วันนี้นักศึกษาเตรียมจัดงานไหว้ครูของปีการศึกษา 2551 และมีการมอบเครื่องหมายเลื่อนชั้นปี มอบหมวกพยาบาล มอบขีดหมวก ภาคกลางคืนมีงานรับตะเกียง ของชั้นปี 2 ซึ่งรุ่นพี่จะมอบให้เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตการฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยของชีวิตนักศึกษาพยาบาลที่นี่
แต่ปีนี้มีสิ่งที่ครูทนไม่ได้คือ นักศึกษาชั้นปี 2 เก็บเงินห้อง เพื่อเป็นค่าถ่ายรูปในงานนี้ คนละ 1,000 บาท และช่วงหลัง ๆมา มีนักศึกษาบอกให้ผู้ปกครองมาร่วมงานและอยู่ จนถึงงานภาคกลางคืน 4-5 ทุ่ม ซึ่งผู้ปกครองเป็นคนต่างจังหวัดส่วนมาก
งานไหว้ครู และพิธีรับตะเกียงกลางคืน เดิมเคยเป็นงานภายในของวิทยาลัยฯ และนักศึกษารุ่นพี่รุ่นน้องเท่านั้น ไม่เข้าใจว่าทำไม นักศึกษาจึงคิดถึงตัวเองมากมาย ให้ผู้ปกครองเดินทางมาจากต่างจังหวัด และให้ความสำคัญของงานนี้มากเกินไป ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้จบการศึกษา (ไม่ใช่งานรับปริญญา)
ช่วงกลางวัน วันนี้มีช่างจากร้านถ่ายรูปมาตั้ง stand เพื่อจัดเตรียมสถานที่ถ่ายรูปหน้าเสาธง เป็นภาพหมู่ทั้งชั้นปี ( ที่เก็บไปคนละ 1,000 บาท ) นักศึกษาจัดกันเอง อาจารย์ประจำชั้นไม่ได้รับรู้ด้วยและ น่าจะมีนักศึกษาบางส่วนมีปัญหาเรื่องเงินจำนวนนี้
อยากเตือนคนที่เป็นนักศึกษาอยู่ว่า เศรษฐกิจระยะนี้ไม่ดี พ่อแม่ทำงานหาเงินมาด้วยความยากลำบาก เหตุใดจึงต้องมาใช้จ่ายแบบนี้ เพื่อชื่นชมตนเอง เพื่อความสวยงาม เคยคิดหรือไม่ว่าความพอดีอยู่ตรงไหน ?
และพรุ่งนี้ครูจะต้องเห็น นักศึกษาจ้างช่างมาแต่งหน้า & เสียเงินซื้อของขวัญของชำร่วยให้กัน รายได้จะตกสู่แม่ค้าของขวัญ แต่นักศึกษาเคยคิดถึงคนที่หาเงินให้ตัวเองใช้บ้างไหม
อยากให้พิจารณาว่าอะไรจำเป็น อะไรตัดทิ้งไปได้ จำเป็นไหมที่ต้องตามอย่างหมู่คณะ ไปทุกเรื่อง.... อยากให้ใช้ คุณลักษณะ Assertive คัดค้านเพื่อนบ้าง ในกรณีที่นำไปทางไม่เหมาะสม น่าจะช่วยกันดึงไปในจุดที่เหมาะสม
อยากให้เห็นคุณค่าของการตั้งใจเรียน ตั้งใจฝึกงาน มากกว่าตั้งใจรับหมวก รับขีดหมวก กว่านี้
เห็นด้วยกับคุณจิดาเกี่ยวกับการประเมินตนเองและรู้จักความพอดีของตนเองของ
นักศึกษา นักศึกษาควรฝึกความพอดีตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะได้เป้น
ผู้ใหญ่ที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่สุรุ่ยสุร่าย เป็นหนี้เป็นสิน ใช้เงินตามฐานะของตน
ประเทศชาติจะได้ประชาชนที่มีคุณภาพ
สวัสดีครับ
ก็จิต ไม่ใช่ของเรา ดังนั้นจึงควบคุมเขาไม่ได้
และก็เช่นเดียวกับร่างกายนั่นแหละ สุดแล้วแต่ธรรมชาติเขา(ตามเหตุ ปัจจัย)
กังวล เครียด ก็รู้เขาไป ทั้งใจ ทั้งร่างกาย เขาเป็นได้ เขาก็หายได้เองเมื่อหมดเหตุปัจจัยของเขา
สวัสดีค่ะ
* บันทึกนี้เยี่ยมค่ะ..เห็นด้วยเป็นที่สุด.
* ทุกโรงเรียนเดี๋ยวนี้ก็มีค่านิยมแบบนี้แทบทั้งนั้นค่ะ
* โรงเรียนอนุบาล..จบชั้นอนุบาลมีการรับใบประกาศและสวมหมวกรับปริญญา...
* ขอบคุณมากค่ะ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ แสดงว่าเป็นกันทั้งประเทศ
แล้ววันนี้ก็เป็นจริงอย่างที่คาด รถผู้ปกครองมาเต็มวิทยาลัยฯ
ร้านขายดอกไม้ ของขวัญ หน้าประตูคึกคัก
ทราบว่าค่าบริการเกี่ยวกับรูปถ่ายทั้งหมด 300,000 บาท รู้สึกเสียดายเงินจัง
มีนศ.มาให้ติดขีดหมวกให้ จึงได้เตือนให้บอกรุ่นน้อง ว่าควรพิจารณาดู ว่าความพอเหมาะ อยู่ตรงไหน ........แต่ก็ไม่รู้นศ.จะคิดตามหรือเปล่า
งานไหว้ครู กลายเป็นงานถ่ายรูป แจกของขวัญ
การทำพาน เพียงเพื่อประกวดเอาชนะ ไม่ได้เกิดจากใจ ไม่ได้ concept ของความเคารพ/กตัญญู
ปล. นศ.อิสลามเข้ามารับหมวกพยาบาลและ เข้ามาร้องเพลงให้ครูได้ แต่ไม่เข้ามาในหอประชุมในช่วงกล่าวปาเจรา จริยา......... ซึ่ง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า "ขอแสดงกิริยาเคารพครูผู้มีพระคุณที่ได้อบรมสั่งสอน" ผิดตรงไหน
ตามแต่กระแส หรือจารีต(ไถ) ของแต่ละสถาบันครับ
หากทางรากเหง้า ก็คือ อ.ประจำคณะหรือรุ่นพี่ที่ได้รับรู้ถึงการเป็นผู้ปกครองแล้ว
หลายๆ อย่างคงแก้ปัญหานี้กันไม่ยาก