jeab_jung
นางสาว พิมพิมล ดอนผิวไพร

อาหารเป็นยา


อาหารที่นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาทางสุขภาพและช่วยส่งเสริมสุขภาพของคุณด้วยค่ะ

อาหารเป็นยา

อาหารเป็นยา เป็นคำที่ทราบกันดีในหมู่นักบริโภคเพื่อสุขภาพทั้งหลายซึ่งเราขอยกมือสนับสนุนเต็มที่ค่ะ เพราะอาหารที่คุณคุ้นเคยหลายชนิดซึ่งนอกจากจะอร่อยลิ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาทางสุขภาพและช่วยส่งเสริมสุขภาพของคุณด้วยค่ะ อันนี้นักวิจัยเขายืนยันมา และนี่ก็คือ 9 ยอดอาหารธรรมชาติที่ช่วยรักษาสุขภาพของคุณค่ะ
1. บร็อคโคลี่
แชมเปี้ยนผักในตระกูลกะหล่ำที่เป็นที่นิยมของนักบริโภคทั่วโลกบร็อคโคลี่มีประโยชน์ดังนี้ค่ะ
 
- ช่วยป้องกันมะเร็ง
 - อุดมด้วยวิตามินซี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ในร่างกาย และยังช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรงอีกด้วยค่ะ
 - ประกอบด้วยสาร glutathione ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดไขข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคหัวใจ และนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ลดระดับคลอเลสเตอรอล และช่วยลดความดันโลหิตสูงค่ะ
 - ป้องกันการเกิดต้อกระจก เนื่องจากบร็อคโคลี่ จะมีสารเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะสาร lutein ค่ะ

ขนาดรับประทาน : บร็อคโคลี่ 1/2 ถ้วย ต่อสัปดาห์ ก็จะดีต่อสุขภาพของคุณ

2. กระเทียม
ช่วยลดคลอเลสเตอรอล มีฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินในการช่วยป้องกันการแข็งตัวและการอุดตันของหลอดเลือด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้เหมือนกับยาเพ็นนิซิลิน โดยเฉพาะเวลาที่เจ็บคอ สามารถใช้กระเทียมรักษาได้ดีค่ะ และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ในการช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมอีกด้วยค่ะ

ขนาดรับประทาน : การป้องกันโรคหัวใจรับประทานวันละ 1 กลีบ และโดยทั่วไป ก็แนะนำให้รับประทานกระเทียมเป็นประจำทุกวันแล้วแต่ปริมาณที่คุณชอบค่ะ
3.ถั่วแดง

เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารสูงมากค่ะ ดังนั้นจึงช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ค่ะ อุดมด้วยกรดโฟลิค ที่ช่วยบำรุงโลหิต ป้องกัน ความผิดปกติของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ polyphenolics ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ดีอีกด้วยค่ะ

ขนาดรับประทาน : ควรรับประทาน 1 ถ้วย / วัน ค่ะ

4. นมพร่องมันเนย
เป็นแหล่งของแคลเซี่ยมสูงที่ปลอดไขมัน ซึ่งป้องกันภาวะกระดูกพรุนและยังประกอบด้วยสารโปรตัสเซี่ยมและแมกเนเซี่ยม ที่ออกฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตสูงค่ะ

ขนาดรับประทาน : คนวัยหนุ่มสาวต้องการแคลเซี่ยมวันละ 1000 mg ค่ะ ส่วนวัยสูงอายุจะต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 1500 mg /วัน จึงจะเพียงพอค่ะปัจจุบันมีนมพร่องมันเนยแคลเซี่ยมสูงจำหน่ายอยู่ทั่วไป เลือกดื่มได้ตามปริมาณที่แนะนำนะคะ


5. ส้ม
ยอดผลไม้ที่มีปริมาณวิตามิน ซี สูง เส้นใยอาหารสูง รวมทั้งสารอาหารชนิดอื่นๆ ซึ่งช่วยป้องกันหวัด ลดระดับคลอเลสเตอรอล ช่วยในการสร้างกระดูก ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ตลอดจนช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้สาร phytochemicals ในส้มยังช่วยต่อต้านมะเร็งเต้านมด้วยค่ะ

ขนาดรับประทาน : ควรรับประทานส้มวันละ 1-2 ผล เป็นประจำทุกวัน


6. ปลาแซลมอน
มีปริมาณน้ำมันปลาที่เรียกว่า Omega-3s ค่อนข้างสูง ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยควบคุมอาการไขข้ออักเสบ นอกจากนี้น้ำมันปลายังช่วยลดอาการปวดรอบเดือน กลุ่มอาการก่อนมีรอบเดือนรวมทั้งช่วยระงับอาการซึมเศร้าได้ด้วยค่ะ

ขนาดรับประทาน : รับประทานสัปดาห์ละ 3 ออนซ์

7. เต้าหู้
หนึ่งในอาหารชั้นเลิศที่ควรเลือกรับประทานค่ะ ช่วยลดระดับไขมัน คลอเลสเตอรอล อุดมด้วยสาร Isoflavone สารเอสโตรเจนธรรมชาติจากพืช ป้องกันกระดูกพรุน ป้องกันมะเร็งเต้านม และยังช่วยให้ไตทำงานได้ดีด้วยค่ะ

ขนาดรับประทาน : 30-50 mg ของ Isoflavone / วัน หรือเท่ากับปริมาณ
เต้าหู้ 1/2 ถ้วย/วัน ซึ่งมี Isoflavone 35 mg.


8. ซอสมะเขือเทศ
นอกจากจะสุดอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายค่ะ เช่น ป้องกันมะเร็ง ลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร สาร lycopene ในมะเขือเทศเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ พบมากในเฉพาะมะเขือเทศเท่านั้น ในผักผลไม้ชนิดอื่นจะมีlycopene น้อยค่ะ สาร lycopene มีคุณสมบัติ กำจัดสารอนุมูลอิสระตัวอันตรายให้ออกไปจากร่างกายของคุณ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งแล้ว ยังช่วยให้คุณห่างไกลความร่วงโรยอีกด้วยละค่ะ น่าสนมั้ยละคะ...

ขนาดรับประทาน : รับประทานได้ตามใจชอบเป็นประจำทุกวันค่ะ

9. น้ำ
ร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ จึงจำเป็นที่คุณควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะน้ำคือยาอันมหัศจรรย์ทีเดียวค่ะ หากดื่มน้ำได้เพียงพอ จะช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย ตะคริว รักษาระดับอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันการเกิดนิ่ว และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสค่ะ ฉะนั้น ควรจะดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วและถ้าคุณสามารถดื่มได้มากกว่านี้ก็นับว่าเป็นกำไรของคุณค่ะ

ขอขอบคุณข้อความดีๆ จาก  http://www.horapa.com

หมายเลขบันทึก: 184088เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2008 12:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท