แม่จ๋าดวงใจลูก

แม่จ๋า

แม่จ๋าดวงใจลูก   ยังพันผูกไม่เสื่อมคลาย
รักแม่แน่ใจหมาย         มุ่งกตเวทีนิรันดร
เพราะรู้ว่าแม่รัก           แจ้งประจักษ์จิตรอาทร
ห่วงใยไม่แคลนคลอน   รักลูกดั่งดวงชีวัน

เมื่อแรกที่ลูกเกิด          ถือกำเนิดขึ้นในครรภ์
แม่คิดแม่สร้างสรรค์       สิ่งดีงามให้ทันที
แม่ทำแม่คิดชอบ           ตามระบอบแห่งความดี
เพื่อสร้างให้ลูกมี         สมบูรณ์สุขสมกายใจ

เมื่อลูกพ้นครรภ์แม่       เฝ้าดูแลเจริญวัย
สอนสั่งหวังจักให้       ลูกเติบโตขึ้นเป็นคน
กายใจและความคิด      เริ่มชีวิตแม่ฝึกฝน
ลูกจึงไม่ทุกข์ทน         เพราะเชื่อแม่แต่แรกมา

แม่มีวิธีสอน              มิตึงหย่อนแสนหรรษา
โอนอ่อนผ่อนวาจา       กล่อมเกลาลูกถูกครองธรรม
ฝึกลูกให้แข็งแกร่ง        ทั้งเข้มแข็งแม่น้อมนำ
ฝังแน่นในความจำ       เหมือนมนตราพาชีพยืน

ค่ำเช้าเฝ้าพันผูก            อยู่กับลูกทุกวันคืน
ลูกแสนระเริงรื่น          ผาสุกล้ำฉ่ำหทัย
ครั้นแล้วอนิจจา          แม่ต้องมาจากลูกไป
สู่แหล่งแห่งหนใด         ลูกสุดคิดจะติดตาม

เหมือนดังแสงเทียนดับ   แม่ลาลับทุกโมงยาม
คิดไปใจลูกหวาม        ฝืนโศรกเศร้าหงอยเหงาทรวง
ลูกยังไม่เคยพบ          ทุกข์กระทบที่ใหญ่หลวง
ทุกข์นี้ทุกข์กว่าปวง       ลูกวิตกเพียงอกพัง

 

***  ไม่ทราบว่าอาจารย์ท่านไหนที่ยังเก็บหนังสือชุด  มานะ – มานี  ไว้บ้าง  หากท่านเก็บไว้ขอความกรุณาท่านติดต่อที่บล็อกและฝากเบอร์โทรไว้ด้วย  เพราะเป็นหนังสือที่ดีมีประโยชน์ เชื่อว่าอาจารย์หลายๆท่านน่าจะได้เรียนหนังสือนี้อยู่

***  บทประพันธ์แม่จ๋าตอนที่ของเพชรตายนั้นไม่แน่ใจว่าที่ลงบล็อกไปสมบูรณ์หรือเปล่า  หากท่านจะกรุณาขอความกรุณาชี้แนะ  และอยากได้ต้นฉบับจากหนังสือเรียนเล่มนี้  จะเป็นพระคุณยิ่ง

หากท่านมีข้อมูลหรือข้อเสนอแนะ  ขอความกรุณาท่านติดต่อที่

 

อาจารย์สิรวิชญ์   ขัดเชิง  ( นามสกุลเดิม  พรมตา )

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

โรงเรียนพบพระวิทยาคม  ต.พบพระ  อ.พบพระ  จ.ตาก  63160

โทร.087-2107192

[นายประจักษ์ ปานอินทร์]

วันสิ่งแวดล้อมโลก : 5 มิถุนายน ของทุกปี

[เอ]

                        แม่จ๋า
               แม่จ่าดวงใจลูก      ยังพันผูกไม่เสื่อมคลาย
          รักแม่แน่ใจหมาย         มุ่งกตเวทีนิรันดร
               เพราะรู้ว่าแม่รัก      แจ้งประจักษ์จิตอาทร
          ห่วงใยไม่แคลนคลอน    รักลูกดั่งดวงชีวัน 
               เมือแรกที่ลูกเกิด     ถือกำเนิดขึ้นในครรภ์
          แม่รักรักแม่สร้างสรรค์    สิ่งดีงามให้ทันที
               แม่ทำแม่คิดชอบ     ตามระบอบแห่งความดี
          เพื่อสร้างให้ลูกมี          สมบูรณ์สุขทั้งกายใจ
               เมื่อลูกพ้นครรภ์แม่   เฝ้าดูแลเจริญวัย
          สอนสั่งหวังจักให้          ลูกเติบโตขึ้นเป็นคน
               กายใจและความคิด  เริ้มชีวิตแม่ฝึกฝน
          ลูกจึงไม่ทุกข์ทน          เพราะเชื่อแม่แต่แรกมา
               แม่มีวิธีสอน          ไม่ตึงหย่อนแสนหรรษา
         โอนอ่อนผ่อนวาจา         กล่อมเกลาลูกถูกคลองธรรม
               ฝึกลูกให้แข็งแกร่ง   ทั้งเข้มแข็งแม่น้อมนำ
          ฝังแน่นในความจำ         เหมือนมนตราพาชีพยืน
               คำเช้าเฝ้าพันผูก      อยู่กับลูกทุกวันคืน
          ลูกแสนระเริงรื่น           ผาสุกล้ำฉ่ำหทัย
               ครั้นแล้วอนิจา        แม่ต้องมาจากลูกไป
          สู่แหล่งแห่งหนใด          ลูกสุดคิดจะติดตาม
               เหมือนดังแสงเทียนดับ แม่แลลับทุกโมงยาม
          คิดไปใจลูกหวาม           ฝืนโศกเศร้าหงอยเหงาทรวง
               ลูกยังมิเคยพบ         ทุกข์กระทบที่ใหญ่หลวง
          ทุกข์นี้ทุกข์กว่าปวง         ลูกวิตกเพียงอกพัง
               สุดเพรียกร่ำเรียกหา   ให้แม่มาดังใจหวัง
          จึงคิดให้แม่ยัง              อยู่กับลูกทุกคืนวัน
               จะยึดเอาคำสอน       ความอาวรณ์สายสัมพันธ์
           ฝังจิตนิจนิรันดร์            เหมือนแม่อยู่คู่ลูกยา
               โลกนี้ไม่อ้างว้าง       แม่เคียงข้างเหนือเกศา
           อวยพรลูกทุกครา          ขวัญลูกดีมีชัยเอย

[ฉันทนา]

เราเป็นคนหนึ่งที่มีคนอิฉาริษยาจนถึงขั้นทำร้ายร่างการเราเพียงพราะต้องการแย่งผู้ชาย ทำร้ายเราต่างๆ นาๆ ทั้งทำร้ายเราเพื่อหวังจะให้เราแท้งลูก เพราะเห็นว่าเราได้ดีกว่า ดีกว่า ไม่อาจดีกว่าเราได้ เขามีกันอยู่ 3 คน เราเรียกชื่อทั้ง 3 คนนั้นว่า วิว .เจต บ๊วย.สันเจต บ๊วย ซึ่งเราคิดว่าทั้ง 3 คนน่าจะเป็นคนพอมีฐานะ แต่จิตใจแย่มาก ทำร้ายเราทั้งๆ ที่ไม่รู้จักเรามาก่อนเลย ทำร้ายเราตั้งแต่วันแรกที่รู้จักเรา และเราคิดว่าน่าจะมีคนคอยร่วมมือแต่ก็อิจฉาริษยาเราจนทำร้ายร่างกายเราได้ แค่เพียงเพราะอิฉาริษยาเพราะไม่ได้อย่างเราและอยากได้สิ่งที่เราได้ สกปรกที่สุด ในบางครั้งยังมาขอความคิดเห็นจากเรา แต่ก็ยังอิเพื่อนๆ ที่อ่านคิดว่าอย่างไร คิดว่าทั้ง 3 คนเป็นคนอย่างไร เราคิดว่าคงไม่ได้รับการอบรมจากพ่อแม่มาเลย เพราะอายุของทั้ง 3 คนนั้นก็บรรลุนิติภาวะกันทั้ง 3 คนแล้ว และเราก็คิดว่าพ่อและแม่เขาน่าจะรู้ว่าลูกทั้ง 3 คนอิจฉาริษยาเรา ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้ทำร้ายคนอื่นถึงขนาดจะทำให้เราแท้งลูกได้ เชื่อมั้ว่าขณะเราพิมพ์ข้อความอยู่นี้ก็ยังจ้องคิดจะทำร้ายเรา เขาทั้ง 3 คนคิดจะทำร้ายเราอยู่ตลอดเวลา เพือให้ได้สิ่งที่เราได้ เราก็ไม่รู้ว่าคนเรานั้นพออิจฉาริษยาใครแล้วจะทำได้ถึงขนาดนี้ เพราะทั้ง 3 คนนั้น ชาย 2 คน หญิง 1 คน ดูเบื้องหน้าบอกว่าตนเป็นผู้ดี แต่จิตใจคับแคบคงหาคนคบค้าสมาคมยาก และอนาคตคงไม่เจริญเพราะจิตใจต่ำ มีแต่ความอิจฉาริษยาคนอื่นอยู่เต็มตัว พอเรารู้ว่าเขาจะทำร้ายเรา เราก็หาทางหลีกเลี่ยงไม่คบค้า แต่ก็ยังตามมาจองล้าง เรา เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร บอกก็แล้ว เตือนก็แล้ว ตอบโต้ก็แล้ว แต่ก็ยังมารังควานเราอีกเห็นว่าจะเล่นคุณไสยกับเราด้วย เพื่อจะสะเดาะลูกเราออก อ่านดูแล้วเหมือนเกินจริงมาก แต่มันคือเรื่องจริงเราก็ไม่รู้ว่าเจอะเจอกับคนพวกนี้ได้อย่างไร เราก็เคยเจอกับคนอิจฉาเรามาเยอะ แต่ 3 คนนี้ถึงขั้นลงมือทำร้ายเราเลยนะ ไม่รู้จิตใจเจริญกันรึปล่าว ถ้า ไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการคงไม่วางมือเป็นแน่ เพื่อนๆ คิดว่าทั้ง 3 คนนี้เป็นอย่างไร น่าคบค้าเป็นเพื่อนรึป่าว น่าจะให้ความช่วยเหลือรึป่าว นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเรานำมาเล่าให้ฟัง

[แกว]

ชอบมากๆๆเลยค่ะ

[พีรญา]

เพราะมากๆเลยค่ะ

ถูกใจค่ะ