แนวทางสำหรับคุณครูในการช่วยเหลือเด็กออทิสติกและเด็กที่มีความบกพร่องด้านการเรียน
1. คุณครูผู้สอนต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของโรคและศักยภาพของเด็ก ว่าเด็กมีความสามารถในการเรียนรู้ในระดับไหน และมีความสามารถ/ความสนใจในเรื่องใดเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้นำสิ่งดังกล่าวมาปรับให้เหมาะสมกับการเรียนของเด็ก
2. มองที่ความสามารถและศักยภาพของเด็กมากกว่ามองปัญหาที่เด็กเป็น เพื่อที่คุณครูจะได้นำจุดเด่นมาเสริมสร้างและพัฒนาจุดด้อย/จุดอ่อนของเด็ก
3. จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงสว่างเพียงพอ ไม่มีสิ่งเร้ารบกวน
4. มีการตั้งกฎ กติกา ของห้องเรียนให้มีความชัดเจน และให้เด็กมีส่วนร่วมในการดูแลห้องเรียนร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของห้อง ไม่ใช่แยกเด็กหรือให้อภิสิทธิ์พิเศษ
5. มีการจัดเพื่อนคู่คิด เพื่อช่วยดูแลและให้ความช่วยเหลือในการเรียนของเด็ก โดยที่คุณครูอาจจะจัดเพื่อนเวียนกันมาเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับเด็ก
6. จัดสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะกับรูปแบบในการเรียนรู้ของเด็ก เพื่อให้เด็กพัฒนาได้เต็มศักยภาพ
7. มีการลดขั้นตอน/แจกแจงขั้นตอนของกิจกรรมที่ทำ/เนื้อหาที่เรียน เพื่อให้เด็กเรียนรู้ได้ง่ายขึ้นและประสบความสำเร็จในการเรียน/ทำกิจกรรม
8. จัดทำสื่อการเรียนการสอนที่มีความน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจและให้เด็กเกิดความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนเพิ่มขึ้น ด้วยการจัดสื่อแบบผสมผสาน เช่น สื่อการเรียนการสอนที่มีรูปภาพประกอบคำบรรยาย การวาดแผนผังสรุปเนื้อหาที่เรียน เป็นต้น
9. ให้โอกาสเด็กได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆในห้องเรียนและร่วมทำกิจกรรมของโรงเรียนตามศักยภาพที่เด็กมี เพื่อให้เด็กได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆและคุณครูในโรงเรียนและที่สำคัญทำให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
10. อย่ามองแต่ผลสำเร็จของงานที่มีความสวยงามและถูกต้อง แต่ให้ชมที่ความพยายามในการทำกิจกรรมต่างๆของเด็ก เพื่อให้เด็กมีกำลังใจที่จะพัฒนาและเรียนรู้ต่อไป
11. อย่าพูดตำหนิ ต่อว่า หรือเปรียบเทียบเด็กกับเพื่อนร่วมห้อง เพราะแต่ละคนมีศักยภาพในการเรียนรู้แตกต่างกัน (คุณว่าลูกศิษย์ของคุณไว้ยังไง ลูกศิษย์ของคุณก็จะเป็นแบบที่คุณว่า)
12. หากคุณครูเหนื่อย ไม่ไหว ให้หาคุณครูผู้ช่วย อย่าฝืน เพราะไม่งั้นจะเกิดผลเสียตามมาทั้งต่อตัวคุณครูและตัวเด็ก
ไม่มีความเห็น