เมื่อบอกว่า พระธุดงค์ คนไทยทั่วไปจะเข้าใจว่าเป็น พระที่แบกกลดสะพายบาตรและย่ามเดินจาริกไปแล้วปักกลดพักค้างแรมตามป่าช้า ใต้ต้นไม้ ชายป่า ในสวน หรือที่รกร้างว่างเปล่าบางที่... ซึ่งความเข้าใจทำนองนี้ นับว่าเป็นความหมายที่งอกขึ้นมาในวัฒนธรรมทางภาษาของเรา แต่อาจไม่ตรงตามความหมายของภาษาเดิมนัก...
ส่วนเฉพาะคำว่า ธุดงค์ เป็นอย่างไรนั้น... ถ้าไม่สอบถามพระสงฆ์ทรงภูมิรู้ หรือชาวบ้านผู้เคยบวชเรียนหรือศึกษามาเป็นการเฉพาะแล้ว ก็ยากที่จะอธิบายได้ตรงตัว...
อันที่จริงคำว่า ธุดงค์ หมายถึงการกำหนดอุบายบางอย่างเพื่อกำจัดกิเลสส่วนตัว ตามคัมภีร์นั้น ท่านจำแนกออกเป็น ๑๓ ชนิด ซึ่งผู้สนใจอาจค้นหาอ่านในอินเทอร์เน็ตได้ไม่ยาก... หรือผู้ที่ต้องการจะอ่านจากคัมภีร์วิสุทธิมรรคแปลโดยตรงก็เชิญ คลิกอ่านที่นี้ ในบันทึกนี้ จะเล่าเฉพาะความหมายของศัพท์เป็นสำคัญ...
ธุดงค์ หรือเขียนตามศัพท์เดิมว่า ธุตังคะ (ศัพท์นี้ อาจใช้สระอูแทนสระอุ เป็น ธูตังคะ ได้ด้วย) จัดได้ว่าเป็นทั้งคำสมาสและสนธิ... ที่เรียกว่าสมาสนั้นก็คือ นำศัพท์มาต่อกัน กล่าวคือ ธุตะ+องคะ = ธุตอังคะ ... แต่เพื่อความไพเราะและออกเสียงได้ง่ายจึงทำการเชื่อมอักษรภายในอีกครั้งงที่เรียกว่าสนธิ กล่าวคือ ธุตอังคะ = ธุตังคะ ... (จำง่ายๆ ว่า สมาสชน สนธิเชื่อม นั่นคือ สมาสเพียงเอาศัพท์มาชนกันต่อกันธรรมดา ส่วนสนธิเอาอักษรของศัพท์มาเชื่อมกันอีกครั้ง)
ธุตะ (ธุ + ตะ) มาจาก ธุ รากศัพท์ แปลว่า กำจัด ในที่นี้หมายถึงการกำจัดกิเลสเท่านั้น...
- เมื่อมาเป็นคุณนามของพระภิกษุแล้ว ธุตะ จึงแปลว่า พระภิกษุผู้กำจัดกิเลส
- เมื่อมาเป็นคุณนามของอุบายแล้ว ธุตะ จึงแปลว่า อุบายเป็นเครื่องกำจัดกิเลส
อังคะ ถ้าไม่แปลทับศัพท์ว่า องค์ ก็อาจแปลออกศัพท์ได้ว่า ข้อกำหนด
เมื่อถือเอาตามนัยนี้ ธุตังคะ หรือ ธุดงค์ อาจแปลได้ ๒ นัย กล่าวคือ
- ธุดงค์ = ข้อกำหนดของพระภิกษุผู้จะกำจัดกิเลส
- ธุดงค์ = ข้อกำหนดของอุบายเป็นเครื่องกำจัดกิเลส
.........
ตามพุทธานุพุทธประวัติ พระมหากัสสปะ ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายในด้านธุดงค์ ซึ่งปกติท่านจะถือธุงค์ ๓ ข้อ เช่น ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร์ เป็นต้น... และพระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอพระองค์ เป็นต้น...
อนึ่ง เมื่อแรกบวชนั้น ผู้เขียนค่อนข้างเลื่อมใสในปฏิปทาของพระมหากัสสปะ และมีวรรคหนึ่งที่คัมภีร์เขียนไว้คือ ประพฤติเป็นผู้ห่าง ... ซึ่งประเด็นนี้ จะนำไปเล่าอีกครั้ง
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย BM.chaiwut ใน เล่าเรื่องภาษาบาลี
ศึกษาธรรม วันละนิด จิตแจ่ม ใส อะไรก็ไม่สู้ เท่ารู้ จริง ขอบคุณวิทยาทาน ครับท่าน สาธุ