บทที่
2
การบริหารเครือข่ายการจัดการความรู้
ในการดำเนินการพัฒนาเครือข่าย การจัดการความรู้
เพื่อให้เกิดการสร้างเครือข่าย, การขยายตัวและการบูรณะเครือข่ายการจัดการความรู้ที่เป็นไปตามวงจรชีวิตของเครือข่าย
จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการบริหารเครือข่าย การจัดการความรู้
โดยอาศัยเครื่องมือทางการบริหารโดยเฉพาะ
การวางแผน การจัดโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของสมาชิกเครือข่าย
การสื่อสาร การประสาน ความร่วมมือ
การจัดการความสัมพันธ์ของสมาชิก การจัดสรรงบประมาณ
ตลอดจนการติดตามประเมินผลเพื่อหาโอกาสพัฒนาปรับปรุงแผนงานกิจกรรมโครงการของเครือข่ายจัดการความรู้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งการดำเนินการเพื่อบริหารเครือข่าย
จะมีความคล้ายคลึงกับการบริหารโครงการทั่วไปเพียงบางส่วนเท่านั้น
ผู้เขียนได้ค้นพบปัจจัยที่แตกต่างระหว่างการบริหารเครือข่าย
จัดการความรู้ และ การบริหารโครงการ
ซึ่งในบทนี้จะได้นำเสนอความแตกต่างลักษณะการบริหารดังกล่าว
นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงลำดับขั้นตอนและวิธีการบริหารเครือข่ายจัดการความรู้รซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การพัฒนากิจกรรมเครือข่ายดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตลอดจนโครงสร้างทีมงาน บทบาท หน้าที่
ของสมาชิกทีมงานบริหารเครือข่ายสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1.1
ความแตกต่างระหว่างการบริหารจัดการเครือข่ายการจัดการความรู้และการบริหารโครงการ
จากมุมมองของผู้เขียนที่ได้มีประสบการณ์ในการบริหารโครงการ และการบริหารเครือข่ายจัดการความรู้มาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี ได้พบถึงความแตกต่างของการบริหารและการดำเนินงาน ระหว่างการบริหารจัดการเครือข่ายจัดการความรู้ และการบริหารโครงการ ดังจะนำเสนอตามตารางข้างล่างต่อไปนี้
ตารางที่ 2.1 แสดงปัจจัยที่แตกต่างระหว่างการบริหารเครือข่ายการจัดการความรู้และการบริหารโครงการปัจจัย |
การบริหารเครือข่ายจัดการความรู้ |
การบริหารโครงการ |
เป้าหมายโครงการ |
· มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน
ความไว้วางใจ · สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างสมาชิก · พัฒนาวิธีปฏิบัติที่เกิดจากการทำงาน · การให้ Empowerment แก่สมาชิก · เน้นย้ำการมีส่วนร่วมและความยืดหยุ่นของแผนงาน |
· มุ่งเน้นผลลัพธ์ความคุ้มค่าของเวลาต้นทุน
คุณภาพ · การมีส่วนร่วมและความร่วมยืดหยุ่นของสมาชิกและแผนงานมีน้อย · เน้นผลสำเร็จของงาน ซึ่งขาด การสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างสมาชิกในโครงการ |
วงจรชีวิตของ การพัฒนา |
||
· มีกำหนดเวลาเริ่มก่อตัวถึงระยะอิ่มตัวและเมื่อถึงวงจรชีวิตระยะอิ่มตัว
หากได้รับการกระตุ้นให้เกิดประเด็นร่วมที่เกิดขึ้นใหม่ด้วยความสนใจของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง
จะทำให้ขั้นตอนวงจรชีวิตในระยะถดถอยหายไป
เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่มีวันสิ้นสุด · ไม่มีจุดสิ้นสุดของเครือข่ายหากสมาชิกได้กำหนดประเด็นร่วมการพัฒนาต่อเนื่องโดยต่อยอดพัฒนาความรู้เดิมไปเรื่อย ๆ |
· กำหนดเวลาเริ่มต้นจนกระทั่งปิดโครงการ มีระยะเวลาที่แน่นอน
สามารถกำหนดได้ · มีจุดสิ้นสุดคือการปิดโครงการที่กำหนดชัดเจนเป็นไปตามวงจรชีวิตของโครงการ |
|
ด้านการวางแผน |
· การวางแผนที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
สามารถยืดหยุ่นเวลา และค่าใช้จ่ายได้ |
· การวางแผนที่ค่อนข้างเข้มงวด
เป็นไปตามเวลาและงบประมาณ |
ด้านการจัดโครงสร้างการดำเนินงานและบทบาทหน้าที่ทีมงาน |
· โครงสร้างที่หลวม ๆ
·
ไม่เน้นอำนาจเชิงโครงสร้าง· เน้นโครงสร้างความสัมพันธ์แห่งความไว้วางใจ และความร่วมมือของสมาชิก · การบริหารจัดการที่ไม่มีกรอบชัดเจน เน้นความต้องการและความพึงพอใจของสมาชิก |
· โครงสร้างที่ชัดเจน · เน้นย้ำอำนาจตามสายการบริหารงานของโครงการ · การบริหารจัดการที่มีกรอบ, กฎระเบียบที่ชัดเจน |
ด้านการติดต่อสื่อสาร |
· สมาชิกและทีมงานเครือข่ายมีการดำเนินการติดต่อสื่อสารและการประสานงานทั้งทางการและไม่เป็นทางการ
· จุดมุ่งหมายในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการสร้างกระบวนการเรียนรู้ และเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสมาชิก |
· เน้นการสื่อสารแบบเป็นทางการมากกว่าไม่เป็นทางการ · จุดมุ่งหมายในการสื่อสาร มุ่งเน้นเป้าหมายโครงการ ด้านความคุ้มค่า ต้นทุน และคุณภาพ |
ความร่วมมือและพันธะสัญญา |
·
สมาชิกเครือข่ายและทีมงานบริหารเครือข่าย
เกิดความร่วมมือด้วยความสมัครใจก่อให้เกิดพันธะสัญญาทางใจโดยความสมัครใจ |
· ความร่วมมืออาจจะโดยสมัครใจหรือไม่สมัครใจก็ได้ในทีมงานบริหารโครงการ |
จุดมุ่งหมายในการติดตามและประเมินผล |
· เน้นติดตามประเมินผลนำเอาสิ่งที่ได้ไปปรับปรุงการทำงาน
เพื่อหาโอกาสพัฒนางานในครั้งต่อไป
· สร้างบทเรียนรู้ในการพัฒนางาน |
· เน้นควบคุมและสั่งการเพื่อผลสำเร็จของโครงการโดยมีการกำหนดตัวชี้วัดที่มีการกำหนดการวัด อย่างชัดเจน |
ไม่มีความเห็น