สถานศึกษาที่เรามักเข้าใจว่าเป็นที่ที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง แต่เอาเข้าจริงอาจไม่ใช่ที่ปลอดภัยอย่างที่คิด แม้ว่าเราจะมี รปภ. มีการแลกบัตรเข้า-ออก ด้วยว่า ที่ผ่านมาสถานศึกษาหลายแห่งมี
๑) การขโมยรถ ทั้งจักรยานยนต์และรถยนต์ทั่วไป และอะไหล่ของรถ
๒) การฉก ชิง วิ่งราว ล้วง
ฉก ให้พิจารณาเหมือนกับอาการของงูฉก "โดนแน่" เช่น ใส่ของมีค่าไว้หน้ารถจักรยาน โจรขับรถจักรยานยนต์มาและทำการฉกของในตะกร้านั้น
ชิง ให้พิจารณาเหมือนกับเยื้อแย่ง เช่น โจรแย่งกระเป๋าเงินจากเจ้าของกระเป๋า ขณะที่เจ้าของกระเป๋าไหวตัวทันจึงจับกระเป๋าไว้แน่น ต่างคนต่างชิงของซึ่งกันและกัน
วิ่งราว เรื่องนี้น่าจะเคยเห็นลิงไต่ราว คราวเจ้าของทรัพย์สินเผลอ ก็จัดการเข้าไปชิงของในมือและวิ่งหนีไปข้างหน้าหรือข้างหลังเจ้าของทรัพย์สิน
ล้วง เช่น การล้วงของมีค่าจากกระเป๋าที่นักเรียน/นักศึกษา/นิสิต วางไว้หน้าห้องสอบ หรือแอบล้วนของในกระเป๋าถือในคราวที่เจ้าของทรัพย์สินเผลอ
๓) การขโมยทรัพย์สินของราชการ เช่น ขโมยกระดาษไปขาย ขโมยคอมพิวเตอร์ ขโมยสายไฟ
ที่กล่าวมานี้ คือเรื่องที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสถานศึกษาต้องระมัดระวัง ข้างหน้าไม่แน่ว่าที่แห่งนั้นอาจเป็นซ่องโจรก็เป็นได้ นี้ยังไม่นับอาการของความเป็นโจร ที่เกิดโดยบุคลากรภายในเอง อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าไปใช้บริการสถานศึกษาแต่ละแห่ง ก็พึงรักษาทรัพย์สินของตนไว้ให้ดี อย่าพึงเข้าใจว่า สถานศึกษาแห่งนั้นจะมีบุคลากรเพียงพอที่จะดูแลทรัพย์สินให้
คุณครูที่ สงขลา เขต 2 ก็โดนค่ะ ในห้องเรียนเลยนะคะ ช่วงนี้เลยต้องระวังกันอย่างยิ่งยวดทีเดียวค่ะ ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟัง จะได้หาทางป้องกันกันต่อไปค่ะ
สวัสดีครับ OOHOOH