ส่องสิิถิติโลกของ Firefox 3 มีอะไรซ่อนอยู่

ในที่สุด Mozilla Firefox ก็สามารถสร้างสถิติโลกได้สำเร็จ โดยทางเว็บไซต์ www.spreadfirefox.com แถลงว่ามีผู้ดาวน์โหลดมากกว่า 8 ล้านคนใน 24 ชั่วโมง

นอกจากการสามารถทำลายสถิติโลกจะประสบความสำเร็จในด้านการตลาด และทำให้จำนวนผู้ใช้ Firefox มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด มีตัวเลขบางอย่างที่น่าสนใจภายใต้สถิตินั้น

 

จากแผนที่การดาวน์โหลดที่แสดงบนเว็บไซต์ www.spreadfirefox.com แสดงให้เห็นเด่นชัดระหว่างประเทศที่มีประชากรเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสูงที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเจริญทางเศษฐกิจหรือประเทศที่พัฒนาแล้ว กับประเทศกำลังพัฒนาซึ่งจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่ำกว่า

สถิติดังกล่าวยังแสดงการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตื่นตัวเรื่องการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ต ของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอิหร่านซึ่งสร้างสถิติที่น่าสนใจที่จำนวนดาวน์โหลดเกือบ 200,000 คนใน 24 ชั่วโมงมากว่าจีนเกือบแสนและอินเดียอีกเท่าตัว ซึ่งทำให้เรารู้ว่าอิหร่านเป็นประเทศที่สนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศได้ดีประเทศหนึ่งทีเดียว

ส่วนในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศที่ครองแชมป์คือ เวียดนามด้วยสถิติดาวน์โหลดไปเกือบ 30,000 คน ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่ต้องจับตามองในเรื่องการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในภูมิภาคนี้เป็นพิเศษโดยเฉพาะเรื่องโอเพ่นซอร์ต ส่วนที่รองลงมาคือฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงค์โปร์ ไทย และิอินโดนีเซียตามลำดับ ส่วนประเทศที่ถูกทิ้งห่างอย่างน่าเป็นห่วงก็คือ ลาว กัมพูชา และ พม่า ซึ่งมีสถิติการดาวน์โหลดไม่ถึง 500 คนใน 24 ชั่วโมง แต่ยังมีตัวเลขที่น่าสนใจในพม่าหากเปรีบเทียบกับ ลาวและกัมพูชา ก็คือถึงพม่าจะยอมให้มีการใช้อินเทอร์เน็ตหลังสองประเทศนี้ แต่สามารถทำสถิติการดาวน์โหลดมากกว่ากัมพูชา และ ลาวถึงเท่าตัว ซึ่วทำให้น่าแปลกใจโดยเฉพาะการที่พม่าควบคุมการใช้อินเทอ์เน็ตอย่างเข้มงวด ซึ่งทางผู้เขียนวิเคราะห์ว่าปัจจัยทางด้านความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลภาษาอังกฤษ อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กำหนดจำนวนยอดการดาวน์โหลดเพื่อสร้างสถิติโลกในครั้งนี้

นอกจากที่กล่าวมาปัจจัยที่กำหนดจำนวนการดาวน์โหลดอีกข้อหนึ่งคือคุณภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ว่ามีความเร็วที่สุงพอหรือไม่ เพราะบางประเทศอาจนิยมใช้วิธี copy ให้กันทางทรัมไดรว์ หรือ CD

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ได้สะท้อนเรื่องของความสามารถและการเข้าถึงเทคโนโลยีและความรู้ได้ทั้งหมด และไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดความเจริญของประเทศนั้นอย่างเป็นทางการก็ตามแต่ก็สามารถบอกเราคร่าว ๆ ว่า ณ ปัจจุบันปัญหาช่องว่างทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital divide) ยังเป็นคงมีอยู่ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ถึงส่วนของโลกเข้าถึงสังคมข้อมูลข่าวสารได้อย่างเท่าเทียม

ไกลก้อง ไวทยการ
http://www.ict.or.th

ที่มาของข้อมูล
- www.spreadfirefox.com
- www.blognone.com
- http://news.bbc.co.uk/2/hi/technology/7462900.stm