I miss you......Go to know.


กับความทรงจำดีๆ...PG.รุ่น2

        ภายหลังจากที่ดิฉันห่างหายจากblog ไปเนิ่นนานมาก...ถึงแม้ในใจจะยังคงคิดถึงทุกคนที่เคยเข้ามาเยี่ยมเยียนกันในblogก็ตาม (รู้สึกผิดเล็กๆที่ทิ้งblogไป)

      วันนี้มีสิ่งดีๆ จนอดใจไม่ไหวที่จะเล่าให้ฟัง... มากแค่ไหนหล่ะ..ก็ลองนึกดูนะคะ..ที่ช่วยให้ดิฉันอยากบันทึกความทรงจำดีๆ ไว้ในblogส่วนตัวนี้ไว้....แต่ก็ไม่หวงนะคะ สำหรับทุกคนที่ต้องการลปรร.กัน

      เมื่อ 4 ก.พ. -30 พ.ค. 2551(4 เดือน) ดิฉันได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช (Program of Nursing Specialty in Mental Health and Psychiatric Nursing)  ของ ร.พ.ศรีธัญญา ร่วมกับคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

       ก่อนไปอบรมดิฉันทีแรกก็รู้สึกลังเลใจว่าจะตรงกับสายงาน counselling มากน้อยแค่ไหน จะคุ้มค่ากับการเสียเวลา และเสียเงินค่าลงทะเบียนของสถาบันหรือไม่....ที่รู้แน่ๆว่าดิฉัน ต้องถูกหักเงินประจำตำแหน่ง+เงิน พ.ต.ส 2 เดือน แต่ได้เห็นความตั้งใจของหัวหน้ากลุ่มงานแนะแนวฯ (พี่เปี่ยมสุข) ที่พยายามช่วยดำเนินการติดต่อให้น้องๆได้อบรม ได้Update ความรู้ให้ทันสมัย เปิดหูเปิดตารับความรู้ใหม่ๆ เพื่อจะได้นำมาพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพดียิ่งๆขึ้น ก็เพื่อผู้รับบริการของเรานั่นแหล่ะ....ดิฉันจึงตัดสินใจไปด้วยความอยากไป...(ไม่ได้ถูก...ไป) ตั้งใจว่าไปแล้วต้องได้....และนำความรู้กลับมาใช้ที่สถาบันบำราศของเรา  การที่บุคลากรของกรมควบคุมโรคอย่างดิฉัน ได้เข้ารับการอบรม ของกรมสุขภาพจิตในครั้งนี้ ซึ่งมีคนสมัครเข้าอบรมมากมาย จนเกินโควต้าที่จะรับได้ในรุ่นนี้(รุ่นละ 40 คน) แต่ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิต ซึ่งท่านมีVision กว้างไกลมากที่จะสร้างเครือข่าย การดูแลปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชให้มากๆ เพื่อที่จะได้ดูแลผู้ที่กับปัญหาสุขภาพจิตได้ทั่วถึงไม่เฉพาะในหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เท่านั้น....ซึ่งดิฉันก็เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดของท่านในเรื่องนี้....โดยในบทบาทของวิชาชีพพยาบาลแล้ว...บางครั้งต้องสวมหมวกหลายใบในการทำงานก็จริง (เพราะงานมากกว่าอัตรากำลัง) แต่พยาบาลต้องไม่ปฏิเสธที่จะให้ความสำคัญ กับการดูแลด้านจิตใจของผู้รับบริการ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต.....ในปัจจุบันและอนาคต(อันไม่ไกล) ผู้คนจะเป็นโรคขาดความรักจำนวนมากขึ้น....แล้วต่อไป สังคมจะเป็นอย่างไร?....แล้วถ้าวิชาชีพที่ควรดูแลด้านจิตใจ ขาดความสนใจดูแลด้านจิตใจ อย่างที่ควรจะเป็น...แล้วผู้ป่วยจะเป็นอย่างไร?.....และวันหนึ่ง(ไม่ช้าก็เร็ว)ที่เราทุกคนได้มีโอกาสเป็นผู้รับบริการหรือเป็นผู้ป่วย....ต้องการให้กายหายป่วย แค่นั้นไหม? แต่ส่วนใหญ่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากได้รับการดูแล ทั้งร่างกายและจิตใจของเราให้แข็งแรง พอที่จะต่อสู้กับโลกภายนอกได้ต่อไป..

                     มนุษย์มีหัวใจที่เปราะบางมาก... ถ้ามีปัจจัยอะไรที่มากระทบแรงๆๆ...

                  จนกลไกทางจิตที่ใช้รับมือไม่ไหวอีกต่อไป...อาจเจ็บป่วยทางจิตได้.     

            เดือนแรกของการอบรม เป็นความรู้ด้านวิชาการสู่การปฏิบัติ และทฤษฏีต่างๆที่เกี่ยวข้อง (ไม่มีเวลาง่วงเลย นั่งจนเมื่อยก้นไปตามๆกัน) ...ยอมรับว่าเครียด ต้องขยันเป็นพิเศษกับการตื่นมาท่องหนังสือสอบ (ไม่อยากอายน้องๆที่เรียนด้วยกัน) แต่class นี้ไม่น้อยหน้ากันเพราะอายุเฉลี่ย 40 ต้นๆค่ะ...ไม่ได้เรียนเก่งกันนะ..แต่ก็ไม่มีใครอยากเป็นคนสุดท้าย ฮิๆๆ ...ในควมเครียดก็มีความสุขแฝงอยู่ด้วย มีเพื่อนร่วมทุกข์..ร่วมสุข...มีมิตรภาพ และช่วยเหลือกัน มี Buddy ที่เราไม่รู้ว่าใครแอบคอยดูแลเรา และเราก็มีคนที่ต้องไปดูแลเขาเช่นกัน(โดยจะไปเฉลยกัน ในงานเลี้ยงสังสรรค์ก่อนจบ) มีการแบ่งงานกันรับผิดชอบ 1.ทีมวิชาการ รวบรวมเนื้อหาที่อาจารย์สอน ใส่CD แจกเพื่อนทุกคน เป็นติวเตอร์ให้เพื่อนๆก่อนสอบ 2.ทีมบริหารจัดการ จัดหาอาหารว่าง รับส่งอาจารย์ แนะนำวิทยากร และ3.ทีมกิจกรรม(ต้องทำให้เพื่อนสนุก ผ่อนคลาย ร้องเพลงไม่เป็น ไม่รับค่ะ) .....ลองทายซิคะดิฉันอยู่ทีมไหน? (ถ้าไม่ลืมจะเฉลยทีหลังนะคะ).....วันนี้พักร้อนอยู่บ้าน ตั้งใจจะจะเก็บเอกสาร ตำราให้เรียบร้อย เพราะที่รักๆๆบอกว่า  "ช่วยclearพื้นที่หน้า com..ให้หน่อยนะ 

   ดิฉัน :"ทำไมจะไม่ได้หล่ะจ๊ะ ...ตั้งใจเอาไว้แล้วจ้ะ"   แต่ตอนนี้หิวข้าวมากเลย....แล้วจะเอารูปมาฝากนะคะ

หมายเลขบันทึก: 185700เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2008 11:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 15:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท