ห้องสมุดประชาชนอำเภอพานทอง
ห้องสมุดประชาชนอำเภอพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี

จุลสารประจำเดือนพฤษภาคม ปักษ์แรก


ฉบับที่ 37

จุลสารประชาสัมพันธ์

ห้องสมุดประชาชนอำเภอพานทอง

ฉบับที่   37      ปักษ์แรก   พฤษภาคม    2551

เด็กคลอดน้ำหนักต่ำกลับความดันสูง ตอนโตเป็นผู้ใหญ่อายุมากขึ้น

                วารสารความดันโลหิตสูง ไฮเปอร์เทนชั่นฉบับเดือนกันยายน เผยงานวิจัยของ ดร.แอนนา เอ เดวีส์ และคณะ มหาวิทยาลัยบริสทอลในอังกฤษ ที่ศึกษาหาสาเหตุของความดันโลหิตสูงในวัยผู้ใหญ่ โดยใช้ข้อมูลพนักงาน 25,874 คน อายุเฉลี่ย 38 ปี ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนทำงานพบว่า โดยเฉลี่ยแล้วตัวเลขความดันตัวบนของการวัดความดันโลหิตจะลดลง 0.8 มิลลิเมตรปรอทต่อน้ำหนักตัวแรกคลอดที่เพิ่มขึ้นทุก 1 กิโลกรัม แต่หากเป็นกลุ่มคนอายุ 55 ปีขึ้นไป ตัวเลขตัวบนจะลดลงถึง 33.9 มิลลิเมตรปรอทต่อน้ำหนักตัวแรกคลอดที่เพิ่มขึ้นทุก 1 กิโลกรัม

            คณะนักวิจัยระบุว่า ต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไปเพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนว่า การที่น้ำหนักตัวแรกคลอดมีความสัมพันธ์กับ ความดันโลหิตเมื่อเป็นผู้ใหญ่เป็นผลจากกลไกทางพันธุกรรม ที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตและพัฒนาหลังคลอด หรือเป็นผลจากปฏิกิริยาทางชีวภาพของกลไกในร่างกาย.

ที่มา : http://health.deedeejang.com/news/115.html

น้ำทับทิม   juice-granada

ทับทิม เป็นผลไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก ทับทิม สามารถปลูกได้ในประเทศไทย แต่แท้ที่จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย ทับทิม เป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ถูกนำมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า คุณค่าทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ นั้น รวมกันอยู่ใน ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย และทำเป็นผลิตภัณฑ์ไปทั่วโลก

คุณประโยชน์ของทับทิม ในตำราแพทย์สมัยโบราณ เปอร์เซีย
ในผล ทับทิม มีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้ง แมกนีเซียม และ แคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบ ฟอกโลหิต และระบบการหมุนเวียนในร่างกาย ในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย (ซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน) ระบุว่า
ทับทิมมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
- การฟื้นฟูสู่สภาพเดิมของ หัวใจ และ ตับ            - การฟอกไต และ ท่อปัสสาวะ
- ขจัดไขมันส่วนเกิน                                             - เป็นยาบำรุงกำลัง
- ช่วยป้องกันการแพ้ท้อง                                        - ปรับปรุงระบบการฟอกและหมุนเวียนโลหิต
- สมรรถนะในการกลั้นเสมหะ                              - ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มพลัง
- ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ
คุณประโยชน์ของ น้ำทับทิม จากการวิจัยทางการแพทย์
1. น้ำทับทิม มี สารต้านอนุมูลอิสระ หลายชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
2. สามารถลดภาวะการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ปัองกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัว ซึ่งจะทำให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือดตามมา
3. ทำให้เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมันสะสมแล้ว ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดีแล้ว มีความหนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงได้อีกด้วย
4. ลดความดันโลหิต ได้เล็กน้อย ประมาณ 5% ในผู้ป่วยที่ ความดันโลหิตสูง ถ้ารับประทานน้ำทับทิมวันละ 50 ซีซี เป็นเวลาสองสัปดาห์
5. บำรุงตับ ปัองการเป็นพิษต่อตับจากสารพิษได้
6. สารต้านอนุมูลอิสระ จาก น้ำทับทิม มีผลยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์ (Human Breast Cell)
ในประเทศญี่ปุ่น มีรายการแนะนำ ทับทิม ทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ว่า ทับทิม มีสรรพคุณในการบรรเทา โรคหัวใจ และ ความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง เพิ่มความงาม และประโยชน์อื่นอีกมากมาย ทำให้ ทับทิม เป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง

ที่มา : http://health.deedeejang.com/news/juice-granada.html

อันตรายของการวิ่ง และการเล่นกีฬาบนชายหาด

                ทะเล ทะเล ทะเล ไปทะเลทั้งทีก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งเล่นบนชายหาด หรือบางคนอาจจะหาลูกบอลมาเล่นกีฬาบนชายหาดกัน แต่คุณรู้หรือไม่คะ ว่าการวิ่ง หรือเล่นกีฬาบนพื้นทรายนั้น อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อข้อต่อได้ ซึ่งนายเเพทย์ไมเคิล ซิคคอตติ หัวหน้าใหญ่ศูนย์การแพทย์กีฬาที่สถาบันรอธแมน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโทมัส เจฟเฟอร์สัน ก็ออกมายืนยันเกี่ยวกับการเล่นกีฬาบนพื้นที่มีความอ่อนนุ่มว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้นักกีฬาเกิดอาการบาดเจ็บมากกว่าที่ควรจะเป็น

เมื่อคุณวิ่งบนพื้นที่ไม่ปกติ ซึ่งหมายถึงพื้นที่ร่วนและไม่แน่น อย่างหาดทรายบริเวณชายทะเล แรงและน้ำหนักทั้งหมดของตัวคุณจะถูกส่งไปยังสะโพกและเท้า โดยเฉพาะที่บริเวณข้อเท้า จนทำให้อวัยวะส่วนนี้ต้องทำงานอย่างหนัก นำไปสู่อาการบาดเจ็บที่คุณไม่ต้องการให้เกิดขึ้นระหว่างการออกกำลังกายในช่วงวันหยุดพักผ่อนสุดสัปดาห์ที่คุณคาดหวังไว้ว่า จะพักผ่อนและออกกำลังกายให้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งนี้ก็หมายถึงการวิ่งบนพื้นทรายที่มีความลาดชันหรือมีความลาดเอียงไม่สม่ำเสมอ ด้วยเช่นเดียวกัน

การป้องกันอาการบาดเจ็บขณะวิ่ง นายเเพทย์ซิคคอตติได้ให้คำแนะนำกับทั้งนักวิ่งตัวจริงและนักวิ่งมือสมัครเล่นที่ชอบวิ่งเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและรับลมชายทะเลไว้ว่าถึงแม้ว่าการวิ่งบนหาดทรายจะมีผลดีในเรื่องของอารมณ์ทางด้านจิตวิทยา แต่มันก็สามารถทำให้คุณเข้าใจผิดไปว่าจะช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุระหว่างการออกกำลังกายได้มากกว่าในกรณีที่มีการสะดุดหรือล้ม ทั้งที่จริงๆ แล้วการวิ่งบนพื้นดินหรือพื้นซีเมนต์แข็งๆ จะเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพข้อเท้าของคุณมากกว่า โดยมีข้อแม้ว่าคุณจะต้องสวมรองเท้ากีฬาที่ออกแบบมาเพื่อรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีการอบอุ่นร่างกายก่อนวิ่งอยู่เป็นประจำ

ที่มา : http://health.deedeejang.com/news/139.html

 

 

'เจ' กินอย่างไรให้ได้คุณค่าและปลอดภัย

                สำหรับใครหลายคนที่ตั้งใจจะเริ่มรับประทานเจในปีนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็มีเคล็ดลับดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกรับประทานผักให้ปลอดภัย และได้สารอาหารครบทุกหมู่ตามความต้องการของร่างกาย    ผศ.ดร.สุพัตรา ชาติบัญชาชัย ผู้จัดการโครงการผักปลอดภัยจากสารพิษ จังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงคำแนะนำสำหรับการรับประทานอาหารเจว่า คนส่วนใหญ่เมื่อถึงเทศกาลอาหารเจ ก็มักจะเน้นรับประทานแต่ผักสดเพียงอย่างเดียว ซึ่งในผักนั้น ยังมีสารอาหารไม่ครบ เพราะผักจะให้วิตามิน เกลือแร่ ไฟเบอร์ น้ำ และให้น้ำตาลบ้าง ดังนั้น ผู้ที่จะรับประทานอาหารเจ จึงควรทานธัญพืช เช่น เมล็ดงา ลูกเดือย ลูกบัว หรือพืชตระกูลถั่ว และพืชจำพวกที่เป็นหัวในดิน เช่น เผือก มัน กลอย ร่วมไปด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นที่ขาดไม่ได้เช่นเดียวกัน    สำหรับพืชตระกูลถั่วนี้ ในทางการแพทย์แผนจีนได้ถือว่า ถั่ว แต่ละประเภทจะให้ประโยชน์แตกต่างกันออกไป ถั่วแดงมีประโยชน์ต่อหัวใจ ถั่วดำมีประโยชน์ต่อไต ถั่วเหลืองมีประโยชน์ต่อม้าม ถั่วเขียวมีประโยชน์ต่อตับ และถั่วขาวมีประโยชน์ต่อปอด
 นอกจากนี้ ในเมล็ดงา ทั้งงาขาวและงาดำยังมี
กรดไขมันไลโนเลอิค ซึ่งเป็นไขมันดีที่จำเป็นต่อร่างกายมาก แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ดังนั้น การรับประทานงา ก็ช่วยให้ร่างกายได้รับไขมันที่ดีอีกทางหนึ่ง   ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อเมล็ดในของพืชผัก เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม มันฮ่อ เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมายหลายชนิด และการได้รับประทานสาหร่ายทะเลทั้งสดและแห้งพร้อมทั้งใช้เกลือทะเลมาปรุงลงในอาหาร ช่วยให้ร่างกายได้รับไอโอดีน ซึ่งจะสามารถป้องกันโรคคอพอกได้เป็นอย่างดี   อย่างไรก็ตาม ดร.สุพัตรา ได้เตือนว่า การเลือกรับประทานผักและธัญพืช ทั้งสดและแห้ง ควรเลือกซื้ออย่างระมัดระวัง เพราะพืชผักในปัจจุบันมีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตมาก ทำให้มีสารเคมีปนเปื้อนและตกค้างอยู่ในผัก ดังนั้น วิธีการเลือกซื้อผักให้เริ่มต้นจากการสังเกตลักษณะของผัก เช่น ถ้าเป็นผักใบอย่าง คะน้า ก็ให้ดูที่ใบ ถ้าใบอวบ สมบูรณ์ ใหญ่ สีเขียวสดมาก ไม่คล้ำ และไม่มีร่องรอยแมลง ก็ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าผักนั้นไม่ปลอดภัย หรืออย่างถั่วฝักยาวให้เลือกที่ไม่แข็งมาก สีเป็นธรรมชาติ ไม่สดจนเกินไป และมีรอยเจาะของหนอนอยู่บ้างบางข้อ เป็นต้น โดยนอกจากจะสังเกตลักษณะของผักนั้นแล้ว การดมกลิ่นควบคู่ไปด้วยก็สามารถนำมาใช้เลือกซื้อผักได้เช่นกัน   “แต่ทางที่ดีที่สุด เมื่อซื้อผักมาแล้ว ก็ต้องนำมาล้างก่อนรับประทาน หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าความร้อนจากการปรุงอาหารจะทำให้สารเคมีที่ปนเปื้อนในผักสลายตัวไปได้ จึงนำมาปรุงหรือลวกโดยไม่ล้าง ซึ่งแม้จะทำให้เชื้อโรคที่ติดมากับผักตายไปได้
     แต่ไม่ได้ช่วยให้สารเคมีหมดไป อีกทั้ง ความร้อนยังอาจเปลี่ยนสารที่ปนเปื้อนมาให้เป็นสารเคมีตัวอื่น เพราะฉะนั้น ก่อนลวกผักจึงควรล้าง เพื่อช่วยลดปริมาณสารพิษที่ปนเปื้อนมากับผักได้มากขึ้นดร.      สุพัตรากล่าว   ในส่วนของอาหารแห้ง เช่น ถั่ว ลูกเดือย หรือพริกแห้งนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งปนเปื้อนจำพวกเชื้อโรคเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารอัลฟาท็อกซิน ในถั่ว ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ มีการจัดเก็บอย่างถูกสุขลักษณะ และบรรจุอยู่ในภาชนะที่   สะอาด หรือถ้าเป็นอาหารกระป๋อง ก็ให้สังเกตที่วันผลิต วันหมดอายุ และลักษณะของกระ ป๋อง เพราะสำหรับอาหารกระป๋องที่บรรจุไม่ดี หรือหมดอายุจะมีเชื้อโรคอย่างโบทูลินั่ม ที่มีฤทธิ์ในการทำลายเส้นประสาทได้
 “ทางที่ดีที่สุดในการเลือกรับประทานผักและ  ผลไม้ คือการเลือกผักผลไม้ตาม    ฤดูกาล ซึ่งจะไม่ค่อยใช้สารเคมีใด ๆ อยู่แล้ว เนื่องจากปลูกได้ง่าย   แม้ว่า การหันมารับประทานแต่ผัก แล้วงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลกินเจ จะมีประโยชน์ ทั้งแง่ของร่างกายในเรื่องสารอาหารและกระบวนการย่อย และแง่ของจิตใจที่ได้รับการขัดเกลาให้มีความเมตตา ไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น แต่ถ้าหากเรารับประทานแต่ผักที่ปนเปื้อนด้วยสารพิษ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค หรือสารเคมี ประโยชน์ที่ควร    ได้ก็จะกลายเป็นโทษให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับ และไต ซึ่งถ้าสะสมมากไว้ อาจเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งได้    เพราะอาหารและยามาจากแหล่งเดียวกัน การใส่ใจในการเลือกรับประทานอย่างถูกต้องและพอเพียงต่อความจำเป็นของร่างกาย จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ.

วิธีการล้างผักเพื่อลดสารพิษ

1. ลอกหรือปอกเปลือกชั้นนอกของผักออกแล้วแช่น้ำสะอาด 5-10 นาที
2. ล้างออกด้วยน้ำไหลจากก๊อกนาน  2  นาที   

3. ใช้ด่างทับทิม 20-30 เกล็ด ผสมน้ำ 1 กะละมัง แช่ผัก นาน 10 นาที      แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง 
4. ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู) 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 กะละมัง    แช่ผักนาน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำ 

    สะอาดอีกครั้งหนึ่ง 
5. ใช้น้ำส้มสายชู (5%) 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 กะละมังแช่ผัก นาน 10      นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีก

    ครั้งหนึ่ง 

6. แช่ผักในน้ำซาวข้าว นาน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง 
7. ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 กะละมัง แช่ผักนาน 10 นาที    แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง 
8. ลวกหรือต้มผักด้วยน้ำร้อน 

ที่มา โครงการผักปลอดภัยจากสารพิษ จ.ขอนแก่น

ที่มา  :  http://health.deedeejang.com/news/Tip-Vegetable-Food.html

 

หมายเลขบันทึก: 187024เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2008 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 08:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท