ซมเดือน
ยามกางคืนเดือนแจ้ง เฮืองแสงใสส่อง
ตาล่ำมองเบิ่งฟ้า ขาวแจ้งทั่วไป
เดือนหากใสคืแก้ว แววมะนีเฮืองฮุ่ง
พุ่งแสงนวนสู่พื้น ให้เห็นแจ้งทั่วแผ่นดิน
เด็กพากันมาหลิ้น ซมจันย่างม่วนซื่น
พากันยืนแอบฟ้อน วอนโอ้โอ่ยลำ
เหลียวล่ำไปตามบ้าน จำปาบานเฮืองเฮื่อ
ยามเมื่อลมพัดต้อง หอมกุ้มใส่ดัง แท้นา.
ยามกลางคืนเดือนแจ้ง เรืองแสงใสส่อง
ตาร่ำมองเบิ่งฟ้า ขาวแจ้งทั่วไป
เดือนหากใสคือแก้ว แววมณีเรืองรุ่ง
พุ่งแสงนวลสู่พื้น ให้เห็นแจ้งทั่วแผ่นดิน
เด็กพากันมาเล่น ชมจันทร์ย่างม่วนชื่น
พากันยืนแอบฟ้อน วอนโอ้โอ่ยลำ
เหลียวร่ำไปตามบ้าน จำปาบานเรืองเรื่อ
ยามเมื่อลมพัดต้อง หอมฟุ้งใส่จมูก แท้นา.
นานๆ ทีไฟฟ้าที่หมู่บ้านเขตอีสานจะดับแบบไม่มีฝนฟ้าคะนอง คือดับไปเฉย ๆ ความมืดมิดสนิทคงทำให้ผู้คนโกลาหลพอสมควร แต่คนที่อยู่ในวัยกลางคนขึ้นมาสักหน่อย คงต้องหวนรำลึกถึงบรรยากาศ สมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าเข้าหมู่บ้านมีแต่แสงตะเกียงน้ำม้นก๊าดวอมแวม ถ้าเป็นสมัยเมื่อนานไปกว่านั้นก็คงเป็นแสงจากขี้กะบอง(ขี้ไต้)
บรรยากาศอย่างนี้แหละครับที่เด็ก ๆ ชาวบ้านอีสานจะลงเล่นชมแสงจันทร์ มีการเล่นพื้นเมืองเล่นหมากจ้ำหมู่หมี่ เล่นหมากลี้กัน (ซ่อนหา) เล่นหมากนั้น หมากนี้ (หมาก พอแปลได้ตรงกับคำว่า เกมส์นั้น เกมส์นี้...) ส่วนผู้ใหญ่ก็จะพากันมารวมตัวกันลงข่วง(ข่วง หมายถึงบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่ชาวบ้านชอบมาทำงานกลางคืนร่วมกัน) คือนำงานเช่น การเข็นฝ้าย (ปั่นฝ้ายด้วยมือ) เป็นต้น มาทำงานร่วมกัน จนดึกดื่นอากาศตามหมู่บ้านคลายร้อนแล้วจึงพากันเข้าบ้านนอน
บทกวีลาว “ซมเดือน” นี้ ผมอ่านพบในแบบเฮียนพาสาลาว ป. 2 (หน้า 68) ได้บรรยากาศซึ่งแทบจะไม่มีอีกแล้วในชนบทอีสาน เพราะทุกบ้านมีไฟฟ้ามีสิ่งบันเทิงจากจอโทรทัศน์ ตามถนนในหมู่บ้านมีไฟสาธารณะ เหล่านี้ทำให้วิถีชีวิตผู้คนหาโอกาสมาเพลิดเพลินดื่มด่ำกับแสงจันทร์ยามค่ำคืนได้น้อยมาก
ศัพท์ที่ควรรู้จัก บทกวีบทนี้ศัพท์ไม่ยาก แต่มีที่ควรเข้าใจเพิ่มคือ
1. หลิ้น แปลว่า เล่น
2. วอน จากบทที่ว่า “วอนโอ้โอ่ยลำ” อาจมีการเข้าใจว่ามาจากคำว่า เว้าวอน ดูจะไม่ตรงครับ แต่น่าจะหมายถึง คำวิเศษณ์ที่แสดงถึงเสียงร้องที่เอื้อนยาวโหยหวน คนอีสาน/ลาว จะเรียกเสียงแบบนี้ว่า เสียงวอนวอน เช่น เสียงทำนองหมอลำขึ้นบทลำทางยาว ทำนองเอื้อนยาวร้องหาฟ้าฝน “โอ่ แล้วผัดโอย...โอ๊ย..ฟ้าเอยฟ้าฮ้องล่าย.......” ในบรรยากาศตามบทกวีนี้ก็คือ เสียงร้องหมอลำทางยาว “วอนโอ้โอ่ยลำ” ของใครสักคนที่ลงมาเล่น “ซมเดือน” นั่นเอง
3. หอมกุ้ม กุ้มแปลว่า ฟุ้งตรลบอบอวล ใช้กับขี้ฝุ่น หรือกลิ่นต่าง ๆ ได้
4. ใส่ดัง ดังแปลว่าจมูก
หมายเหตุ ผมติดภารกิจบางอย่างไม่ได้เขียนบล็อกมาระยะหนึ่ง ตอนนี้ก็พอมีโอกาสขึ้น ขออภัยและขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
สวัสดีครับครู
ไม่ได้พบปะพาทีกันในบล็อคนานเอาการนะครับ
อ่านบทกวีของครูได้บรรยากาศมาก
เพราะตอนนี้อยู่หงสา ไชยบุรี ครับ
คิดถึงครับผม
สวัสดีค่ะ
ชอบมากๆเลยค่ะ
เป็นเด็กอีสานคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสเล่น "หมากลี้" กลางแสงจันทร์ และไปนอนหนุนตักคนโน้นคนนี้ฟังผู้ใหญ่โสกันที่ลานบ้าน แต่ความทรงจำนั้นแทบจะลืมเลือนไปแล้ว เพราะโตขึ้นมาอีกนิดจะจำได้เพียงละครหลังข่าว ไม่มีเพื่อนวิ่งเล่นแล้ว ผู้ใหญ่ก็ไม่ออกมาแล้วค่ะ
ขออนุญาตติดตามอ่านบันทึกนะคะ
สวัสดีค่ะ ครู
สวัสดีครับอ.กวิน ครับ
ขอบคุณที่กลับมาก็พบท่านเยี่ยมเลย
ติดตามบทกวีดีๆ ความรู้ดี ๆ เพลงเพราะ ๆ จากบันทึกท่านเสมอครับ
สวัสดีครับอ. 2. paleeyon ครับ
คิดถึงท่านเช่นกันครับ อยากไปอยู่ท่ามกลางอ้ายน้องเมืองหงสาอย่างท่านบ้างคงเยี่ยมมากนะครับ
สวัสดีครับคุณน้อง 3. นฤมล ครับ
ดีใจที่ได้รู้จักน้องชาวขอนแก่นเหมือนกัน บรรยากาศการเล่น "หมากลี้" กลางแสงจันทร์ และไปนอนหนุนตักคนโน้นคนนี้ฟังผู้ใหญ่โสกันที่ลานบ้าน.. ก็น่าอิจฉามาก แม้จะนานมาแล้วนะครับ
ขอบคุณและขอให้น้องเดินทางให้ครบ 4 ภาคในไม่ช้าครับ
สวัสดีครับ4. pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ] ครับ
กลับมาบันทึกได้ป้าแดงแวะเยี่ยม ดีใจ ขอบคุณครับผม
นึกถึงสมัยเก่าที่บ้านเกิดมากครับอาจารย์
สวัสดีครับคุณแสนใจครับ
เดี๋ยวนี้ถ้าอยากชมดาวชมเดือนแบบบ้านเราโบราณ ต้องไปนอนนาครับ ปลูกบ้าน ปลูกเถียงนาดี ๆ และไม่ต้องต่อไฟฟ้า ผมอิจฉาบ้านในนาของชาวบ้านเราส่วนหนึ่งมากครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับอาจารย์wwibul ครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ ผมติดตามข้อเขียนท่านตลอดมาครับ
ขออภัยที่เข้ามาตอบช้าไปครับ
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ 14. wwibul ครับ
ผมขอขอบคุณท่านมากที่ส่งรูปพระจันทร์อันทอแสงสวยงาม และพระจันทร์รูปบนที่น่าลึกลับชวนพิศวงได้อารมณ์ดีแท้ครับ
สวัสดีค่ะ ครูชาแวะมาเยี่ยมค่ะ
สวัสดีครับคุณ 16. berger0123 ครับ
ขอบคุณมากที่แวะเยี่ยมครับ