วันนี้นั่งโละภาพถ่ายในกล้อง เห็นภาพการคั่ว "เม็ดหัวครก" ภาษากลางเรียก "มะม่วงหิมพานต์" แต่ใต้ก็มีใต้หลายแบบ ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกเหมือนกันรึเปล่า ??
หลังจากเราซื้อสำเร็จรูปมานาน นายดำ รวมทั้งพี่ประจิม พี่พินิจ นึกครึ้มอกครึ้มใจ นึกอยากสั่งมาคั่วเอง !! ซึ่งหลังจากการกิจกรรมครั้งนี้ผ่านไปพี่พินิจ พี่ประจิมเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่บ้านเราค้นพบสัจธรรมอย่างหนึ่ง ???
(อ้อ !! จำได้สมัยเด็ก ๆ แม่ผู้เขียนจะใช้ตะกง(คล้าย ๆ ถาดสังกะสีเก่า ๆ ) นำมาคั่ว พอคาดว่ามันจะสุกแล้วเราก็คว่ำถาด ไฟก็ดับ แล้วเราจึงค่อยบรรเลง ซึ่งถ้าหากเม็ดสุกพอดีจะหอม นุ่มอร่อยมาก...)
นั่นคืออดีตประมาณเกือบ 30 ปี และนี่คือปัจจุบัน
กว่าเราจะเริ่มกิจกรรม ก็กว่าจะหาอุปกรณ์เดินเวียนรอบบ้าน ในที่สุดก็ได้ตะแกรงหน้ารถจักรยานมาใช้ถูไถ
และกว่าจะก่อไฟติด
ตอนก่อไฟจำได้ว่า น้องต้นตาลพูดว่า "พ่อทำให้โลกร้อน" ทำเอาพวกเราอึ้ง !!!
ด้วยความด้อยประสบการณ์เราพบว่า...สุก ๆ ดิบ ๆ เลยต้องเลือกมาคั่วใหม่อีกรอบ
อุปกรณ์ในการกระเทาะเปลือกก็คือค้อนนั่นเอง
เราพบว่าที่เราได้กินจริง ๆ มีเพียงประมาณ 50 % แล้วกัน คือไหม้บ้าง กระเทาะจนแตกละเอียดเกินไปกินไม่ได้บ้าง เสร็จแล้วพบว่ามือดำปิ๊ดปี๋ เสื้อผ้าเด็ก ๆ เลอะดำไปหมด
แล้วเราก็เลยค้นพบสัจธรรมว่า "ซื้อกินสำเร็จรูปอย่างเดิมเถอะ" เราซื้อแบบไม่คั่วกิโลละ 60 บาท หลังจากคั่วได้กินดี ๆ สัก ?? ขีด บวกลบคูณหาร ซื้อสำเร็จรูปคุ้มกว่า (กิโลละ 200 กว่ามั๊ง แต่กินได้ทุกเม็ด) แถมยังไม่สร้างภาวะโลกร้อนอย่างที่น้องต้นตาลทักอีก!!
แวะมาทักทาย ครอบครัวอบอุ่นจังคับ
...เป็นภาพที่น่ารัก..เด็กคงสนุกสนานมากเลย
...เด็กยุคใหม่ไม่ค่อยรู้จักหัวครก กันแล้วค่ะ