ตื่นเถิดเยาวชนไทย


ถอดถอนอวิชา สู่ความรู้จริง
หากทำการศึกษาเรื่อง brainbase lerning เราจะพบว่าก่อนที่หน้าต่างแห่งโอกาสจะปิด(windows of opportunity) สมองมนุษย์นั้นสามารถพัฒนาได้ในทุกๆด้าน

การเลือกที่จะพัฒนาแต่ความจำระยะสั้นจากโรงเรียนกวดวิชาหรือการเรียนพิเศษ
 
เพียงเพื่อ "จำเพื่อสอบและลืมมันเมื่อผ่าน"
สะมองก็จะไม่พัฒนากิ่งก้านจุดเชื่อมโยงของเส้นใยประสาท(synapse network)ในศักยภาพความเป็นมนุษย์ด้านอื่นๆ
 
เช่น
การพูดต่อที่สาธารณะ ด้านภาษา
การคิดวิเคราะห์ การคิดเป็นระบบ
การเป็นผู้นำ การเข้าสังคม
ความสามารถด้านดนตรี ศิลปะ สุนทรียะ
ความสามารถด้านกิฬา กล้ามเนื้อ
การควบคุมอารมณ์
ฯลฯ
 
ในทางตรงกันข้ามหากเลือกที่จะพัฒนาเส้นใยสมองไปในด้านที่ไม่ดี โดยใช้มันสมองส่วนสัญชาตญาณเป็นหลัก
เช่น ก้าวร้าวต่อยตี มั่วเพศ ติดยาเสพติด ติดเกมส์ ซิ่งรถ ตั้งแต่ในวัยเรียน เส้นใยสมองก็จะพัฒนาด้าน นั้นๆ ชนิดที่ทำให้เลิกยากและติดตัวไปตลอดชีวิต
 
มีเพียงวิธีเดียว ที่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งนั่นคือการปฏิบัติธรรม เช่นกรณีขององค์คุลีมารเป็นต้น      
 
เมือไม่ได้ใช้ศักยภาพความเป็นมนุษย์ด้านอื่นๆ ข่ายใยประสาทที่มีอยู่ก็จะถูกทำลายลงจากกระบวนการทำลายทิ้ง (pruning)ของสมอง

เช่นเดียวกับระบบการศึกษาไทย..
 
 
เรากำลังเดินหน้าเข้าสู่หายนะ!!

การมุ่งพัฒนาความจำระยะสั้นจากโรงเรียนกวดวิชาเพื่อการสอบแข่งขันเพียงอย่างเดียวเป็นการปิดกั้นการพัฒนาศักยภาพของสมองด้านอื่นๆ และหน้าต่างแห่งโอกาสนี้จะปิดลงเมื่อก้าวเข้าสู่วัยรั้วมหาวิทยาลัย
 
โรงเรียนในปัจจุบันจึงเป็นเพียงโรงฝึกสัตว์เศรษฐกิจเข้าสู่ลู่วิ่ง และป้อนระบบทุนนิยมเท่านั้น โดยมีพวกหากินจากการเปิดโรงเรียนกวดวิชาเป็นตัวเร่งกิริยา
 
มีค่านิยมที่ถูกฝังหัวของผู้ปกครองและระบบการแข่งขันของสังคมเป็นแรงหนุน วัฎจักรแห่งความเสื่อมจึงหมุนสืบไป รอวันถึงจุดวิกฤติและทำลายล้างตัวเอง
 
หากใครเริ่มก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัย และหันมามองตัวเองด้วยใจที่เป็นกลาง จะเห็นว่าเราจะเริ่มไม่กล้าคิดกล้าสร้างสรรค์ และกำลังตกอยู่ในบ่วงของการแข่งขัน อ้าปากรอรับวิชาและอวิชาจากผู้สอน มีความแข็งทื่อเหมือนเครื่องจักรที่รอรับคำสั่ง เพื่อก้าวไปสู่ทาสของระบบเศรษฐกิจที่ต้องวิ่งไล่งับเหยื่ออันโอชะ

การศึกษาที่ไม่ได้ปลูกฝังความเป็นมนุษย์ ความรักชาติ ศาสนา และรากเหง้าของความเป็นไทย จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเราจึงเห็นนักการเมือง นักธุรกิจ และผู้คนที่เก่ง แต่โกงกินและทำลายชาติบ้านเมือง
 
ตื่นเถิดเยาวชน
 
อย่าให้ระบบการศึกษาแบบมิจฉาทิฐิแบบนี้ครอบงำอีกต่อไป หากเรียนไปเพื่อเก่งแต่ไม่ดี สังคมและอนาคตข้างหน้าของชาติจะลำบาก 
 
มนุษย์สามารถมีความสามารถเป็นเลิศได้ในทุกๆด้านหากได้รับการเรียนรู้ที่ถูกต้องและมีสัมมาทิฐิ
 
ขอให้เดินตามแบบอย่างของพ่อหลวงของเราที่ทรงเป็น Master of Intelligence ทรงมีพระราชอัจฉริยภาพในทุกๆด้าน พระราชอัจฉริยภาพแห่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะ ทั้งในด้านดนตรี จิตรกรรม งานช่าง (จิตกรรม ประติมากรรม หัตถกรรมสถาปัตยกรรม) กีฬา งานถ่ายภาพ พระราชนิพนธ์ ตลอดจนด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและญาณสมาธิ  

--------------------------------------------

บทความที่เกี่ยวเนื่อง

โรงเรียนเป็นเพียงโรงฝึกสัตว์เศรษฐกิจให้เข้าลู่วิ่ง

http://gotoknow.org/blog/moralproject/95508

http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9480000075022 

หมายเลขบันทึก: 191262เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2008 22:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เรื่องการพัฒนาสมองในส่วนที่ดีงามในมนุษย์นี้.. คือ... ความตั้งใจที่ปรารถนาร่วมทำ... แม้บางครั้งพบอุปสรรคต่อเส้นทางการเดินทางแต่ไม่เคยย่อท้อ เพราะเชื่อในคำสอนของพระพุทธองค์อย่างไม่ลังเลสงสัยในอะไรอีกแล้ว

ขอบพระคุณนะคะสำหรับบันทึกนี้

(^____^)

ขอบคุณครับคุณ Ka-Poom ที่เป็นดั่งกัลยาณธรรม

"หากเพียงคนละหนึ่งแรง ที่พร้อมเริ่มด้วยช่วยกัน วันหน้าที่ฝันนั้น ก็คงไม่ไกลเกินจริง"

ขออนุญาตนำบทแลกเปลี่ยนกันนี้ไปแปะไว้ที่บันทึกของตัวนะคะ

(^_____^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท