บันทึกชุดนี้ทั้งชุด ติดตามได้ที่นี่
ที่ผ่านมา ผมเจตนาไม่แวะไปเรื่องการแก้ไขปัญหาโลกร้อนครับ มีหลายสาเหตุครับ
- ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก ความคิดที่บอกว่าทำอย่างนี้ซิ แล้วหวังว่าจะแก้ไขได้ เป็นความคิดแบบที่ยังติดกับการทำข้อสอบ
- การเลื่อนปัญหาออกไปในอนาคต หรือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ได้เป็นการแก้ไขอะไรเลย
- การแก้ปัญหาที่สาเหตุ มีโอกาสที่จะได้ผลลัพท์ตามประสงค์ที่ยั่งยืน มากกว่าการมั่วไปเรื่อยๆ เป็นครั้งคราว เหมือนไฟไหม้ฟาง
ปัญหาโลกร้อน
เริ่มมาจากการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศ
ก๊าซเรือนกระจกเป็นก๊าซที่ประกอบด้วยอะตอมของคาร์บอน ไฮโดรเจน
และ/หรือออกซิเจน ก๊าซเหล่านี้ เพิ่มปริมาณขึ้นมากมาย
เนื่องจากการเผาไหม้
เปลี่ยนองค์ประกอบทางเคมีของเชื้อเพลิงให้เป็นก๊าซ
เพื่อให้เราเอาพลังงานไปใช้;
การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลอันได้แก่น้ำมัน
และการผลิตปิโตรเคมีต่างๆ
การแก้ไขภาวะโลกร้อน พูดง่าย แต่ทำยาก ในเมื่อต้นเหตุคือก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ วิธีแก้ไขก็คือเอาก๊าซเรือนกระจกออกจากบรรยากาศ; การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทน ฯลฯ เป็นการบรรเทาปัญหาไม่ให้รุนแรงกว่าในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศลงเลย แต่ทำให้อัตราการเพิ่มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกไปในบรรยากาศน้อยลง ถึงยังไงก็ยังดีกว่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตั้งหน้าตั้งตาทำลายโลกต่อไป
ปลูกต้นไม้แก้โลกร้อน ต่อชีวิตตนเอง ลูกหลาน
และอารยธรรมมนุษย์
เนื้อไม้ประกอบด้วยเซลลูโลส (C6H10O5)nโดยที่คาร์บอนในเซลลูโลส พืชได้มาจากกระบวนการสังเคราะห์แสงโดยดูดคาร์บอนไดอ็อกไซด์มาจากบรรยากาศ
- 6 CO2(g) + 12 H2O(l) + photons → C6H12O6(aq) + 6 O2(g) + 6 H2O(l)
- carbon dioxide + water + light energy → glucose + oxygen + water
พืชเอาคาร์บอนไดอ็อกไซด์จากอากาศ น้ำจากราก
แสงแดดจากดวงอาทิตย์ มาสร้างกลูโคส (ก่อนนำกลูโคสไปสร้างเป็นเซลลูโลส)
คายออกซิเจน และน้ำออกมาทางใบ
ถ้าเผาไม้ คาร์บอนที่พืชเก็บไว้ในรูปของเซลลูโลส ก็จะถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศในอัตรา ไม้แห้ง 1 ตัน ปล่อยคาร์บอนไดอ็อกไซด์ออกมา 1.833 ตัน
ในทำนองกลับกัน การปลูกต้นไม้ที่มีน้ำหนักไม้แห้ง 1 ตัน ก็จะดูดคาร์บอนไดอ็อกไซด์จากบรรยากาศเข้าไป 1.833 ตัน
นี่เป็นที่มาของการปลูกต้นไม้สามารถนำไปเคลมคาร์บอนเครดิต (และขึ้นเงินได้) ในบันทึกโลกร้อน (2.3.1)
ปลูกต้นไม้แบบไหนดี
จะปลูกอะไรก็ดีทั้งนั้น ตราบใดที่ไม่เผา
แต่เมื่อมองอรรถประโยชน์โดยรวมแล้ว ไม้ยืนต้นที่มีน้ำหนักมาก อายุยืนยาว จะดีกว่าไม้เล็ก ไม้ล้มลุก ซึ่งมีโอกาสถูกเผาทำลายมากกว่า
อ้าปากรอก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ลอยมาเข้าปากแบบนางสวาหะ (แม่หนุมาน) ไม่เวิร์คครับ ไม่เวิร์ค