วิธีการผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน
วันนี้ได้รับบทเป็นคุณลิขิตทราบมาว่าต้องจับใจความสำคัญให้ได้ เขียนเล่าเรื่องราว ดึงขุมความรู้ออกมา และหาแก่นของความรู้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เริ่มจากคุณเอื้อเป็นผู้กำหนดหัวปลาตามด้วยคุณอำนวยดำเนินการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากคุณกิจดังนี้
พี่หนู: หัวหน้างานห้องสมุดเล่าถึงที่มาของความเครียดจากงานที่ได้รับมอบหมายซึ่งมีมากและบางงานเร่งด่วน ได้ใช้วิธีการลำดับความสำคัญของแต่ละงานแล้วกระจายงานไปยังลูกน้องตามความถนัดของแต่ละคน นอกจากนี้ยังใช้วิธีการดูหนังสืออ่านเล่น ดูรูปภาพในวารสารที่ชอบเป็นการผ่อนคลายไปด้วย
หาญ: พยาบาลที่มีความเครียดจากงานที่ต้องนำเสนอผลการพัฒนาคุณภาพซึ่งต้องนำเสนอทุกวันศุกร์แต่มักจะไม่ว่าง ได้ใช้วิธีการวางแผนเตรียมการนำเสนอล่วงหน้าและพยายามผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจด้วยการวิ่งออกกำลังกาย อาบน้ำให้สดชื่น นอนพักให้เต็มที่แล้วจึงเตรียมงาน งานที่เตรียมเสร็จจะฝากให้ธุรการนำเข้าที่ประชุมซึ่งการใช้วิธีที่กล่าวมานี้ทำให้งานที่นำเสนอมักจะไม่มีปัญหา
พี่ตา: พยาบาลหัวหน้างานพัฒนาคุณภาพเกิดความเครียดจากการตามงานตรวจเยี่ยมหน่วยงาน กังวลว่าจะไม่ได้รับความร่วมมือ ใช้วิธีการให้กำลังใจแก่ตัวเองเพื่อลดความกังวลว่าทุกคนต้องการทำเพื่อคณะและคงจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังใช้วิธีการเดินไปตามที่ต่าง ๆ ในหน่วยงานและดื่มกาแฟสัก 1 แก้วซึ่งจะช่วยลดความเครียดได้
พี่ใหญ่: นักวิชาการงานพัฒนาคุณภาพเกิดความเครียดจากงานที่ทำอยู่ทุกวัน วิธีการต้องจัดการงานให้เสร็จสิ้นภายในเวลา หลัง 4 โมงเย็นจะเป็นเวลาส่วนตัวซึ่งการใช้วิธีนี้ขึ้นอยู่กับการมอบหมายงานจากหัวหน้าด้วย ถ้ามอบหมายงานให้สามารถวางแผนงานล่วงหน้าได้ก็จะใช้วิธีนี้ได้ แต่งานส่วนใหญ่จะเร่งด่วน วางแผนงานล่วงหน้าไม่ได้ก็จะใช้วิธี "ปลง" ปล่อยวางและคิดว่าดี-เลวเป็นของมันอยู่แล้ว
เตี้ย: ความเครียดเกิดจากการประชุมที่ผลการประชุมไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นหรือไม่เห็นด้วย ต้องยอมทำตามกลุ่มไปก่อนแล้วค่อย ๆ แก้ไขภายหลัง เมื่อความเครียดเกิดขึ้นจะใช้วิธีเดินเพื่อเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม ตนเองมักเดินเข้าห้องน้ำ หลังเลิกงานจะเข้ากลุ่มกับเพื่อนเล่นเปตองทำให้เกิดมุมมองใหม่ กลับมายอมรับข้อตกลงจากการประชุมได้ มีตัวอย่างการประชุมมีคำสั่งให้เขียนอุบัติการณ์ 10 เรื่องต่อวันต่อคน ยอมทำไปก่อนเท่าที่ทำได้แล้วหาทางคุยกับหัวหน้าซึ่งอาจเป็นเพื่อนร่วมงานไปคุยก็ทำให้มีการทบทวนคำสั่งเกิดขึ้น
แก้ม: ความเครียดเกิดขึ้นเมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกันจะใช้วิธีเงียบ และหลังเลิกงานก็จะไปออกกำลังกายและใช้วิธีการคิดแง่บวก มองธรรมชาติเขียว ๆ เช่น ทุ่งนา ต้นไม้ เป็นต้น
จิ: พยาบาลในตำแหน่ง Incharge เครียดกับงานบนหอผู้ป่วยที่มีคนไข้ Admit ใหม่จำนวนมากและญาติที่มาติดต่อหลายราย ใช้วิธีการแจกจ่ายงานเพื่อให้ตนเองว่างจนมีเวลาตรวจสอบงานและตั้งสติทบทวนตนเองเพื่อผ่อนคลายความเครียด ที่ตนใช้คือการสวดมนต์ ความเครี่ยดก็จะลดลงพร้อม ๆ กับงานที่เสร็จไปตามลำดับ
หน่อง: วิสัญญีแพทย์เครียดจากการดมยาเด็กจนเกิดอาการปวดท้อง รู้เท่าทันว่าเกิดจากความเครียดจึงหาวิธีการผ่อนคลายความเครียดด้วยการหาผู้ช่วยซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ด้วยกันมาอยู่เป็นเพื่อนในกรณีที่ต้องดมยาผู้ป่วยเด็ก ด้วยวิธีการนี้ทำให้ไม่ปวดท้องอีกเลย
สรุป Key Success Factors ของกลุ่มวันนี้ได้แก่
1. การกระจายงาน
2. การวางแผนงานล่วงหน้า
3. ตั้งสติทบทวนตนเอง รู้ตนเองว่ากำลังเครียด
4. เปลี่ยนสภาพแวดล้อมในขณะที่เครียด
5. ทำกิจกรรมอื่น ได้แก่ การพูดคุยกับเพื่อน การออกกำลังกาย ดื่มกาแฟ ดูหนังสือที่ชอบ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามวันนี้ก็ยังเกิดความสับสนในหัวปลาตรงประเด็นการผ่อนคลายความเครียด ไม่ใช่การป้องกันหรือรักษาให้ความเครียดหายไปอย่างถาวร
สุดท้ายขอขอบคุณอ.วุฒิชัยที่กรุณาให้คำแนะนำ กลุ่ม km9กระโดด จะนำไปปรับปรุงเพื่อให้เกิดการพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไป และต้องขอขอบคุณทีมงานที่ดูแลในเรื่องอาหารและช่วยอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี
ความเห็น (1)
เพิ่มให้อีกข้อหนี่ง จับกลุ่มเม้าท์นายและเพื่อนร่วมงาน คลายเครียดได้ชะงักนัก