วันนี้ปล่อยวางไปบ้าง
ฮ่าๆๆๆ มองไกลๆ ก็ไอ้เหมือนกัน
มองกลางๆมึนงงงงงวย
มองใกล้ๆมันมีรายละเอียดแตกต่างซึมลึก
อิอิ.... อาจารย์อยากสื่ออะไรเหรอครับ ลึกซึ้ง ลึกซึ้ง
สื่ออะไรหรือครับ อยากให้แต่ละท่านมองและสะท้อนออกมาเล่นๆว่าเห็นอะไร คิดอะไร ฯ...
แต่ลึกๆ ผมมองเรื่องการเมืองบ้านเราครับ สองขั้ว สองสี ต่างกัน
ฝ่านหนึ่งมีอำนาจทางกฏหมายแข็งแรง เหมือนสีน้ำตาลเข้ม อีกส่วนเป็นสีสว่าง ต่างพลัดกันรุกพลัดกันรับ คนละหมัดสองหมัด อิอิ
การขับเขี้ยว รุกรับกระชับมากขึ้น แม้ใช้เวลาและพลังงานมากมาย แต่ทุกฝ่ายก็สบักสบอมกันไปเป็นปกติ
ฝ่าย พธม. ต้องการเอาสีขาวไปล้างสีดำ ฝ่ายรัฐก็อ้างความชอบธรรมที่ผ่านการเลือกตั้งมาและ....
ถามว่าประชาชนส่วนใหญ่อยู่สีไหน...? สีนั้นย่อมมีพลังมากกว่า ประชาชนไม่ได้อยู่ตรงกลางแน่นอน เพียงแต่เขาแสดงตัวหรือไม่เท่านั้นเอง การเลือกข้างจึงอยู่ที่ขบวนการเอาความจริงมาตีแผ่กันว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นจริงๆคืออะไร
แต่ระบบข้อมูลแม้ว่าจะเอามาให้ทั้งหมดก็มิได้หมายความว่าจะทำให้ประชาชนเลือกข้างโดยอัตโนมัติ มนุษย์ยังมีสิ่งอื่นเข้ามาครอบจิตอีก เช่น ความรักความชอบส่วนตัว ต่อให้เธออย่างไรก็ตามก็ยังรักเธอ อะไรทำนองนั้นน่ะครับ ไม่รู้มีเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไป ความจริงก็ย่อมเปิดออกมาแน่นอน แม้ว่าอาจจะช้าไปบ้างก็ตาม
แต่ทั้งหมดก็จบลงที่ศูนย์สิ้นเป็นปกติชีวิต คือความไม่มี
เข้าใจมองในมิตินี้นะครับ
หลายครั้งพี่ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ การทำงานบริหารจึงฝึกการมององค์รวมมากกว่าคนสนาม แต่ก็มีจุดอ่อนหากไม่มีข้อมูลสนามอย่างเท่าทันก็หลุดโลกได้เช่นกัน
ต่างมีความสัมพันธ์ และสำคัญ
พี่ทะเลาะกับฝ่ายบริหารที่สูงขึ้นไปบ่อยๆว่า เอาแต่มอง Vision จนห่างความเป็นจริงในสนาม เมื่อเราขนเอาข้อมมูลสนามมากองเต็มโต๊ะ ก็พบว่า หลายอย่างมันอยู่นอกขอบเขตงานที่เรารับผิดชอบจริงๆ ใจน่ะอยากช่วย อยากทำ แต่ความรับผิดชอบก้าวไปไม่ถึง เพราะกรอบงานเอื้อให้แค่นั้น ต้องใช้พลังภายใน หรือดึงหน่วยอื่นเข้ามาจึงทำงานชิ้นนั้นได้...
ขอบคุณครับ พี่สบายดีครับ