สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เขต 2
ได้อบรมโรงเรียนในโครงการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงสำหรับครูในเขตพื้นที่
ในวันที่ 7-8 มิถุนายน 2551 และวันที่ 14 -15 มิถุนายน 2551
ผมได้เป็นวิทยากรร่วมคณะให้ความรู้ในเรื่องปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน ลังการอบรมแล้ว
2 สัปดาห์ต่อมาในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
การดำเนินการตามCAR1:การวิเคราะห์เพื่อรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ครูที่เข้าอบรมทุกคนจะต้องเขียนรายงานการวิจัยCAR1ให้เสร็จตาม
IDP(แผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนให้มีคุณภาพ)ผม..เห็นว่าการขับเคลื่อนของโรงเรียนในโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงเริ่มถดถอย...เพราะ
..เริ่ม ...มึน..และ ..งง..ไม่รู้จะจัดกระทำกับข้อมูลที่เก็บจาก
CAR1-Aถึง CAR1-D ที่เสร็จแล้วอย่างไร
หรือบางคนก็ยังไม่ทำ...สงวนท่าที..ดูครูคนอื่น(ไม่รู้มีเสียงบ่นว่าทำไม่ได้หรือเปล่า)
ผมเห็นว่าน่าจะมีสิ่งที่จะเป็นตัวช่วยให้ครูทำงานได้สะดวกขึ้น
ผมตัดสินใจร่างเค้าโครงเขียนรายงานผลการวิเคราะห์เพื่อรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ตามตัวอย่างหัวข้อการเขียนรายงานหน้า14
ให้เพื่อนครูได้ศึกษาขอย้ำกับเพื่อครูนะครับเป็นแค่...ตัวอย่าง
เชิญดาวน์โหลดครับ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า.................
-เห็นมานักต่อนักแล้วตัวอย่าง จะกลายเป็นตัวเดียวอันเดียวในที่สุด
-ผมว่าเราต้องปุจฉา-วิสัชนา กันก่อนละมั้งว่า ปัญหาที่ครูไม่ทำวิจัยในชั้นเรียนมันอยู่ที่ตรงไหน ทำไม่ได้ หรือไม่ทำ ผมเองก็ยังไม่กล้าฟันธง แต่ที่เห็น ๆมาอบแล้วผลงานไม่ค่อยจะออก ที่ออกมาได้ ไม่ได้เกิดจากแรงจูงใจภายใน จะเป็นไฟท์บังคับเสียมากกว่า ลองไปอ่านผลงานแล้วรู้สึกมันแกน ๆอย่างไรชอบกล ยิ่งมีฟอร์มให้เติมคำในช่องว่าง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่อยากจะเซดเลย
-ขออภัยนะครับ พูดให้หนุก ๆหรอก ไม่ใช่มีจิตอกุศล มันเหมือนมีคำตอบ แต่ก็ไม่กล้าจะตอบ มานึกถึงตัวเราเองทำวิจัยเป็น(บ้างนิดหน่อย) เราเองก็ยังไม่คิดจะทำจริง ๆจัง ๆเลย ที่ทำมาแล้วเรื่องสองเรื่องก็เพราะถูกบังคับ มีปัญหาก็แก้ ๆไป บางครั้งวิธีแก้ไขของเราก็เข้าที แต่ก็ขี้เกียจเขียน บางทีลองพยามยามเขียน เขียนได้ไม่กี่หน้า อยู่ ๆก็เลิกไปเสียงั้นแหละ เฮ่อ! ดูเหมือนปัญหามันจะอยู่ที่ใจเราน่ะ หรือว่าไง
-ว่าก็ว่าเถอะ ถ้าวงการของเรามองว่าการเอากระบวนการวิจัยมาใช้ในงานสอน แล้วจะได้สติปัญญามาใช้ในการพัฒนาการสอนให้มันดีขึ้น งานอื่น ๆก็เหมือนกันว่าม้ายยย...งานธุรการ งานพัสดุ งานการเงิน งานวางแผน และงานบริหารอื่น ๆก็ควรต้องเอาวิจัยมาจับทั้งนั้นแหละ แต่ไม่เห็นใครพูดถึง ไม่เห็นมีใครทำ หรือไม่เห็นมีใครไปบอกให้ใครทำ ผมว่าถ้าจะสร้างวัฒนธรรมของการนำเอาการวิจัยมาใช้ในการพัฒนางานมันต้องพากันทำทุกฝ่าย ทุกระดับ ไม่เว้นแม้แต่เลขาธิการ สพฐ. ยังงี้แหละผมว่า ครูจึงจะมีแรงระเบิดจากข้างใน งานวิจัยในชั้นเรียนมันจะเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ไม่ต้องอบ ไม่ต้องอัดกันให้มากหรอก เพราะถ้าใจมันเห็นเป็นสิ่งจำเป็นแล้ว กะเรื่องวิจัยในชั้นเรียนขี้ประติ๋ว มันไม่เกินความพยายามของครูหร็อก ว่าม้ายยย...
-ชวนวิวาทะ ก็เพื่อจะให้การวิจัยในชั้นเรียนมันไม่เป็นเรื่องลวงโลกเท่านั้นเอง หนักนิดเบาหน่อยขออภัยด้วย
ครูดี
ขอบคุณมากเลยครับ
คุณโชคชัย เป็นบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน
เป็นแนวทางและแนวคิดที่ดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องการให้ครู
1. ประหยัดเวลาในเรื่องเอกสาร เพื่อจะได้ทุ่มเทกิจกรรมการสอน (คือใครมีอะไรเอามาแชร์กัน ไม่ใช่ครูทั่วประเทศต้องมานั่งคิด นั่งทำทุกคน)
2. แต่ละคนระดับความเข้าใจไม่เท่ากันในแต่ละเรื่อง เป็นธรรมดาของมนุษย์
ผมขอเสนอแนะว่า แต่ก่อนมาเห็นทำหลักสูตรแกนกลางกันยกใหญ่ แล้วนำมาใช้บ้างไม่ใช้บ้าง
ผมว่าเสียเวลาเปล่า
ครูต้องมาปรับปรุง จัดทำกันอีกนานโข
ทางที่ดีทำให้เสร็จจากส่วนกลาง ครอบคลุมการสอนทั่วประเทศทุกท้องถิ่น
แล้วแต่ละท้องถิ่นมาหยิบไปใช้ที่ตรงกับท้องถิ่นตัวเองดีที่สุด
และจะให้ง่ายไปกว่านั้น
จัดทำ และคัดเลือกแผนที่ครูเคยทำ ที่ดี มาใส่ sever รวมที่กระทรวง หรือร่วมกันคิดพัฒนาแผน ที่จะใช้เป็นหลักแล้วเอามากองรวมกันไว้ ช่วยกันใช้ช่วยกัน ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น เหมือน เว็บวิกีพีเดีย
การศึกษาไทย จึงจะขับเคลื่อนไปได้
ไม่ใช่ถอยหลังลงคลอง
ขอดูตัวอย่าง
1.การเขียนรายงาน CAR 1- CAR 4
2.แบบ วช.5
3.แบบ วช.7
ขอขอบพระคุณในความรุณา
ยิ่งพูด ก็ยิ่งถูก ของแท้ ต้องวิจัยทุกอย่าง
ขอบคุณมากมายค่ะ