คือสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครยอมใคร ต่างกลัวว่าจะเป็นฝ่ายแพ้

ไม่มีใครอยากเป็นพระ

สุดท้ายต้องขอชื่นชมคนกลาง ทำหน้าที่ได้ดีมากครับ

กราบสวัสดี พี่ท่านบางทราย ค่ะ

* ปูมาลงเรียนวิชานี้ ขอเป็นเด็กหลังห้องค่ะ

* .... แพ้เป็นพระ   ชนะเป็นแพะ ....

* .... ยิ้มแยะๆ  และไปเกี่ยวก้อยกัน  ....

*  - - *

* ให้พี่ท่านมีความสุขกับการออกกำลังกาย

* และเจริญอาหารนะคะ ด้วยเคารพหวังเหวิดค่ะ

สวัสดีครับ P 1. พลเดช วรฉัตร

เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจและตื่นเต้นดีครับ

แสดงว่าระเบียบราชการเป็นอุปสรรคจริงๆ อาจเพราะเป็นระเยียบที่ไม่มีชีวิต :)

ระบบราชการสร้างประเทศให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองมามากครับ ผมยอมรับ  แต่สถานการณ์สังคมปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากมายแล้ว  แต่ระบบของเรายังไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเลย  หลายเรื่องระบบราชการจึงกลายเป็นอุปสรรคไปครับ

น่าสนใจที่ว่า ผู้รับเหมา สปก.ใจป้ำ ยอมลดรายได้....

การกระทำแบบนี้ ถ้ามีกับทุกฝ่ายในทุกความขัดแย้ง ก็คงจะช่วยให้ทุกอย่างคลี่คลายไปได้บ้างนะครับ

ปัญหาก็คือสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครยอมใคร ต่างกลัวว่าจะเป็นฝ่ายแพ้

ไม่มีใครอยากเป็นพระ

ผมทราบภายหลังว่า ผู้รับเหมาเจ้านี้ เป็น "เจ้าประจำของ หน่วยงานนี้ครับ" เขาคงยอมลดผลประโยชน์เพื่อช่วยราชการ  แต่ก็ไปเอากำไรในงานข้างหน้า  ซึ่งทราบว่าเขาก็ได้การประมูลงานไปอีกเช่นกัน  งานที่เขารับทำในกรณีบ้านหนองหมูนี้ ผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาตรวจสอบก็ยอมรับว่าได้มาตรฐานตามแบบก่อสร้าง ดีกว่างานเดียวกันในจังหวัดอื่นๆด้วยซ้ำไป  โชคดีไปที่เป็นผู้รับเหมาใจถึง..

สุดท้ายต้องขอชื่นชมคนกลาง ทำหน้าที่ได้ดีมากครับ

ผมเคยร่วมการเดินขบวนมาก่อน อิอิ สมัยเรียน เมื่อมาทำงานกลับมาโดนซะเอง  แต่ก็ใช้ประสบการณ์เก่ามาพิจารณาได้ประโยชน์มากทีเดียว เช่น

  • ต้องเข้าถึงความต้องการชุมชนอย่างแท้จริงว่าต้องการอะไร ด้วยเหตุผลอะไร
  • เราต้องแสดงความจริงใจ โปร่งใส ตรงไปตรงมาให้เห็นอย่างชัดเจน
  • ต้องสื่อสารความก้าวหน้าของการแก้ปัญหาตลอดเวลา ทุกวัน
  • เข้าพบผู้หลักผู้ใหญ่ของชุมชน เพื่อขอทราบความคิดเห็นและทำความเข้าใจแก่ท่านอย่างละเอียด  วิเคราะห์ให้ออกว่าใครคือ keyman ของชุมชนนี้ กรณีนี้พบว่า พระที่สำนักสงฆ์บนภูเขาติดกับหมู่บ้านเป็นหลักที่สำคัญยิ่งของชาวบ้าน  และเป็นผู้นำที่ไปขอสะพานมาจากราชเลขา เพราะที่ดงหลวงมีเขตโครงการพระราชดำริ  เมื่อราชการไม่สามารถให้สะพานเขาได้ เขาก็ดิ้นรนไปขอจากในวังครับ  เราจึงเข้าพบพระรูปนั้น และกลายมาเป็นความสนิทสนมและร่วมกันทำงานพัฒนาชุมชนนี้อีกหลายกิจกรรมต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้  โดยเฉพาะเรื่องอนุรักษ์ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม  พระท่านเป็นสายป่าครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับน้องปู P 2. poo

* ปูมาลงเรียนวิชานี้ ขอเป็นเด็กหลังห้องค่ะ

* .... แพ้เป็นพระ   ชนะเป็นแพะ ....

* .... ยิ้มแยะๆ  และไปเกี่ยวก้อยกัน  ....

*  - - *

* ให้พี่ท่านมีความสุขกับการออกกำลังกาย

* และเจริญอาหารนะคะ ด้วยเคารพหวังเหวิดค่ะ

 

พี่เอาประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนให้กับท่านครูบา และเพื่อนๆทุกคน ครับ

ความขัดแย้งในชุมชนมีเสมอๆ ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ ทั้งที่แก้ไขได้ง่ายๆ และไม่ง่าย

บางครั้งก็จบลงที่โรงพักก็มี  บางครั้งจบลงที่บ้าน เจ้าโคตรก็มี เดี๋ยวจะเขียนต่อครับ

มาเป็นลูกศิษย์ต้องตั้งใจเรียนนะ เพราะเอาไปใช้ประโยชน์ได้ครับ  ไม่วันใดก็วันหนึ่งเราอาจพบปัญหาเหล่านี้บ้างครับ อิอิ หนูน้อย.ปู..

ท่านบางทรายขอรับ

  • กรณีอย่างนี้แหละครับ ที่ชัวร์ป๊าบ!ที่สุด
  • โดนกลางใจ ดิ้นปัดๆเลยละขอรับ
  • จะปรึกษา ย่อ คัดเกลา จัดเข้าหน้าPower Point อีกครั้ง
  • จึงยังจะขอรบกวนไปอีกนานเท่านาน
  • สบายดีตลอดปีพรรษานี้นะครับ

* เด็กหลังห้อง เพิ่งอ่านจบค่ะ แต่ตั้งใจเรียนนะคะพี่ท่าน ...

* ... แต่ในที่สุดการประนีประนอมก็เกิดขึ้นแบบ วินวิน

* ยังยืนยัน นั่งยัน คำๆ เดิมนะคะ ว่า ตัวกลาง หรือ ผู้ประสานงาน มีบทบาท สำคัญ ในการเชื่อมความเข้าใจ ระหว่าง สองฝ่าย โดยยึดหลัก การประนีประนอม บนพื้นฐาน ความถูกต้อง และประโยชน์ โดยรวม เป็นสำคัญ *

* น้อง อ้ะ ลูกศิษย์เข้าใจถูกต้องไหมคะพี่ท่าน อ. :)  ... โปรดชี้แนะ ขอบคุณค่ะ

* อ่านแล้วตะหงิดๆ ค่ะ เพราะหากเป็นคนอื่น หรือน้องคงถอยทัพไป แน่ๆ เลยค่ะ เจอศึก 2 ฝั่งอย่างนี้ ...

สวัสดีเจ้าค่ะ ลุงจ๋า

ลุงจ๋าๆๆ สบายดีหรือเปล่าเจ้าค่ะ หลานคิดถึง รักลุงนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ กอดๆๆๆๆๆ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---->น้องจิ ^_^

  • สวัสดีค่ะท่านบางทราย
  • มีงานหลายเรื่องที่สะดุด ติดขัดด้วยกฏ ระเบียบ ทางราชการ
  • ผบ.บางท่านบอกว่าต้องบริหารกฏ ระเบียบ ให้ได้ แต่บางครั้ง เราก็หนีไม่ค่อยออกนะคะ ต้องออกแรงกันอยู่บ่อยๆ
  • ขอให้อิ่มบุญ อิ่มเอิบใจในเทศกาลวันเข้าพรรษาค่ะ

สวัสดีครับท่านครูบา P 5. ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

  • กรณีอย่างนี้แหละครับ ที่ชัวร์ป๊าบ!ที่สุด
  • โดนกลางใจ ดิ้นปัดๆเลยละขอรับ
  • จะปรึกษา ย่อ คัดเกลา จัดเข้าหน้าPower Point อีกครั้ง
  • จึงยังจะขอรบกวนไปอีกนานเท่านาน
  • สบายดีตลอดปีพรรษานี้นะครับ

ดีใจที่กรณีศึกษานี้ตรงใจท่านครูบาครับ หากต้องการรูปที่ชัดๆเพื่อทำ Power point ก็จะส่งมาให้ครับ

มีอีกหลายกรณี บางกรณีก็ยังคาราคาซังอยู่ ก็น่าสนใจครับ จะทะยอยเขียนครับ

ด้วยความยินดียิ่งครับที่ประสบการณ์จากดงหลวง จะช่วยให้มีการคิดอ่านหาทางพัฒนากระบวนการแก้ไขปัญหากันต่อไปครับ

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ น้องปู P 6. poo

* เด็กหลังห้อง เพิ่งอ่านจบค่ะ แต่ตั้งใจเรียนนะคะพี่ท่าน ...

อิอิ... รู้อยู่ว่าน้องปูสนใจเรื่องราวแบบนี้ เพราะอาจจะนำเอาประสบการณ์เหล่านี้ไปใช้ไก้บ้างนะ

* ... แต่ในที่สุดการประนีประนอมก็เกิดขึ้นแบบ วินวิน

* ยังยืนยัน นั่งยัน คำๆ เดิมนะคะ ว่า ตัวกลาง หรือ ผู้ประสานงาน มีบทบาท สำคัญ ในการเชื่อมความเข้าใจ ระหว่าง สองฝ่าย โดยยึดหลัก การประนีประนอม บนพื้นฐาน ความถูกต้อง และประโยชน์ โดยรวม เป็นสำคัญ *

* น้อง อ้ะ ลูกศิษย์เข้าใจถูกต้องไหมคะพี่ท่าน อ. :)  ... โปรดชี้แนะ ขอบคุณค่ะ

ใช่ครับผู้ประสานงานเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญมาก  แต่อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีที่ผู้ประสานงานก็ไม่สามารถแก้ปัญหานั้นๆได้ เพราะคู่กรณี ไม่ยอมลดราวาศอก  และปัญหาซับซ้อนมากขึ้นกว่าที่ผู้ประสานงานจะเอาหลักความจริงใจไปใช้  เพราะทั้งคู่กรณี ไม่ได้จริงใจด้วย  ตกอยู่ใน โมหะจริต จึงต้องใช้เวลาเข้ามาช่วย  ซึ่งพี่จะเขียนต่อไปครับ น้องปู

* อ่านแล้วตะหงิดๆ ค่ะ เพราะหากเป็นคนอื่น หรือน้องคงถอยทัพไป แน่ๆ เลยค่ะ เจอศึก 2 ฝั่งอย่างนี้ ...

ประการสำคัญของกรณีนี้คือ อยู่ในพื้นที่ทำงานของเรา  และเราเองก็รู้จักชาวบ้านดีมาก่อนเกิดกรณีนี้  บ้านนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญของดงหลวงในหลายๆเรื่อง เราจึงเข้าถึงมาก่อนหน้านี้แล้วจึงรู้จักชาวบ้านดี  แม้ปัจจุบันผู้นำเครือข่ายองค์กรชาวบ้านก็อยู่ที่หมู่บ้านนี้

โครงสร้างชุมชนของบ้านนี้ดีเด่นมาก  เพราะ ผู้นำเกาะกลุ่มกันแน่น  มีพระเป็นพี่เลี้ยงที่น่าสนใจ  ป่าชุมชนเคยได้รับธงพระราชทานจากสมเด็จฯมาแล้ว

บวกกับประสบการณ์ที่เราผ่าน Mob มาพอสมควรจึงรู้จักจิตวิทยาของคนในอารมณ์นั้นครับ

สวัสดีเจ้าค่ะหลานรัก P 7. โก๊ะจิจัง แซ่เฮ

ลุงจ๋าๆๆ สบายดีหรือเปล่าเจ้าค่ะ หลานคิดถึง รักลุงนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ กอดๆๆๆๆๆ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---->น้องจิ ^_^

 

ลุงสบายดีครับ

สุขภาพก็ดี  แข็งแรง

ตั้งใจเรียนนะครับ ลุงก็เป็นกำลังใจให้ครับ

สวัสดีครับน้อง P 8. เอื้องแซะ

  • มีงานหลายเรื่องที่สะดุด ติดขัดด้วยกฏ ระเบียบ ทางราชการ

ราชการสร้างบ้านสร้างเมืองมามากแล้ว เพียงแต่ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ควรพิจารณาปรับปรุงระเบียบน่ะครับ

  • ผบ.บางท่านบอกว่าต้องบริหารกฏ ระเบียบ ให้ได้ แต่บางครั้ง เราก็หนีไม่ค่อยออกนะคะ ต้องออกแรงกันอยู่บ่อยๆ
  • ขอให้อิ่มบุญ อิ่มเอิบใจในเทศกาลวันเข้าพรรษาค่ะ

ขอบคุณครับ ขอให้อิ่มบุญเช่นกันครับ

ด้วยความระลึกถึงครับ

  • คิดถึงพี่บางทรายค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้นะคะ

 

สวัสดีครับน้องนก

ไม่ได้คุยกันเลยนะ คิดถึงเช่นกันครับ

พี่ห่างๆออกไป เพราะช่วงนี้งานยุ่งหน่อยครับ

สวัสดีครับ น้องสาว

ขอบคุณครับที่ถามหา

  • ช่วงที่หายไปนั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายประการ จริงๆก็เป็นปกติของชีวิตน่ะครับ คือ
  • เป็นหวัดอย่างแรง
  • เดินทางบ่อยมาก ไปต่างจังหวัด ไปบ้าน ร่วมกับญาติทำบุญให้คุณแม่ที่อายุครบ 86
  • น้องรักที่ทำงานพัฒนามาด้วยกันเสียชีวิตด้วยมะเร็งที่ตับ เขาเป็นกรรมการโครงการที่พี่ทำงานอยู่ด้วย
  • น้องที่ร่วมทำงานด้วยกันอีกคน มีลูกสาวอายุ 12 ปีที่น่ารักมาก เรียนเก่งชะมัด เป็นมะเร็งที่ม้ามรายที่ 18 ของโลก และเสียชีวิตลงในพื้นที่ที่พี่ทำงานอยู่
  • ทำรายงานสารพัดรายงาน
  • ....งาน งาน งาน...
  • เลย..ขอหยุดงานเขียนในนี้ไปโดยปริยายครับน้องสาว
  • น้องล่ะ สบายดีนะครับ รักษาตัวบ้างนะครับ
  • ขอบคุณครับ

สู้ ๆ ค่ะ พี่บางทราย... ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ

  • ดีใจที่พี่บางทรายยังเข้ามาตอบ และยังถามไถ่ความเป็นอยู่ น้องสบายดีค่ะ
  • ทาง มช.มีหนังสือมาที่ทำงานน้องให้เสนอชื่อศิษย์เก่าดีเด่น น้องอยากเสนอชื่อพี่จังค่ะ
  • ขอให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ บรรยากาศเดิมนะคะ และคิดว่าหลายคนคงรอคอยเหมือนกัน

น้อง มช.

  • พี่บางทราย ... หายไป
  • คิดถึง ๆๆ  พี่ค่ะ
  • อย่าหายไปนานอย่างนี้ซิคะ
  • ใจไม่ดีเลยค่ะ
  • คิดถึงค่ะพี่ เสร็จจากภารกิจอย่าลืมกลับมานะคะ

สวัสดีครับน้องสาว 17. Phiangruthai สู้ ๆ ค่ะ พี่บางทราย...

ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ

ผ่านไปแล้วด้วยดีครับ ขอบคุณที่ให้กำลังใจ


* ดีใจที่พี่บางทรายยังเข้ามาตอบ และยังถามไถ่ความเป็นอยู่ น้องสบายดีค่ะ

* ทาง มช.มีหนังสือมาที่ทำงานน้องให้เสนอชื่อศิษย์เก่าดีเด่น น้องอยากเสนอชื่อพี่จังค่ะ

ขอบคุณมากๆที่คิดถึงพี่ในมุมเช่นนั้น ไม่เป็นไรหรอกครับ มีลูกช้างเชือกอื่นๆเขาทำดีมากกว่าพี่ เขาสมควรรับสิ่งนั้นครับ  นี่ลูกช้างระหัส 11 และ 12 เขานัดรวมรุ่นกันวันที่ 9 ธ.ค.ที่ มช. คงไปกันมากมาย เพราะมีคนดังๆเป็นโต้โผใหญ่  ช่วงนั้นพี่อยู่เชียงใหม่พอดี คงได้ไปร่วมอยู่ครับ

* ขอให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ บรรยากาศเดิมนะคะ และคิดว่าหลายคนคงรอคอยเหมือนกัน น้อง มช.

ขอบคุณครับ แล้วจะกลับมาครับ

สวัสดีครับน้องสาว เพ็ญศรี(นก)

  • พี่บางทราย ... หายไป
  • คิดถึง ๆๆ  พี่ค่ะ
ความจริงไม่ได้ี่หายไปไหนหรอก เพียงแต่ไม่ได้โผล่หัวมาเท่านั้น อิอิ แอบบอ่านบันทึกอยู่ครับ
  • อย่าหายไปนานอย่างนี้ซิคะ
  • ใจไม่ดีเลยค่ะ
  • คิดถึงค่ะพี่ เสร็จจากภารกิจอย่าลืมกลับมานะคะ
พี่กำลังจะจัดอบรมเพื่อนร่วมงานให้เขียนบล็อก  แต่เครื่องมือยังไม่พร้อม  รออยู่ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็กลับมาเขียนอีกครับ

ความจริงพี่ก็เขียนอยู่ 2 ที่ครับ ไม่ได้หยุด(เพียงแต่ไม่ได้โผล่มาเท่านั้น) ที่หนึ่งคือ lanpanya.com และอีกที่คือพี่เขียนเรื่องของงานโดยตรงแล้วเมล์ให้เพื่อนร่วมงานที่ยังไม่คุ้นกับบล็อกอ่าน ตรงนี้แหละที่จะเอามาใส่ที่นี่หลังการอบรมแล้วครับ

คิดถึงน้องอยู่เหมือนกันครับ ขอบคุณมากครับน้องนก
  • กลับมาแล้ว
  • เย้ ๆ ๆๆ
  • ดีใจ ๆๆๆๆ

P 

 มาเรียนรู้ค่ะ

งานยากนะคะ แต่ผ่านไปด้วยดี 

นี่เพราะผู้ประสานงานเยี่ยมมากค่ะ

ไม่งั้นเจอม็อบ

ไปปลูกป่าชายเลนกันไม๊ ที่นี่ค่ะ 

สวัสดีครับคุณครูหัวฟู  อิอิ

 

บังเอิญว่าไม่มีความซับซ้อนเท่าไหร่กรณีความขัดแย้งในชนบทกรณีนี้ และเราก็อยู่ในฐานะที่จะตัดสินใจได้ ก็ช่วยให้คลี่คลายได้เรียบร้อยครับ

 

เดี๋ยวไปปลูกป่าด้วยคนครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

* มาส่งความสุขปีใหม่ค่ะ

สวัสดีครับ นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง) ขอบคุณมากครับ

สวัสดีปีใหม่อาจารย์หมอJJ ครับ ขอบพระคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท