ชาวนาไม่ใช่สินค้า


มีคำถามหนึ่ง ถึงวิสัยทัศน์ในการให้นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนอาหรับ เข้ามาร่วมลงทุนปลูกข้าวไทย โดยมอบหมายความเสี่ยงทางการตลาด การบริหารทุน และการร่วมสร้างสรรค์นวตกรรม ในการทำนาร่วมกับชาวนาไทย วันนี้เพียงมีคำถามสำหรับความจริงที่เกิดขึ้น

ชาวนาไม่ใช่สินค้า

อ้างอิง - ภาพ http://francetoo.multiply.com/

แม้ว่า

คุณบรรหาร ศิลปอาชา

จะออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อชี้แจง

และลดความร้อนแรง ของกระแสตอบโต้ทางการเมือง หลังคำให้สัมภาษณ์ที่สะท้อนความเป็นคนไทยของ คุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งระบุว่า ใครก็ตามที่เอานาของไทยไปให้ต่างชาติเช่า หรือต่างชาติมาเช่านาไทย และจ้างคนไทยให้เป็นลูกจ้างปลูกข้าว บนผืนแผ่นดินไทย ถือว่าเป็นการขายชาติ

ไม่ว่าข่าวคราวและกลยุทธ์หลีกเลี่ยง

เพื่อลดแรงปะทะทางการเมือง

หรือลดความขุ่นเคืองใจ

ซึ่งคุณทักษิณ ชินวัตร อาจบันดาลโทสะขึ้นมาได้ทุกขณะ หลังคำกล่าวอันรุนแรง และหัวใจรักแผ่นดินของคนไทยจะคุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นคำกล่าวของคุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา ซึ่งพยายามลดกระแสพร้อมออกมาปฏิเสธ ด้วยการพูดจาปนหัวเราะขบขัน ในความไม่ขบขันของข่าวสารในใจคนไทย กระทั่งข่าวการเลื่อนเยี่ยมชมนาไทย ของกลุ่มนักธุรกิจดูไบ

ไม่ว่าจะเป็นเสียงตอบโต้

ของทางฝ่าย คุณประภัตร โพธสุธน

หรือฝักฝ่ายนักการเมืองในมุ้งพรรคชาติไทย

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางคำถามที่ดังขึ้นมา พร้อมคำถามแบบง่ายง่าย ว่าคิดได้อย่างไร ในการยกที่นาไทยให้ต่างชาติเข้าครอง กระทั่งพูดแบบมีวิสัยทัศน์ ถึงการร่วมทุน พัฒนานวตกรรมความก้าวหน้าของข้าวไทย ผมก็อยากถามเช่นกันว่า ใช้อะไรหรืออวัยวะใดคิดกันหรือ

สำหรับความจริงอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย

และกระดูกสันหลังอันสำคัญ

ของแผ่นดินผืนนี้

สำหรับเหตุผลใดก็ตาม ผมล้วนไม่ค่อยจะเข้าใจทั้งสิ้น แม้เหตุผลในการออกความคิดเห็น เพื่ออธิบายในเชิงบวก เช่นคุณวิกรม กรมดิษฐ์ จะกล่าวว่าให้ฟังความจากนักลงทุนก่อน ว่าเขาจะเข้ามาทำอะไร และสร้างให้เกิดความก้าวหน้า หรือมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทยอย่างไร

ผมก็ได้แต่ส่ายหัว

เหมือนครั้งหนึ่งที่เคยส่ายหัว

ให้กับแนวคิดของข้าราชการบางคน

ที่เสนอแนวคิดแบบขายชาติ โดยการให้นักธุรกิจไต้หวันเข้ามาลงทุน พร้อมส่งเสริมการลงทุนอย่างเต็มที่ ทำอุตสาหกรรมเกษตรกล้วยไม้ ถามหน่อยเถอะว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ไทย สร้างความยิ่งใหญ่ใด สร้างนวตกรรม และองค์ความรู้ใหม่ใหม่ของโลกเช่นไรบ้าง ในท่ามกลางความไม่สนใจดูดำดูดีของข้าราชการ และภาครัฐไทย

จนวันดีคืนดีก็พุดความคิดแบบมีวิสัยทัศน์

ให้ต่างชาติที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้วยไม้

ลงทุนทำกล้วยไม้ในบ้านเรา

แทบจะไม่แตกต่างในความเป็นจริงของข้าวไทย ถามหน่อยเถอะครับว่า องค์ความรู้ของชาวดูไบ จะมีความรู้ในการทำข้าวไทย สร้างนวตกรรมใหม่ใหม่ หรือสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไรให้ข้าวไทย หรือคนไทยในแผ่นดินนี้ ไร้ความสามารถในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ข้าวไทยเช่นนั้นหรือ อาจจะยอมรับได้เพียงอย่างเดียว ก็คือเขามีเงินกองโตที่พร้อมจะโบกจ่าย

แต่ไม่ใช่สำหรับอย่างยิ่ง

สำหรับความจริงและคำตอบวันนี้

เมื่อโลกกำลังอยู่กระแสความต้องการอาหาร

ถามหน่อยเถอะว่า หัวใจหลักของชาติไทยคืออะไร ถามหน่อยเถอะว่า ต้นทุนการผลิตนม การสร้างผลิตผลทางการเกษตรของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประชาคมยุโรป สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น หรือนิวซีแลนด์ ซึ่งต่างมีต้นทุนภาคการเกษตรที่สูงขึ้น ทำให้ไม่ปล่อยให้ต่างชาติเข้าไปลงทุน ไม่มีสิ่งใดเลยสำหรับความจริงในหัวใจของชาติ

 

 

ก็ในเมื่อผู้คนในชาติต้องกินต้องอยู่

ต้องมีเสถียรภาพด้านอาหาร

และมีความมั่นคงในชีวิต

ทำไมเราต้องฝากชีวิต ฝากจมูกและลมหายใจ ให้คนชาติอื่นมาคอยชี้นำตัดสิน เพียงเพราะแค่คำตอบว่า เขามีเงินมีทุน มีนวตกรรม มีองค์ความรู้ความสามารถ แค่นั้นจริงจริงหรือ สำหรับยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ระดับโลกเช่นนี้ ใช่หรือสำหรับเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศชาติ

อาจจะดูกร้าวร้าว

และอาจจะกล่าวหาว่า

ผมดื้อรั้นหัวชนฝาไม่ฟังเหตุผล

เพราะสำหรับเรื่องราวข้าวไทยนาไทยแล้ว ตั้งแต่ผมเกิดจากท้องแม่ ผมไม่เคยเห็นสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่คับพื้นแผ่นดินไทย เท่ากับผืนนาสีเขียวของเมืองไทย เท่ากับข้าวไทยที่หล่อเลี้ยงชีวิตผม และสร้างลมหายใจของคนไทย จนสามารถสร้างชาติ เพื่อให้คนต่างชาติต่างเผ่าพันธุ์เข้ามาร่วมชื่นชมยินดี จนวันนี้เกิดน้ำเสียงประหลาดให้คนต่างชาติเข้ามา

ให้เขาเข้ามาเป็นเจ้าเข้าครองนาไทย

ให้เขามาเช่านาเป็นนายคอยชี้นิ้ว

สั่งคนไทยให้ทำนา

คิดได้อย่างไรครับ สำหรับความจริงที่ฝังอยู่ในสายเลือดคนไทย สำหรับคำท่องจำประจำตัวเด็กนักเรียนไทยทุกคน ว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ คนไทยต้องรักชาติ และคนไทยต้องกินข้าวด้วยสำนึก เพราะชาวนามีบุญคุณกับเรา ข้าวไทยมีบุญคุณกับชีวิตของเรา

เราคนไทย

จึงควรเคารพกราบไหว้

ในบุญคุณของข้าวไทยที่เลี้ยงเรามา

ไม่ใช่สิ่งนี้หรือครับที่ตอกย้ำและฝังหัวให้เราคนไทย ยังคงรักแผ่นดินผืนนี้ ด้วยความผูกพันและสำนึกต่อบุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้ สำนึกของคนที่ยังคงรักแผ่นดิน และรักความจริงที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า ในท่ามกลางความทุกข์ยาก ความลำบากมากมายที่ทุกวันนี้ชาวนาต้องแบกรัก

หากจะแก้ปัญหากันอย่างจริงจัง

ต้องไม่ใช่ให้ใครมาแก้ให้

เพราะข้าวไทย

อยู่ในสายเลือด อยู่ในหัวใจคนไทย และอยู่บนหัวกบาลคนไทย ซึ่งต้องแบกรับและรับผิดชอบความจริงแห่งชีวิต ความจริงของประชาชาติไทย ไม่ใช่ให้ใครมาคอยชี้นิ้วบอกกล่าวให้แก้ไข หรือสั่งการให้ดำนาปลูกข้าวอย่างไร นวดข้าววิธีไหน ชั่งดวงวัดข้าวแบบใด กระทั่งกินข้าวเป็นไหม

ขออนุญาตเถอะครับ

หาก คุณทักษิณ ชินวัตร ยังคงเชื่อมั่น

ในวิสัยทัศน์การร่วมทุนปลูกข้าวกับชาวอาหรับ

ผมเสนอให้ท่านไปปลูกที่ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

ดูทีสิว่า ชาวนาเชียงใหม่จะรักวิสัยทัศน์นี้หรือไม่

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 184596เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2008 17:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม 2012 10:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ผีดิบที่ลุกขึ้นมาสูบเลือดเนื้อชาวนาไทยกินเป็นอาหาร

ระพี สาคริก

เธอที่รักทุกคน บัดนี้ฉันมีอายุเกือบ ๙๐ ปีแล้ว หวนกลับไปนึกถึงสมัยที่ยังเป็นเด็ก ฉันได้ดูภาพยนตร์เรื่อง “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” ซึ่งมีผีดิบลุกขึ้นมาทำร้ายผู้คน ช่วงนั้นฉันก็ยังไม่เชื่อว่าผีดิบมันมีอยู่จริง

มาถึงบัดนี้ ประสบการณ์ชีวิตได้บอกให้รู้ว่า “ผีดิบนั้นแท้จริงแล้วก็คือคนธรรมดานี่เอง แต่สวมวิญญาณการสูบเลือดเนื้อประชาชนกินเป็นอาหารอย่างไม่บันยะบันยัง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูบเลือดเนื้อชาวนา ซึ่งโบราณได้กล่าวไว้ว่า “ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ”

ประเด็นนี้ฉันไม่ได้มองที่ตัวบุคคล แต่ใครก็ตามที่มีลักษณะและสภาพทางจิตใจดังกล่าว เราก็อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่สวมวิญญาณผีดิบ

ถ้าจะว่าบุคคลลักษณะนี้มีความคิดอย่างไร ถึงได้ปรากฏออกมาเป็นแบบนี้ หากจะวิเคราะห์เจาะลึกให้ถึงรากฐานจิตใจแล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่า เป็นคนโลภโมโทสัน จนกระทั่งขาดสติสัมปชัญญะ หรืออย่างคนโบราณเขาพูดว่า “เป็นคนหน้ามืดตามัว” จนกระทั่งไม่รู้ว่า เหตุผลในการดำเนินชีวิตนั้นมันอยู่ที่ไหน ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงไม่สวมวิญญาณผีดิบได้ลงคอ

บุคคลที่มีลักษณะดังกล่าว มักเป็นคนที่ขาดจิตสำนึกถึงความสำคัญของแผ่นดินถิ่นเกิด ซึ่งตนควรจะสนองพระคุณด้วยชีวิตที่ให้ความรักความซื่อสัตย์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกษตร ไม่ใช่เป็นเพียงอาชีพของคนท้องถิ่นเท่านั่นแต่ยังเป็นวัฒนธรรมซึ่งทุกคนควรหวงแหนเอาไว้ เสมือนเป็นชาติกำเนิดของเราเอง จากเหตุดังกล่าว ถ้าใครคิดนำเอาการเกษตรไปมอบให้แก่ชนชาติอื่น ก็สมควรแล้วที่จะถูกประณามว่า “เป็นคนทรยศต่อชาติกำเนิดของตัวเองอย่างน่าอับอายที่สุด”

แม้ข้าวก็เช่นกัน เพราะเมืองไทยหาใช่มีข้าวเป็นพืชผลเกษตรเท่านั้น หากยังเป็นพืชทางวัฒนธรรม และเป็นจารีตประเพณีสืบทอดกันมานับร้อยปีพันปีก็ไม่น่าจะผิด ดังนั้นความรักในท้องนาของคนไทย จึงควรอยู่ในจิตใจของคนไทยทุกคนอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ถ้าคนไทยคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ได้ทำร้ายจิตวิญญาณการทำนา “ก็ย่อมเท่ากับทรยศต่อแผ่นดินถิ่นเกิดของตัวเอง”

ฉันนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อคืนนี้ฉันฝันเห็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้ชาติบ้านเมือง เพื่อเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้อยู่อย่างภาคภูมิใจ

ฉันตกใจตื่นขึ้นมา แล้วนึกถึงความฝัน ฉันจึงนั่งน้ำตาไหล นึกถึงเมื่อประมาณ ๒-๓ ปีมาแล้ว ตัวเองได้เดินทางผ่านจังหวัดพิษณุโลก ขึ้นไปถึงเชียงใหม่

เป้าหมายที่วางไว้คือเวียงแหง ซึ่งเป็นจุดประวัติศาสตร์ ซึ่งจะต้องเดินทางผ่านดอยเชียงดาว แล้วขึ้นภูเขาไปอีกร่วม ๘๐ กิโลเมตร ฉันขึ้นไปดูแล้วรู้สึกรำลึกถึงท่านอย่างสุดหัวใจ

ฉันได้เห็นที่ประทับแรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทยพม่า หลังที่พักดังกล่าว มีที่นอนของแม่ทัพจากกรุงศรีอยุธยา กับมีที่นอนของแม่ทัพไทยใหญ่อยู่อีกด้านหนึ่ง

จากบันทึกประวัติศาสตร์ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่พระองค์ท่านยาตราทัพมีรี้พลประมาณหนึ่งแสนคน แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงที่นั่นแล้วมีทัพไทยใหญ่เข้ามาร่วมด้วย รวมเป็นรี้พลประมาณสองแสนคน

ฉันพยายามค้นหาความจริงว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่ “ศรัทธาบารมี” แต่เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่ในสังคมไทยนิยมอำนาจและเงินตรา จนกระทั่งอาจกล่าวได้ว่า เงินซื้อวิญญาณความเป็นคนของคนไทยส่วนใหญ่ได้ไม่ยาก เพราะคนเดี๋ยวนี้แทบจะไม่รู้จักว่า ศรัทธาบารมีนั้นคืออะไร

การยกทัพของคนไทยในสมัยโบราณ จะส่งหน่วยเกษตรออกไปทำนาล่วงหน้า เพิ่อปลูกข้าวรอเอาไว้ สมกับภาษิตโบราณที่ว่า “กองทัพเดินด้วยท้อง”

แต่การที่มีข่าวมาว่า จะมีคนไทยแต่ใจเป็นทาส นำนายทุนต่างชาติเข้ามาทำนาในเมืองไทยนั้น จากสัจธรรมดังกล่าวน่าจะหมายความว่า “คนกลุ่มนี้กำลังคิดที่จะเข้ามายึดเมืองไทยเป็นเมืองขึ้น”

มีการปฏิเสธว่าการที่นำคนนายทุนชาติเข้ามาปลูกข้าวในเมืองไทยนั้นไม่เป็นจริง แต่ต้องการเทคโนโลยีจากเขา

ถ้ายังจำได้ว่าเมื่อประมาณห้าหกปีมาแล้ว มีผู้บริหารประเทศคนหนึ่ง ซึ่งต้องการขายที่ดินของตัวเองโดยนำเอาไต้หวันเข้ามาปลูกกล้วยไม้ในเมืองไทย เขาก็ได้ให้เหตุผลแบบนี้

จนฉันต้องอธิบายว่าเทคโนโลยีของแต่ละประเทศนั้นควรเป็นของตัวเอง ถ้าเมื่อไหร่คิดนำเอาเทคโนโลยีจากที่อื่นมาใช้บนพื้นฐานวัฒนธรรมของตน ก็เท่ากับนำชาติบ้านเมืองไปมอบให้กับเขาในที่สุด

อันที่จริงพื้นฐานการเกษตรของเราดีอยู่แล้ว สามารถก้าวไกลได้ทั่วโลก ถ้าเทคโนโลยีการเกษตรของเราไม่เหมาะสมแล้ว ทำไมคนโบราณจึงสามารถเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานให้เติบโตขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้ ส่วนคนที่ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก หลังจากกลับมาแล้วส่วนใหญ่ คิดอะไรก็มักเอาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ไปมอบให้กับต่างชาติเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่เช่นนั้นแล้วการจัดการศึกษาทางเลือกก็คงไม่เกิดขึ้น

ดังนั้น ใครที่พูดถึงบุญคุณคนในอดีตแล้ว ย่อมทำให้รู้ว่า “ไฮเทคไม่ช่วยให้คนในชาติอยู่รอด แต่ทำให้ตกเป็นทาสชาติอื่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์มากกว่า” แม้จะแก้ตัวยังไงมันก็ไม่หลุดจากเงื่อนปมที่คนรู้ทัน เพราะฉะนั้นโปรดอย่าดูถูกว่า คนอื่นเขาโง่กว่าตัว อย่างที่โบราณได้กล่าวเอาไว้ว่า “ยิ่งพูดไป มันก็ยิ่งเข้าตัวเองไปเรื่อยๆ”

เหตุการณ์ที่ผู้บริหารประเทศคนหนึ่งต้องการขายที่ของตัวเอง แล้วไปชวนไต้หวันเขามาปลูกกล้วยไม้นั้น มันยังคงอยู่ในความทรงจำของคนอย่างฉัน และใครต่อใครอีกหลายคนที่มีจิตใจมุ่งมั่นพัฒนาบ้านเมืองอย่างแท้จริง

เพราะฉะนั้นการนำเอาต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องกับการปลูกข้าวของคนไทย ไม่ว่าจะมาลงทุนทำนา หรือมาศึกษาหาความรู้ก็แล้วแต่ จริงๆ แล้วก็คือ “การชักศึกเข้าบ้าน”

ฉันนึกถึงสมัยที่กรุงศรีอยุธยากำลงใกล้จะแตก เป็นเพราะพระยาจักรีมีพฤติกรรมชักศึกเข้าบ้าน โดยที่คิดว่าตัวเองจะได้รับผลประโยชน์

แต่แท้จริงแล้วถ้ามองในมุมกลับ “ข้าศึกเข้ามาก็ไม่ใช่ว่าเขาโง่ หลังจากคนๆ นี้ทรยศต่อแผ่นดินถิ่นเกิดของตัวเอง ก็ย่อมไม่ปล่อยเอาไว้ จึงจับฆ่าในที่สุด”

ความจริงเราก็มีอุทาหรณ์เป็นตัวอย่างอยู่แล้ว แต่คนโลภโมโทสัน มักมีปัญญามืดบอด จนกระทั่งไม่สามารถมองเห็นภัยที่จะมาถึงตัวในภายหลัง

ฉันคงไม่ต้องแช่งชักหักกระดูกคนประเภทนี้ เพราะยังไงๆ ในที่สุดบาปกรรมก็ย่อมลงโทษตัวเองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงพ้น

ฉันพูดมาแล้วว่าฉันไม่ได้หมายถึงตัวบุคคล หากใครก็ตามมีนิสัยแบบนี้ก็ย่อมได้รับกรรมตามสนองอย่างเป็นธรรมชาติ

๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑

สวัสดีค่ะ

มาอ่านและมาเป็นกำลังใจให้ชาวนาไทยค่ะ

สวัสดีครับ

  • แวะมาทักทาย
  • และมาอ่านบันทึกครับ
  • ให้กำลังใจชาวนาซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ
  • ถ้ากระดูกสันหลังของชาติหัก จะทำอย่างไร...

...

... เชื่อมั่น ศรัทธา ท่านอาจารย์ระพี สาคริก ...

ร่วมกันเถิดพี่น้อง แม้เราเพียงแค่เสี้ยวหนึ่ง ฟันเฟืองหนึ่ง ก็ตาม

 ... ศักดิ์ศรี เกียรติ์ ความภาคภูมิ ที่ไทยเป็นไท สำคัญสุดค่ะ ..  

.... ขอบคุณค่ะ  ....

 

 

ขออนุญาตนำไปรวมในรวมตะกอนครับ ขอบคุณมากครับ.......................รวมตะกอน

ระบอบทุนกำลังคืบคลานเข้ามา โดยมีตัวแทน  กำลังกลืนกินชาติไทย

พฤติกรรมนี้ไม่ใช่เพิ่งจะมี แต่กำลังขยายตัวมากขึ้น จะมาปฏิเสธว่าเป็นการเหมาซื้อจากต่างประเทศ  มันเหมือนว่าจะไม่ใช่การครอบงำ แต่มันเป็น มันใช่

พวกเราร่วมแรงร่วมใจ ต่อต้านระบอบทุนแบบมีตัวแทนด้วยครับ  มันจะเข้าครอบงำถึงตลาดหลักทรัพย์ด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท