24 เมษายน 2551 วันนี้เป็นวันที่ทีมงานของฉันนัดมาพูดคุยกันเพื่อร่วมกันทำกิจกรรมตามที่มีน้องๆมาเสนอฉันให้จัดขึ้น หลังจากฉันนำน้อง 4 คนไปเข้าฝึกอบรมหลักสูตรการเป็น facilitator ที่ใช้กลวิธีการถอดบทเรียนรู้ในตัวคนออกมาใช้
กิจกรรมในหลักสูตรที่เราจัดกันขึ้น ดำเนินการเป็นเวลา 2 วัน ทั้ง 2 วันนี้ ฉันได้ขออนุญาตเจ้านายขอให้น้องวางมือจากงานประจำมาเข้าร่วมครบทุกคน ขาดไปแค่คนเดียวที่ให้ออกนอกพื้นที่ไปรับการอบรมเกี่ยวกับงานแม่และเด็ก นอกจากคนในกลุ่มงานเราเอง ฉันยังไปชักชวนให้น้องๆจากหน่วยอื่นมาร่วมด้วย เป็นข้าราชการ 2 คน คนหนึ่งเป็นลูกหม้อ อีกคนหนึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานไม่ถึง 5 ปี เป็นลูกจ้าง 2 คน คนหนึ่งเป็นลูกหม้อ และอีกคนเพิ่งได้เข้ามาทำงานได้แค่ 1 เดือนและกำลังตั้งครรภ์
หลักสูตรจะมี 3 กิจกรรมหลักในวันแรก และ 2 กิจกรรมในวันที่ 2 3 กิจกรรมของวันแรกเป็นเรื่องการให้ย้อนไปเป็นเจ้าตัวเล็ก ตั้งแต่เริ่มจำเริญวัย ไปจนถึงเวลาก่อนทำงาน ให้เล่าสู่กันฟัง 2 คน ผลัดกันเล่าไปมา โดยคนหนึ่งฟัง คนหนึ่งเล่า มีคนพูดเล่าแค่คนเดียว ผู้ฟังให้ฟังนิ่งๆ หลังจากฟังกันไปมาจบเรื่องราวแล้ว ก็ให้ตั้งวง ผลัดกันเล่าให้ฟังในวงใหญ่ว่าได้ฟังเรื่องเล่าของคู่ตนแล้ว ชื่นชมเรื่องดีๆอะไรบ้างจากเรื่องที่คู่ของตนได้เล่าให้ฟัง หลังจากนั้นให้แต่ละคู่ไปขอบคุณกันและกัน จบกิจกรรมรอบแรกไป ต่อกิจกรรมรอบสอง ด้วยการให้เล่าสิ่งที่ประทับใจของตนเมื่อเข้ามาทำงานในร.พ.แห่งนี้ และจบลงด้วยกิจกรรมวิเคราะห์นิสัยตนกับการเป็นสัตว์สี่ทิศ แล้วก็ให้ทุกคนช่วยกันบอกความคาดหวังจากการมาร่วมกิจกรรมและให้ทำ AAR ว่าเมื่อได้ร่วมกิจกรรมมาแล้ว 1 วันรู้สึกอย่างไร ซึ่งการทำกิจกรรมนี้ทีมวิทยากรของฉันตกลงกันว่าให้ทุกคนเขียนข้อความในใจลงในกระดาษแล้วให้ไปแปะติดไว้ฝาห้อง
มีเรื่องการทำความดีของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ฟังแล้วชื่นใจในความดีที่เขามีอยู่ค่ะ แม้จะเป็นความดีเล็กๆ แต่มันก็ช่วยหนุนส่งให้โลกใบนี้น่าอยู่มากขึ้น มีหลายเรื่องราวที่ซึ้งใจ ถูกเล่าออกมา บางคนระหว่างทำกิจกรรมก็มีน้ำไหลออกตา บางคนก็ข่มความรู้สึกตัวเองไม่ปล่อยออกมา สารพัดสารเพ บรรยากาศระหว่างทำกิจกรรม ฮาเฮและผ่อนคลายค่ะ ต่อไปนี้จะเป็นความในใจที่ทุกคนได้เล่าออกมาให้ทีมวิทยากรได้รับรู้ว่า เขาได้อะไรไปจากการจัดกิจกรรมของเรา ก่อนบอกว่าเขาว่ามาอย่างไร ขอบอกก่อนว่า ผู้จัดกิจกรรมคาดว่าผู้เข้าร่วมจะได้เทคนิคการดูแลชีวิตตัวเองให้มีความสุขติดตัวกลับไปใช้กับตัวเองให้มีความสุขมากขึ้นกว่านี้ค่ะ
เรื่องเล่าก่อนจบกิจกรรมวันแรก ที่เขาพากันถอดออกมาเล่ามีดังนี้ค่ะ
- ความสุขเป็นเรื่องของบุคคล
- ความสุขอยู่ใกล้ตัวเรา ถ้าเรารู้แล้วนำมาใช้และหัดมองโลกในแง่ดี
- มีความสุขเมื่อได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ประทับใจในอดีตจากเรื่องเล่าของผู้อื่นและตนเอง และทำให้เราตั้งใจฟังมากขึ้น
- การคิดเชิงบวกทำให้ใจเป็นสุข
- ตลอดเวลาที่อบรมวันนี้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้ทำกิจกรรมร่วมกันหลายๆคนรู้สึกว่ามีความสุขสนุก
- สิ่งที่ได้จากการประชุมเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ทำให้เรามองกว้างขึ้น รู้จักแยกแยะ มองโลกในแง่ดี ผ่อนคลาย
- ข้อคิดมุมมองบทเรียนชีวิตหลากหลายต่อการดำเนินชีวิต
- สิ่งดีๆที่ทุกคนทำและเล่าออกมาสามารถนำไปใช้ มีความสุขดี
- ทราบความรู้สึกดีๆของผู้อื่น
- ได้ย้อนกลับไปคิดสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อต้องเปรียบเทียบกับปัจจุบันกับการได้รับโอกาส
- ได้คลายเครียดผ่อนคลาย
- ได้รู้ถึงอุปนิสัยใจคอของคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน
- มีความสุขมากในการเข้าร่วมกิจกรรมและได้รับความรู้ใหม่ๆ
- เล่าเรื่องดีๆ ฟังเรื่องดีๆ คิดเรื่องดีๆ มีความสุขจริงๆด้วย
- ได้รับรู้ถึงเรื่องราวของผู้ที่เข้าร่วมการอบรมในอดีตถึงปัจจุบัน นำข้อคิดมาใช้
- ได้รับรู้ความรู้สึกในใจเพื่อนต่อเรา ในสิ่งที่ดีๆต่อกัน
- สิ่งที่ได้ยิน ทำให้ได้รู้เรื่องราวความคิดของเพื่อนๆในกลุ่ม เอาสิ่งที่ดีมาใช้ปฏิบัติได้
- รับฟังเรื่องราวของความประทับใจของแต่ละคน รู้จักรับฟังการสะท้อนกลับของเพื่อนที่ได้ฟัง
รับฟังการดำเนินการกิจกรรมแล้วยังรู้สึกดีไปด้วยเลยค่ะ
บางครั้งก็มัวแต่ทำงานนะคะ ไม่ได้มีโอกาสเปิดใจกัน พอได้เปิดใจ ความสุขมันก็แผ่ออกมาทีเดียวค่ะ ^ ^
ขอบคุณนะคะ
สวัสดีคะ อ.หมอเจ๊
เป็นประสบการณ์ ที่มีค่ามากๆเลยนะคะ