มีบางครั้งในชีวิต คนเรา ที่ได้เจอหนังสือบางเล่ม บทบางบทในหนังสือเล่มนั้น ที่มีมนต์สะกดให้เราตะลึง โลกเหมือนหยุดหมุน เหมือนเราได้พบกับอะไรบางอย่างที่เราเสาะหามานาน โดยไม่รู้ว่าเราต้องการสิ่งใด แล้วจู่ๆ มันก็ปรากฏขึ้นมา
ผมก็ได้เจอกับปรากฏการณ์ที่เอ่ยถึงข้างบน เมื่อผมได้อ่าน "From magical child to magical teen : A guide to Adolescent Development"
เขียนโดย Joseph Chilton Pearce
From Magical Child to Magical Teen: A Guide to Adolescent Development by Joseph Chilton Pearce Read more about this book... |
ผมพลิกหนังสือเล่มนี้ไปมา ผมก็สะดุดกับ บทที่ว่าด้วย bonding and Attachment หลังอ่านไปสักพัก ผมเริ่มรับรู้ความรู้สึกบางอย่างที่บอกตัวเองว่า นี่คือเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องหนึ่งที่เราควรบอกออกไปให้คนรู้มากที่สุด เพื่อทำให้เกิด ผู้วางใจในความผูกพัน(Bonded person) ให้มากกว่า คนที่ยึดมั่นในการเกาะกุม(Attached person) และที่สำคัญ ในฐานะเป็นหมอคนหนึ่ง การคลอดในความรู้สึก ความคิด และมุมมอง เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลังจากอ่านจบบทนี้
ขอบตาร้อนผ่าว ด้วยความรู้สึกหลากหลาย มากมาย สำคัญที่สุดคือ บอกกับตัวเองว่า จะไม่กระทำอย่างที่เคยทำมาอีก
การคลอด เป็นกระบวนการสำคัญที่สุดในชีวิตของคนทุกคน ที่กำเนิดมาในโลกใบนี้ ไม่ว่ายากดีมีจน มียศศักดิ์ ต้อยต่ำเพียงใด ทุกคนมีการคลอดเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ในการส่งผ่านตัวตนเก่าในครรภ์มารดา ที่ปลอดภัย และได้ทุกอย่างที่ต้องการโดยไม่ต้องร้องขอ ออกมาสู่โลกภายนอก ที่ต้องพึ่งพาตัวเอง และผู้อื่น โดยสร้างความวางใจให้แก่ทารกน้อยในการออกมาสู่โลกภายนอก ว่าปลอดภัยเฉกเช่นในครรภ์มารดา เช่นนั้นแล้วคนผู้นั้นไม่ว่าจะมีชาติกำเนิดอย่างไร เขาจะเป็นผู้วางใจในความผูกพัน หากการออกมาสู่โลกภายนอกของทารกน้อยไม่รับการสร้าง bonding ให้ทันกาล ทารกน้อยผู้นั้นจะไม่วางใจในสิ่งใด หากแต่จะทุรนทุราย ขวนขวายหาหลักประกันให้ตัวเอง โดยไม่วางใจในใครนอกจากการคาดการณ์ และทดสอบ มองหาความสัมพันธ์แบบ มีเงื่อนไข
ผมคิดว่าจะเขียนบทความนี้เป็น series โดยสลับระหว่าง การแปล และความเห็นประกอบกับ ประสบการณ์ที่ตัวเองพบมา น่าจะสนุกดี เป็นการทดลองใหม่ๆของตัวเองด้วย
ตัวหนังสือสีน้ำเงินจะเป็นส่วนที่แปลจากหนังสือ(คงไม่สละสะลวยหรอกครับ เอาพอรู้เรื่องพอ ปัญญาเรื่องนี้มีไม่มาก :) )
3
Bonding and Attachment
ในหนังสือของผมที่ชื่อ Magical child ผมได้พูดถึง แม่ชาวอเมริกันคนหนึ่งที่เฝ้าสังเกต บรรดาทารกชาวอุกันดาซี่งแม่ได้เอาผ้าห่อเด็กผูกติดกับหน้าอกของตน ปรากฏว่าเด็กคนนี้ไม่ใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ถึงกระนั้นเด็กยังดูสะอาดตลอดเวลา แม่อเมริกันชน ได้ถามแม่อูกันดา ว่าพวกเธอดูแล เรื่องการขับถ่ายของทารกอย่างไร จึงไม่เปรอะเปื้อนผ้าที่ห่อไว้เลย
"พวกเราก็พาเขาไปถ่ายนะซิ" มารดาชาวอูกันดาตอบ
"แต่ พวกคุณรู้ได้อย่างไร ว่าทารกน้อยหล่านี้ ต้องการจะฉี่จะอึล่ะ" อเมริกันชนถาม
แม่ชาวอูกันดา ทำหน้าประหลาดใจสุดๆ แล้วตอบว่า " ก็คุณรู้ได้ยังไงว่าคุณต้องไปส้วม เราก็รู้อย่างงั้นแหละ"
ในกัวเตมาลา บรรดาแม่ๆ ก็จะผูกลูกติดกันอกตัวเองเหมือนในอูกันดา และถ้าแม่คนไหนที่ถูกลูกที่พึ่งเกิดยังฉี่ยังถ่ายใส่ตัว หลังเกิดได้ สองสามวัน แม่คนนั้นจะถูกระบุว่าเป็นแม่ที่งี่เง่าและห่วย
Colin Turnbull เขียนในหนังสือ The forest people ไว้ว่าบรรดาแม่ๆเหล่านี้จะสามารถรับรู้ความต้องการของทารกของพวกเธอได้ก่อน และตอบสนองก่อนที่เด็กจะแสดงกิริยาทางกายปรากฏว่าต้องการอะไร
และข้อความข้างบนนี้ เป็นหัวใจของประเด็นที่ว่าด้วย การผูกพัน(bonding)
แล้วแม่คนไทยสมัยนี้ หากใช้ตัวชี้วัดของ แม่ชาวกัวเตมาลา จะยังคงเป็นแม่ที่สอบผ่านไหมหนอ และมีสักกี่คน ที่ ผูกพันกับลูกตัวเองอย่างแม่อูกันดา และ กัวเตมาลา หรือเราลอกอเมริกันชน มาจนถึงรากเหง้าของการเลี้ยงลูกของเรา
จบ อารัมภบท
นพ.วรวุฒิ โฆวัชรกุล
นำเสนอครั้งแรกที่ www.newheartnewlife.net
ขอบคุณเช่นกันครับที่แวะมาทักทาย มีความเห็นก็บอกกล่าวกันเลยครับ ยินดีรับฟัง เรื่องราวเหล่านี้ต้องการมุมมองที่หลากหลายครับ ขอบคุณอีกทีครับที่แวะมา :)